ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ลดความตระหนี่ด้วย การให้ทาน  (อ่าน 926 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29352
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ลดความตระหนี่ด้วย การให้ทาน
« เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2018, 06:34:17 am »
0


ลดความตระหนี่ด้วย การให้ทาน

จากบทความ 10 ทางเลือกในการทำบุญ หรือมรรควิธีในการทำบุญ 10 นั้น ข้อแรกกล่าวถึงการทำบุญด้วยการ“แบ่งปัน” วัตถุ สิ่งของ ปัจจัยสี่ หรือที่เรียกว่าการ ให้ทาน นับเป็นการเสียสละให้แก่ผู้อื่นหวังให้ผู้อื่นมีความสุขด้วยเมตตาจิตของผู้ให้ การทำทานจึงช่วยให้ผู้ให้ทานนั้นมีจิตใจที่สะอาด โดยทานแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

    1. อามิสทาน คือ การให้ปัจจัย 4 ได้แก่ สิ่งของ เครื่องเลี้ยงชีพ รวมถึงการบริจาคอวัยวะ และสละชีวิต
    2. อภัยทาน คือ ให้ความไม่มีภัย ให้ความปลอดภัย ช่วยคุ้มครองป้องกันเมื่อมีภยันตราย
    3. ธรรมทาน คือ การให้ธรรมะ ให้ความรู้ คำแนะนำ ที่ก่อให้เกิดปัญญา พระพุทธองค์ตรัสว่า “การให้ธรรมะย่อมชนะการให้ทั้งปวง”

การให้ทานจะมีอานิสงส์สูง เมื่อมีเจตนาหรือใจที่เป็นกุศลครบทั้ง 3 กาล คือก่อนให้ มีความตั้งใจดี ตั้งใจทำ ขณะให้ มีความปรารถนาดี ดีใจที่ได้ให้ และเมื่อให้แล้วเกิดความภูมิใจในทานที่ให้ไปว่ามีประโยชน์ต่อผู้รับ เป็นสุขเมื่อนึกถึงความสุขของคนที่ได้รับ


@@@@@@

พระไพศาล วิสาโล กล่าวถึงเรื่องเล่าในพระไตรปิฎกที่เกี่ยวกับการให้ทานเรื่องหนึ่งว่า นางทาสีคนหนึ่งชื่อปุณณทาสี ฐานะยากจนมาก แต่เห็นพระพุทธเจ้าแล้วมีจิตศรัทธาเลื่อมใส อยากถวายอาหารแก่พระพุทธเจ้า แต่นางยากจนมาก จึงไม่มีอะไรจะถวาย นอกจากข้าวจี่ นางจึงตั้งใจตำข้าวแม้เวลาดึกดื่น ขณะนั้นได้มองไปที่ภูเขาใกล้ๆ ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าและพระสาวกประทับอยู่ เห็นมีแสงสว่างจึงนึกไปว่าท่านทำอะไรกันอยู่ ในขณะที่ตัวนางเองต้องทำงานดึกๆ ดื่นๆ นึกไปว่าพระพุทธองค์และพระสาวกคงมีทุกข์เช่นเดียวกัน

พอรุ่งเช้าพระพุทธเจ้าเสด็จมา นางก็ถวายข้าวจี่ที่มีอยู่เพียงปั้นเดียวนั้น ระหว่างที่ให้ก็ถวายด้วยความศรัทธามีความตั้งมั่นในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้บรรลุธรรม เมื่อถวายแล้วก็เกิดปีติยินดีที่พระพุทธเจ้าฉันอาหารนั้น

     @@@@@@@

     เมื่อพระพุทธองค์ฉันอาหารแล้วจึงตรัสกับนางว่า พระองค์ทรงทราบถึงเรื่องที่นางสงสัยเมื่อคืนขณะทำข้าวจี่ จึงตรัสว่าที่นางมองเห็นว่าพระไม่หลับไม่นอนนั้น ไม่ใช่เพราะมีทุกข์แต่ท่านเหล่านั้นบำเพ็ญเพียรเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ จากนั้นก็ตรัสว่า
     “สำหรับผู้ตื่นอยู่เสมอ ใฝ่ศึกษาทุกค่ำคืน มีใจน้อมสู่พระนิพพาน อาสวะย่อมหมดสิ้นไป”
      พอตรัสจบ นางก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน

นางปุณณทาสีเพียงแค่ถวายข้าวจี่ก้อนเดียว แต่เนื่องจากได้ถวายแก่พระพุทธเจ้าด้วยศรัทธาเต็มหัวใจ จึงบรรลุธรรมถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการถวายทานที่มีใจเป็นกุศลครบทั้ง 3 กาล



ข้อมูลจาก หนังสือสร้างพลังบุญ โดยพระไพศาล วิสาโล สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/55036.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2018, 06:28:56 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ