พิมพ์

[ธัมมะวังโส]

เครดิต ภาพ พิชชา

คนปุถุชน ที่ใช้ ชีวิต คลุกเคล้าด้วย โลกธรรม 8 มี กิน กาม เกรียติ เป็นเครื่องล่อ ย่อม เหมือน เหรียญ ที่กำลังหมุน จะล้มไปตอนไหน ก็กำหนดไม่ได้ เวลาที่เหรียญหมุน จึงบอกความแน่นอนไม่ได้ นอกจากหมุนเป็น หมุนจากด้านใด ก็ไปด้านนั้น ดังนั้น
บางครั้งก็ชั่ว ก็ต้องตกอบาย เดือดร้อน ด้วยอบายภูมิ 4
บางครั้งก็ดี ก็ได้ เทวโลก พรมหโลก เป็นที่หมาย
บางครั้งก็เป็นกลาง ก็รับทั้งสองอย่างแต่เอาจะแบบไหน

แต่ พระอริยะตั้งแต่ พระโสดาบัน ขึ้นไปนั้น ท่านเป็นเหรียญที่ล้มแล้ว ล้มไปทางด้านกุศล ด้านดีเท่านั้น

การอุบัติของพระพุทธเจ้า ใช้เวลายาวนาน เป็น กัป์ ใน กัปนี้ ชื่อว่า ภัทรกัป มี พระพุทธเจ้าถึง 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าปัจจุบัน เป็นองค์ที่ 4 ซึ่งอีกหลาย อสงไขย จะได้พระพุทธเจ้า องค์ที่ 5 มาอุบัติ

วันวิสาขบูชา จึงเป็นสัญลักษณ์ ของการอุบัติ และ การตั้งอยู่ และการดับไป ของพระพุทธเจ้า

การอุบัติ เป็น อุปัชชะ หรือ อุปัตติ คือเกิดขึ้น
การตรัสรู้ เป็น ฐีติ หรือ ระหว่างการดำรงอยู่
การดับขันธปรินิพพาน เป็น ภังคะ หรือ การเสื่อมสลาย และแตกดับ

พระพุทธเจ้า ทรงตรัสแสดง ว่า สิ่งที่พระองค์ ตรัสรู้ก็คือ อริยสัจจะ ซึ่งในอริยสัจจะ 4 นั้น สิ่งที่พระองค์ ทรงแสดงบ่อยในเทศนา ก็คือเรื่อง ทุกข์
และพระองค์ก็จำแนกว่า ทุกข์ ก็คือ เวทนาขันธ์
และสรุปรวบยอดว่า ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ ทั้ง 5 เป็นตัวทุกข์

ขอให้ท่านทั้งหลาย จงตระหนักในความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป นี้เถิด เพราะจะทำให้พวกท่าน รู้จักหนทางที่พระพุทธเจ้า ตรัสแสดงไว้ ด้วยคำว่า มรรค เป็นข้อปฏิบัติ เพื่อพ้นจากความทุกข์ แล

ถึงแม้หลายคน อาจจะไม่ได้ ไปทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียนในวันสำคัญ เพราะไม่มีโอกาส ด้วย ฐานะ ด้วยเวลา ด้วยความเป็นอยู่ แต่การได้เจริญธรรม ภาวนาชื่อว่า มรรค ก็คือ ปฏิบัติบูชา ต่อ องค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แน่แท้ ชัดยิ่ง

ขอให้ทุกท่านจงมีดวงตาเห็นธรรม
จงถึงความสวัสดี ในกาลทุกเมื่อเทอญ

เจริญธรรม / เจริญพร

[นิรตา ป้อมนาวิน]