ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำนาน "ลานสาง" ที่พระเจ้าตากทรงแสดงอภินิหาร ทหารพม่าถึงกับ หมอบกราบอยู่รอบๆ  (อ่าน 1228 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

แสงเปล่งออกจากพระวรกาย.!! เปิดตำนาน "ลานสาง" ที่พระเจ้าตากทรงแสดงอภินิหาร ทหารพม่าถึงกับหมอบกราบอยู่รอบๆ.!!

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระนามเดิมว่า สิน เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรธนบุรี และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวของราชอาณาจักรนั้น เดิมพระองค์เป็นนายทหารในรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์

ต่อมา พ.ศ. 2310 เกิดการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ต่อมาได้เป็นผู้นำขับไล่ทหารพม่าที่ยึดครองกรุงศรีอยุธยาอยู่ในเวลานั้น ปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาอีกเจ็ดเดือนถัดมา พระองค์ย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงธนบุรี และรวบรวมแผ่นดินซึ่งมีขุนศึกก๊กต่าง ๆ ปกครองให้กลับเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง เช่นเดียวกับการขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง



สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นับได้ว่า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ยอดนักรบเลยก็ว่าได้ แทบจะตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ทรงกระทำศึกสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน ด้วยพระองค์ทรงเป็นมหาบุรุษ ผู้ทรงมีพระบารมีอย่างสูงส่ง สำหรับพระเจ้าตากสินฯ พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีบุญญาธิการสูงยิ่ง หลายคนเคยได้ฟังเรื่องราวปาฏิหาริย์ของพระองค์มานับไม่ถ้วน

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งที่พระเจ้าตากทรงยกทัพไปตีหัวเมืองเชียงใหม่ พระองค์ได้ทรงออกขับไล่ทหารพม่าแล้วพลัดหลงกับกองทัพ จนรุ่งสางได้เกิดแสงสว่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและมีเสียงม้าศึกร้องขึ้นกลางป่า เมื่อทหารที่ออกติดตามไปทันก็พบสมเด็จพระเจ้าตากสินประทับนั่งอยู่บนหลังม้ากลางลานหิน และมีแสงสว่างเปล่งออกมาจากพระวรกาย ส่วนทหารพม่านั้นหมอบราบอยู่รอบๆ บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "ลานสาง" และบริเวณลานหินหรือน้ำตกลานเลี้ยงม้านั้นก็ยังปรากฏรอบเกือกม้าของพระองค์อยู่จนทุกวันนี้



สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ครองราชย์ 15 ปี พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ของชาติไทยที่ประชาชนคนไทยรู้จักดีที่สุด และเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่มีพระบรมราชานุสรณ์มากที่สุด นอกจากนี้ ยังทรงฟื้นฟูราชอาณาจักรในด้านต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทั้งส่งเสริมกิจการด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา ภายหลังรัฐบาลไทยประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" และยังทรงได้รับสมัญญานามมหาราช


ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค หอจดหมายเหตุ ฯ วัดบางเดื่อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา (คุณหนุ่ม บางเดื่อ)
เรียบเรียงโดย เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ
ขอบคุณที่มา : http://www.tnews.co.th/contents/468669
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2018, 05:59:38 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ