ถ้าจะให้ทันสถานการณ์ ก็ต้อง พัฒนาสติ ให้มากขึ้น แต่ สติ และ สมาธิ เป็นสิ่งที่เนื่องด้วยกัน
ถ้าขาดสมาธิ สติ ก็จะไม่ทัน ถ้ามีแต่ สติ ไม่มี สมาธิ ก็ไม่ได้อีก
ดังนั้นต้องพัฒนา สติ และ สมาธิ ไปด้วยกัน
ถามแล้วปัญญา ต้องพัฒนาไหม ตอบว่าไม่ต้อง
เพราะอะไร จึงไม่ต้องพัฒนา ปัญญา
เพรา่ะว่า ปัญญา อันเกิดจากปรุงแต่งขึ้นมาด้วยจิต นั้นไม่สามารถดับกิเลสได้
เปรียบเหมือนกับที่เรารู้ตัวว่า กระสับ กระส่าย ก็ไม่ดีเป็น โทษแต่ใจก็ไม่สามารถ หยุดความกระสับกระส่าย
นั้นลงได้ ถามว่ารู้ด้วยปัญญาไหมไหม ก็ตอบว่ารู้ แต่อันนี้เป็นปัญญา อันจากเกิดจากปรุงแต่ง
ปัญญา ส่วนนี้ควรมีในเบื้องต้น
แต่ ปัญญา ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสจริง ๆ นั้น คือ การรู้แจ้งเห็นตามความเป็นจริง เพื่อการปล่อยวาง
อันนี้เรียกว่า ญาณ วิปัสสนา วิชชา เป็นต้น เพราะพ้นจากการปรุงแต่ง
สรุป ต้องพัฒนา สติ และ สมาธิ คู่กัน คำตอบที่แท้จริงก็ได้เอง
การปฏิบัติที่แท้จริง ไม่ต้องลงสนามแห่งความทุกข์ เหมือนแนววิปัสสก หรอกนะจ๊ะ ไม่ต้องหมดสิ้นเนื้อประดาตัวเหมือน อรหันตสาวิกา ปฏาจารา เพียงแต่เข้าใจรู้เห็นตามความเป็นจริง ว่าทุกข์เป็นอย่างนี้ สมุทัยเป็นอย่างนี้ นิโรธ เป็นอย่างนี้ และ มรรคเป็นอย่างนี้
เจริญธรรม