ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ท้าทายโลก 4.0 พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง (สจล.) เปิดสอนโหราศาสตร์  (อ่าน 1075 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29432
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ท้าทายโลก 4.0 พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง (สจล.)เปิดสอนโหราศาสตร์

“ทีช ทอล์ค ทัวร์ สเตชัน” ep 37 พาไป สจล.ดูความกล้า ท้าทายโลก ยุค 4.0 ด้วยการเปิดสอนวิชาโหราศาสตร์ ให้เป็นทางเลือกให้แก่นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์

ในยุคที่ “นวัตกรรม” และ “เทคโนโลยี” กำลังมาแรง ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาและสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมโลกให้มีความก้าวหน้าและพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้น  จะมีใครเชื่อว่า สถาบันอุดมศึกษาชื่อดังอย่างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  หรือ สจล. จะกล้าท้าทายความก้าวหน้า ยุค 4.0 ด้วยการเปิดสอนวิชาโหราศาสตร์ ให้เป็นทางเลือกให้แก่นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์  ซึ่งพบว่าได้รับความสนใจจากนักศึกษาอย่างน่าแปลกใจ


@@@@@@

วันนี้ รายการ “ทีช ทอล์ค ทัวร์ สเตชัน” โดยทีมข่าวการศึกษา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ จะพาไปดูและฟังเหตุผลกันถึง สจล.  โดย ดร.อำภาพรรณ ตันตินาครกูล ผู้อำนวยการสำนักวิชาศึกษาทั่วไป  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล.  บอกว่า  ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดให้มีการจัดการเรียนการสอนวิชานี้ โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาศึกษาทั่วไป ซึ่งเป็นวิชาเลือก นั้น ทางสำนักวิชาฯ ได้รับนโยบายจาก ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล. โดย ให้ไปดูว่า รอบโลกเป็นอย่างไร  มีวิชาอะไรใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่เด็กบ้าง   

ทางสำนักวิชาฯก็ไปทำการบ้านแล้วเห็นว่า มหาวิทยาลัยในต่างประเทศมีการเปิดสอนโหราศาสตร์กันมานานแล้ว  ซึ่งเมืองไทยก็น่าจะทำได้ เพื่อให้เด็กได้เข้าใจและเรียนรู้ตัวตน ที่สำคัญให้เด็กคิดเป็น และมีวิจารณญาณในการคิด ไม่ใช่เชื่อเรื่องงมงาย  จึงคิดว่าน่าจะเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่อยู่ในความสนใจ และเด็ก ๆ ก็น่าจะอยากรู้  และน่าจะเป็นความรู้ใหม่อีกแขนงหนึ่งสำหรับเด็กได้

@@@@@@

จากการสัมภาษณ์อาจารย์ผู้สอน ก็ทราบว่า เป็นเรื่องของหลักวิชาการ  ทางสถิติ ซึ่งมีการเก็บและรวบรวมสถิติมาอย่างยาวนาน ถ้าเด็กได้เรียนวิชานี้จะได้ฝึกคิดอย่างเป็นระบบ เพราะวิชานี้อยู่ในกลุ่มของศาสตร์แห่งการคิดเป็นวิชาบูรณาการ ที่ดึงความสนใจของเด็กไปอยู่ที่เรื่องที่มีความน่าสนใจ  เพราะเป็นเรื่องของตัวเลข ดวงดาว และหลักคิดที่ได้จากการรวบรวมในเชิงสถิติแล้วถ่ายทอดออกมาในแง่ของการผูกดวงชะตาอย่างมีหลักการ

“ในการเรียนเด็กจะได้ลงมือคิดคำนวณคิดวิเคราะห์จากองค์ประกอบของดวง ที่สำคัญ ฝึกคิดไตร่ตรองทำให้มีทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณว่า เรื่องของดวงดาวกับเรื่องของอนาคตจะมีความเป็นไปได้อย่างไร เป็นการคิดอย่างมีกระบวนการและมีองค์ความรู้ที่ดี  เป็นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ  ซึ่งสุดท้ายแล้วเด็กจะได้รู้ว่าผลของการคิดอย่างมีวิจารณญาณเป็นอย่างไร 

การที่มหาวิทยาลัยเปิดสอนวิชานี้ไม่ใช่เอาเรื่องความงมงายมาสอนเด็ก  แต่เพราะวิชาศึกษาทั่วไป เป็นวิชาที่สอนให้เด็กเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความเป็นคนที่รู้รอบด้าน มีองค์ความรู้หลากหลาย  เพื่อให้อยู่กับโลกปัจจุบันได้ และ เติบโตเป็นบุคลากรที่มีความสามารถเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมโลกได้  เพราะฉะนั้นเทรนด์ความรู้อะไรที่เกิดมา และเป็นประโยชน์กับเด็กทางสำนักวิชาก็พยายามจะนำเสนอให้เด็กได้เรียน ซึ่งก็พบว่าเด็กให้ความสนใจลงเรียนมากกว่า 100 คน จนต้องแบ่งเป็น 2 ห้อง”ดร.อำภาพรรณทิ้งท้าย   


@@@@@@

ด้าน อ.ธาตรี เทียมทอง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์วิทยา  กล่าวว่า  วิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาทางสถิติผนวกกับเรือนชะตา  สิ่งที่นำมาสอนก็เป็นเรื่องของสถิติที่มีการเก็บสั่งสมกันมาแต่โบราณ  โดยวิชาที่สอนจะเป็นวิชาพื้นฐานง่าย  ๆ  คือ วิชาคัมภีร์มหาสัตตเลข เป็นเรื่องของเลข 7 ตัว  วิชาโหราศาสตร์ไทยเป็นของการตั้งดวง  และ  วิชาเลขศาสตร์เป็นเรื่องของตัวเลขที่ใช้กับบ้านเลขที่ เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น โดยหลักในการสอนจะเน้นเรื่องของสถิติและหลักวิชาการ ไม่เน้นเรื่องความเชื่อ หรือความงมงาย  สิ่งสำคัญถ้านักศึกษาได้เรียนและนำไปใช้จะเป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตได้

“คนที่เรียนจะรู้ว่า ดาวแต่ละดวงมีความหมายอย่างไร แทนเรื่องราวอะไรได้บ้าง  ยังมีเรื่องของเรือนชะตาที่จะบ่งบอกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้  เมื่อประสมกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งจะสามารถใช้เป็นหลักในการบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า สามารถเตือนให้ระมัดระวัง หรือมีสติในการดำเนินชีวิตได้เช่นกัน   เด็กบางคนเรียนไปยังไม่ทันจบหลักสูตรก็สามารถเอาไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ได้แล้ว”

อ.ธาตรีกล่าวและว่า จริง ๆ ต่างประเทศมีสอนในสถาบันการศึกษากันมานานแล้ว  อย่างที่ อินเดีย อังกฤษ เยอรมนี  แต่ของประเทศเราเพิ่งเริ่มต้น  แต่ก็เป็นนิมิตรที่ดีเด็กยุคใหม่ให้ความสนใจ ซึ่งจะช่วยให้วงการโหราศาสตร์พัฒนาขึ้นได้ เพราะจะมีการเก็บสติถิใหม่ ๆ และมีตำราใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีก รวมถึงจะมีนักโหราศาสตร์ ซึ่งก็คือ นักบำบัดจิตใจ นักปลอบโยน  เป็นผู้แนะนำ เป็นที่ปรึกษาที่ดี เกิดขึ้นอีก เพราะนักโหราศาสตร์จะใช้สถิติให้เป็นประโยชน์ในการบอกกับคนที่เข้ามาหาและแนะนำให้ระมัดระวังเรื่องต่าง ๆ ได้



ลองมาฟังน้อง ๆ นักศึกษากันบ้าง ทุกคนเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงสนใจลงเรียนวิชาโหราศาสตร์กัน เริ่มกันที่ น้ำ น้ำฝน จักขุจันทร์  บอกว่า สนใจ  เพราะเป็นวิชาที่แปลกใหม่ ไม่เคยได้ยินว่ามหาวิทยาลัยไหนเปิดมาก่อน  ที่เรียนมาก็ไม่ได้งมงาย เพราะอิงจากหลักสถิติ  เป็นเรื่องความน่าจะเป็น มีทั้งจริงและไม่จริง อยู่ที่วิจารณญาณ  ก็ลองไปดูให้เพื่อนแล้ว  เพื่อนก็ว่าแม่นบ้าง

ธนากร  สะสูรย์ หรือ อู๋ บอกว่า หลังจากเรียนจนรู้หลักการแล้วเอาไปประยุกต์ใช้ก็ค่อนข้างตรงประมาณ 60-70%   ทำให้เรารู้ว่าจะเกิดอะไร จะมีอุบัติเหตุอะไร อย่างน้อยเราก็จะได้เตรียมตัวไว้ก่อน  ถ้าถามว่างมงายหรือไม่ ตอนแรกก็คิดว่างมงาย  เพราะผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้  แต่พอได้เรียนก็เห็นว่าเป็นเรื่องของสถิติจริง  ก็ทำให้เราเปลี่ยนความคิดแล้วมาศึกษาจริงจังมากขึ้นก็รู้ว่ามีส่วนที่ตรง และส่วนไหนไม่ตรง  อีกอย่างก็สอนให้เรารู้ว่าควรต้องระมัดระวังอะไรช่วงไหน  เรียนก็รู้สึกว่าดี เอาไปเป็นอาชีพเสริมได้  รับดูก็มีรายได้  ตอนนี้มีเงินสะสมส่วนหนึ่งแล้ว  โดยจะบอกคนที่มาให้เราดูว่าถ้าแม่นก็ส่งเงินมาถ้าไม่แม่นก็ไม่ต้องส่งมา  ซึ่งส่วนมากก็ส่งมา 


@@@@@@

ขณะที่  ธิยารัตน์ ธนากูลอิทธิพัทธ์ (จูเนียร์) บอกว่า  ที่เลือกเรียนวิชานี้ เพราะสะดุดที่ชื่อวิชา และเป็นวิชาที่ต้องไปหาเรียนข้างนอก แต่นี่โอกาสเข้ามาถึงแล้วก็เลยลองเรียนดู  เราเป็นเด็กวิศวะแล้วมาเลือกเรียนวิชานี้บางคนอาจะมองเป็นเรื่องงมงาย แต่หนูไม่มองอย่างนั้นเพราะเป็นความเชื่อของแต่ละคน  เค้าไม่ได้บังคับว่าต้องเชื่อ  พอเรียนไปแล้วก็รู้สึกสนุกเพราะเป็นอะไรที่แปลกใหม่  ทำให้เรารู้ล่วงหน้าว่าควรจะทำอะไร เมื่อไหร่ เวลาไหน  ซึ่งเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต   หลังจากเรียนแล้วพอมีความรู้บ้างก็ไปทดลองดูเบอร์โทรศัพท์ให้แม่ ให้น้องเค้าก็เชื่อ เพราะเบอร์เดิมของแม่ตัวเลขไม่ดี พอเปลี่ยนแล้วการงาน การเงินดีขึ้น ส่วนพ่อตอนแรกไม่เอาเรื่องนี้เลย แต่พอแม่เปลี่ยนแล้วดีขึ้น พอก็อยากลองบ้าง พอเปลี่ยนแล้วก็ดีขึ้นจริง

สำหรับ เบสท์  ธนารัชฏ จวนจรูญ  บอกว่า ที่มาเรียนก็ด้วยความสงสัย เพราะผมเป็นสายวิทย์จ๋า  ผมเชื่อในวิทยาศาสตร์มาก และก็สงสัยว่าทำไมถึงมีศาสตร์นี้ขึ้นมา  ก็เลยเข้ามาเรียน  ทำให้รู้ว่าเป็นการใช้ตัวเลข สถิติ ในการให้เหตุผลในการดู  ซึ่งก็ค่อนข้างตรง และจากที่เอาไปทดลองดูให้เพื่อน เพื่อนก็บอกว่าตรง  ซึ่งก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันว่าทำไมถึงตรง  ก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์   

@@@@@@

ติดตามชมรายการ “ทีช ทอล์ค ทัวร์ สเตชัน” ย้อนหลังผ่านช่องทาง YouTube: DailyNews Live-TH หรือ ชมสดทุกวันพฤหัสบดี  เวลา 11.30 – 12.00 น.   

ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/wkPLZC9934o



ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/education/678331
ศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2561 เวลา 08.58 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 23, 2018, 10:10:29 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ