ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม.? หลวงพ่อคูณ “ชอบนั่งยองๆ”  (อ่าน 2631 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29483
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ทำไม.? หลวงพ่อคูณ “ชอบนั่งยองๆ”
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2018, 07:07:41 am »
0


ขอบคุณภาพจากhttps://hilight.kapook.com/view/137950


ทำไม.? หลวงพ่อคูณ “ชอบนั่งยองๆ”

วาสนา เป็นทั้งบาลีและสันสกฤต อ่าน “วา-สะ-นา” ไทยเราอ่านเพื่อให้เข้ากับหูไทยๆ ว่า “วาด-สะ-หนา” ความหมายเดิมเขาหมายถึง “สิ่ง” ที่สั่งสมอยู่ในจิตสันดานยาวนานมาก นอนเนื่องอยู่ภายในจิตเราแน่นแฟ้นและลึกมาก จนแกะไม่ออก เทียบกับคำไทยว่าสันดาน นั่นแหละครับ

ในทางพระพุทธศาสนา "วาสนา" มิใช่เรื่องดีนัก ว่ากันว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทรงละวาสนาได้ พร้อมกับกิเลสทั้งปวง พระอรหันต์นั้นละได้เฉพาะกิเลสเท่านั้น ไม่สามารถละวาสนาได้ ว่ากันอย่างนั้น

     แต่ “วาสนา” ในความหมายไทยๆ กลับเป็นเรื่องดี คือหมายถึง "บุญญาบารมี" 
     บางทีก็พูดควบคู่กันว่า “บุญวาสนา”
     ใครที่ประสบความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต คนเขากล่าวขวัญถึงว่า….
    “เขา(หรือเธอ) มีบุญวาสนา” หรือ “เป็นวาสนาของเขา (หรือเธอ) นะ” อะไรทำนองนี้


@@@@@

ตัวอย่างในสมัยพุทธกาล ที่แสดงถึงอิทธิพลของวาสนา คือ เรื่องพระปิลินทวัจฉะ ท่านผู้นี้มีคำพูดติดปากว่า “วสลิ” (แปลว่า ไอ้ถ่อย) พบใครก็จะถามว่า “ไปไหนมา ไอ้ถ่อย” “สบายดีหรือ ไอ้ถ่อย” อย่างนี้เสมอ

คำพูดดูจะเป็นคำหยาบ ไม่สุภาพ แต่จิตใจท่านมิได้หยาบไปด้วย ท่านพูดด้วยจิตเมตตา เป็นคำพูด “ติดปาก” ท่าน แก้ไม่หาย ชาวบ้านที่รู้ว่าอะไรก็ไม่ถือสาท่าน ยกให้ท่าน นอกจากคนต่างถิ่นเท่านั้น ที่ได้ยินเข้าอาจฉุนว่าพระอะไร (วะ) พูดคำหยาบ แต่เมื่อทราบความจริงแล้วก็มิได้ถือสา

@@@@

คงเหมือนกับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เมืองโคราชกระมังครับ ท่านก็ติดคำ “กู”-“มึง” เวลาสนทนา หลวงพ่อคูณนั้นเป็นที่รู้กันว่า ท่านเป็นพระมีเมตตามาก คนเขาเอาเงินเอาทองมาถวายเท่าไร ท่านก็นำไปสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลและสาธารณสถานหมด ไม่เก็บไว้ร่ำรวยจนเป็น “พระเสี่ย” เหมือนดังเกจิดังอื่นๆ

ท่านพูดกูมึงกับใคร ก็ไม่มีใครถือว่าเป็นคำหยาบ กลับฟังแล้วน่ารักเสียอีก ตรงกันข้ามถ้าหลวงพ่อคูณท่านเปลี่ยนมาพูดคำไพเราะกับใครเข้า ใครคนนั้นคงตกใจ นึกว่าหลวงพ่อด่าแน่นอน อิอิ..


@@@@@@

คำพูด "กู-มึง"ของหลวงพ่อคูณเป็น “วาสนา” ที่แก้ไม่หาย วาสนาอีกอย่างของท่านที่แก้ไม่ได้ คือ "นั่งยองๆ" ท่านไม่ชอบนั่งพับเพียบเหมือนพระภิกษุทั่วไป

      เมื่อมีคนถามว่า "ทำไมหลวงพ่อชอบนั่งยองๆ.?"
      หลวงพ่อตอบว่า "กูไม่ชอบดอก ไอ้หลานเอ๊ย มันนั่งของมันอย่างนี้เอง"
      เมื่อถามอีกว่า "นั่นสิครับหลวงพ่อ ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้.?"
      หลวงพ่อตอบด้วยสำเนียงชาวโคราชว่า...
     “กูว่า มันเป็นท่าเตรียมพร้อม คือ กูจะลุกยืนก็ลุกได้ทันที กูจะนั่งพับเพียบก็นั่งได้ทันที นั่งยองๆ นี่ก็มันดีแท่ๆ เด๊”



เรียบเรียงจากคอลัมน์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก เรื่อง : “วาสนา” มีจริงหรือไม่.? แล้วคืออะไรในทาง “พุทธ”.?
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก ,เผยแพร่ : วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2561
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24-30 สิงหาคม 2561
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก : https://www.matichonweekly.com/column/article_129513
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ