« เมื่อ: ธันวาคม 12, 2018, 06:06:25 am »
0
‘ปล่อยนก-ปล่อยปลา’ ที่เขาขาย ‘ได้บุญ’ หรือ ‘สนับสนุนบาป’ .?“คัจเฉวะ โข ตะวัง ตะระมานานะรูโป มา ตัง อะมิตตา ปุนะ อัคคะ เหสุง ทุกโข หิ ลุทโทหิ ปุมา สะมาคะโม อัทสะนัง โภชะปุตตานัง คัจฉะฯ”
“ข้าพเจ้าขอปล่อยท่านเหล่านี้ให้เป็นอิสระ ข้าพเจ้าช่วยท่านทั้งหลายเหล่านี้จากความทุกข์ ความเดือดร้อน พ้นจากการถูกเขาประหาร ด้วยบุญกุศลที่ข้าทำในครั้งนี้ ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอจงอโหสิกรรม และอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันอีกเลย”
@@@@
เชื่อว่าคนไทยที่ระบุบนบัตรประชาชนว่านับถือพุทธศาสนามากกว่า 50% ต้องเคยตั้งนะโมฯ 3 จบกล่าวคาถานี้ก่อนการปล่อยนกปล่อยปลา เพื่อหวัง ‘สร้างบุญ’ จากการช่วยชีวิตสัตว์เหล่านี้ให้มีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้
และเชื่อว่า 80% ในจำนวนชาวพุทธเหล่านั้น ก็ข้ามคำกล่าวอโหสิกรรมดังกล่าว ไปยังคำอธิษฐานเพื่อ ‘ตัวเอง’ ทำนองว่า “ด้วยอำนาจของกุศลผลบุญครั้งนี้ จงสะเดาะเคราะห์ร้าย ของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตสดชื่น สุขสดใส ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอ” ไปเลย
@@@@
จนทำให้ในแต่ละปีจะมีสัตว์ยอดฮิตที่ถูกมนุษย์ตีตราแฝง ‘แต้มบุญ’ มาให้โดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทั้งนกขนาดเล็ก, ปลาไหล, ปลาดุก, ปลาหมอ, ปลาบู่, กบ, เต่า ฯลฯ ถูก ‘จับ’ มาเพื่อหมุนเวียนธุรกิจแห่งบุญนี้ให้เติบโตไปอย่างไม่มีสิ้นสุด
ประเด็นนี้เป็นคำถามที่อยู่คู่สังคมไทย (รวมทั้งสังคมพุทธในหลายประเทศ) ว่าการ ‘ปล่อยสัตว์’ด้วยวิธีดังกล่าวนั้น ‘สร้างบุญ’ ได้อย่างที่คิดหรือไม่ เพราะมีการสำรวจพบว่าในแต่ละปีจะมีนกกะติ๊ด(นกขนาดเล็กจำพวกเดียวกับนกกระจอก) ถูกจับมาเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญเสวยบุญจากทั่วประเทศมากกว่า 1 ล้านตัว
แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือ ในจำนวนนั้นจะมีประมาณ 700,000 ตัว ที่เสียชีวิตจากการขนย้ายเพราะถูกจับมัดรวมกันอยู่ในกระสอบเล็กๆ หากรอดชีวิตมาได้ ก็จะมี 150,000 ตัวเสียชีวิตอยู่ในกรงระหว่างรอผู้ใจบุญมาปล่อย และจะมีเพียง 100,000 ตัวเท่านั้นที่มีชีวิตกลับสู่ธรรมชาติได้จริงๆ
@@@@
กระทั่ง "พระพยอม กัลฺยาโณ" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ยังเคยออกมาให้ความเห็นต่อกรณีนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า
“พระพุทธเจ้าได้เทศนาธรรมสั่งสอนไว้ว่า การทำบุญ จะทำมาก หรือทำน้อย ไม่ใช่เรื่องสำคัญความสำคัญอยู่ที่วินิจฉัย ใคร่ครวญ ทบทวน ถ้วนถี่ ปล่อยไปแล้วสัตว์เหล่านั้นรอดหรือไม่ หากไม่ อันนี้ก็เป็นบาปแน่นอน เป็นด้วยความโง่”
@@@@
ทีนี้เรามาลองดูว่าความ ‘ถ้วนถี่’ ที่พระพยอมบอก แต่ชาวพุทธอาจหลงลืมไปมีอะไรบ้าง
1. หากปล่อยปลาที่มีขนาดเล็กต้องว่าว่ายน้ำได้ดี หลบหลีกศัตรู หรือกลุ่มนักล่าได้หรือไม่ ควรปล่อยในแหล่งน้ำที่มีกระแสน้ำไหลเอื่อยๆ มีความลึกไม่มากนัก มีที่หลบภัย เช่น มีพันธุ์ไม้น้ำริมฝั่งโขดหิน และไม่ปล่อยบริเวณที่มีศัตรูตามธรรมชาติจำนวนมาก หรือมีปลากินเนื้อชุกชุม
2. ปลาไหล ปลาหลด ปลาดุก เป็นสัตว์น้ำในกลุ่มที่ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่น้ำนิ่ง หรือแหล่งน้ำค่อนข้างตื้น หากเอามันไปปล่อยที่ท่าน้ำหน้าวัด หรือแม่น้ำขนาดใหญ่ กว่าจะว่ายไปหาแหล่งน้ำนิ่งๆปลาจะต้องเหนื่อยมาก ถือว่าเป็นการทรมานสัตว์มากกว่า
3. เต่า ตะพาบ กบ และเขียด เป็นสัตว์ที่ไม่ได้อาศัยอยู่แต่ในน้ำตลอดเวลา จะต้องมีพื้นที่บนบกให้ขึ้นมานอนพักผึ่งแดด หากปล่อยลงแม่น้ำ หรือริมฝั่งน้ำที่มีเขื่อนมีกำแพงสูง ไม่สามารถปีนป่ายขึ้นมาพักข้างบนได้ จะตายอย่างทุกข์ทรมานในที่สุด
@@@@
สำคัญที่สุด คือการปล่อยในจำนวนที่เหมาะสม ไม่ใช่อาศัยว่ามีเงินมาก ก็ปล่อยมาก แล้วคิดว่าจะได้บุญเยอะตามไปด้วย สุดท้ายปลาที่ปล่อยไปไม่มีอาหารกินก็ต้องแย่งอาหารไปจนถึงขั้นกินกันเองเพื่อเอาชีวิตรอด แบบนี้คงชัดเจนมากพอจะได้บาปหรือบุญมากกว่านั้นโดยไม่ต้องรอให้พระผู้ใหญ่ที่ไหนมาบอก
ย้อนกลับไปประเด็นคำอธิษฐานที่เราขอให้ ‘สิ่งดีๆ’ เข้ามาในชีวิต แต่หากก่อนขอพร เราได้กระทำการโหดร้าย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นจำนวนมาก แล้วเราจะกล้าคาดหวัง ‘สิ่งดีๆ’ จากการกระทำนั้นได้อย่างไร
แล้วเคยมีใครเก็บสถิติเอาไว้หรือไม่ว่า หลังจาก ‘ปล่อยสัตว์’ ต่างๆ ไปแล้ว คำขอพรต่างๆ นั้นทำใช้ชีวิตของคนๆ นั้นดีขึ้นจริงหรือไม่ หรือมีเพียง ‘พ่อค้า แม่ค้า’ หัวใส ที่ดีวันดีคืน ในขณะที่ชีวิตสัตว์เหล่านั้นค่อยๆ ล้มหายตายจากมากขึ้นทุกวัน
@@@@
สุดท้าย ขอยกคำกล่าวของ "พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)" ที่ว่า “ถ้าท่านเมตตาจริงๆนะ ปล่อยให้นกอยู่บนฟ้า ปล่อยให้ปลาอยู่ในน้ำ นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ปล่อยให้สัตว์ได้อยู่อย่างสัตว์นั่นแหละคือการปล่อยนกปล่อยปลาที่แท้จริง”
ฝากให้ชาวพุทธผู้แสนใจบุญได้ไต่ตรองให้ดีกันอีกสักครั้งว่าเราควรจะแลกชีวิตสัตว์เหล่านั้น เพื่อเปลี่ยนเป็นแต้มบุญที่ไม่รู้จะได้จริงหรือเปล่าต่อไปอย่างนั้นจริงหรืออ้างอิง :-
http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/640405https://www.thairath.co.th/content/825273https://www.posttoday.com/social/general/400424ภาพประกอบ :
https://pantip.com/topic/34204598 ขอบคุณเว็บไซต์ :
https://today.line.me/th/pc/article/‘ปล่อยนก+ปล่อยปลา’+ที่เขาขาย+‘ได้บุญ’+หรือ+‘สนับสนุนบาป’-pgDeMp By Another View ,เผยแพร่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 12.00 น.