ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไขปริศนา.! ทำไมต้องลอยอังคารเถ้าอัฐิ “หลวงพ่อคูณ” ที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย  (อ่าน 864 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ตำนานระบุพระธาตุหล้าหนองเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคราวเดียวกับพระธาตุพนม จ.นครพนม พระธาตุโพนจิกเวียงงัว และพระธาตุบังพวน จ.หนองคาย


ไขปริศนา.! ทำไมต้องลอยอังคารเถ้าอัฐิ “หลวงพ่อคูณ” ที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย

หนองคาย-วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย เผยการนำเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ไปลอยอังคารในแม่น้ำโขงจังหวัดหนองคาย เพราะพระธาตุหล้าหนอง กลางน้ำโขงเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพลังส่งดวงวิญญาณสู่สุขคติภพ

การลอยอังคารเถ้าอัฐิของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในวันที่ 30 ม.ค.2562 เป็นการน้อมส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณสู่สุขคติ สถานที่ลอยอังคารคือแม่น้ำโขง ช่วงจังหวัดหนองคาย และเลือกบริเวณพระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุกลางน้ำ เป็นจุดโปรยเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

@@@@@@

นายเผด็จ สุขเกษม วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ให้ความเห็นว่า คนเราเกิดมาจากธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็จะกลับคืนสู่ธรรมชาติผ่านแม่น้ำเป็นตัวกลาง การลอยอังคารได้อิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย ที่ต้องการให้ชีวิตหลังความตายสงบร่มเย็น ส่วนการที่ประชาชนจำนวนมากมักจะนำเถ้าอัฐิมาลอยในแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคายบริเวณพระธาตุหล้าหนองนั้น เพราะพระธาตุหล้าหนองเป็นพระธาตุเก่าแก่ ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม สูง 31 เมตร ฐานกว้าง 15.80 เมตร

จากตำนานระบุไว้ว่าพระธาตุหล้าหนองนั้นเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคราวเดียวกับพระธาตุพนม จ.นครพนม พระธาตุโพนจิกเวียงงัว และพระธาตุบังพวน จ.หนองคาย พระธาตุหล้าหนอง เดิมอยู่ในเขตวัดธาตุ ชุมชนวัดธาตุ เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ริมแม่น้ำโขง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป กระแสน้ำโขงเชี่ยวกรากได้กัดเซาะตลิ่งและผืนแผ่นดิน ทำให้ตลิ่งทรุดและองค์พระธาตุหล้าหนองต้องจมอยู่ใต้แม่น้ำโขงในลักษณะล้มเอียง อยู่ห่างจากฝั่งจังหวัดหนองคายประมาณ 180 เมตร



นำเถ้าอัฐิของญาติผู้ล่วงลับมาโปรยในแม่น้ำโขง อานุภาพของแม่น้ำโขงจะช่วยให้ดวงวิญญาณของบุคคลอันเป็นที่รักไปสู่สุขคติ


โดยมีหลักฐานปรากฏเป็นภาพเสก็ตซ์ของนายฟรองซีส การ์นิเย่ นักสำรวจอินโดจีน ชาวฝรั่งเศส ที่ได้ล่องเรือตามแม่น้ำโขงผ่านมาถึงจังหวัดหนองคาย เมื่อปี พ.ศ.2411พบพระธาตุหล้าหนองที่กำลังล้มเอียง จึงได้ทำการเสก็ตซ์ภาพไว้เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์อันสำคัญ และเมื่อน้ำโขงลดระดับจะมองเห็นฐานพระธาตุโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ

ทำให้เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า พระธาตุกลางน้ำ ชาวชุมชนวัดธาตุจะนำผ้ามาห่มรอบองค์พระธาตุและธงสีต่าง ๆ มาประดับที่องค์พระธาตุให้เป็นสัญลักษณ์เวลาเดินเรือ และเป็นเครื่องบูชาสักการะองค์พระธาตุ ซึ่งเทศบาลเมืองหนองคายและชุมชนวัดธาตุได้สร้างพระธาตุหน้าหนององค์จำลอง ขึ้นมาใหม่อยู่ใกล้กับองค์เดิมที่จมอยู่ใต้น้ำโขง

ดังนั้นการได้นำเถ้าอัฐิของญาติผู้ล่วงลับมาโปรยในแม่น้ำโขง อานุภาพของแม่น้ำโขงจะช่วยให้ดวงวิญญาณของบุคคลอันเป็นที่รักไปสู่สุขคติ ด้วยการได้อยู่ใกล้กับองค์พระธาตุกลางน้ำตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ชาวพุทธเลื่อมใสศรัทธา




ขอบคุณ : https://mgronline.com/local/detail/9620000010148
เผยแพร่: 29 ม.ค. 2562 19:07   โดย: ผู้จัดการออนไลน์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2019, 10:25:34 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ