ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 วิธี เนรมิตหุ่นสวย ด้วยพระธรรม พุทธวิธีในการลดหุ่น  (อ่าน 902 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29355
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



5 วิธี เนรมิตหุ่นสวย ด้วยพระธรรม พุทธวิธีในการลดหุ่น

ถึงแม้ทางพระพุทธศาสนาจะสอนว่าไม่ให้ยึดติดกับรูปกายภายนอก…แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเป็นคน “อวบระยะสุดท้าย” มักสร้างปัญหาให้เจ้าของร่างกายมากนัก โดยเฉพาะเรื่องโรคต่างๆ ที่พากันเดินพาเหรดเข้ามาหา ฉะนั้น Secret จึงขอนำพุทธวิธี เนรมิตหุ่นสวย มาฝาก

@@@@@@

1. มารักษาศีล 8 กันเถอะ รู้ไหมว่า มีศีลอยู่ 2 ข้อที่หากปฏิบัติตามแล้ว สามารถทำให้น้ำหนักลดได้อย่างง่ายดาย ได้แก่
     - ศีลข้อ 5 เว้นจากของเมา นอกจากเมรัยหลายชนิดจะมีแคลอรีสูงแล้ว น้ำหวานที่นำมาผสมกับเหล้าก็มีน้ำตาลสูงไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นท่องให้ขึ้นใจ… “กินเหล้า = อ้วน”
     - ศีลข้อ 6 เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเว้นจากการทานอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงจนถึงรุ่งอรุณ ซึ่งระหว่างนี้หากใครทนหิวไม่ไหว อาจทดแทนด้วยการดื่มน้ำปานะแทนได้

     ผลวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า การทานอาหารเย็นแล้วเข้านอนเลยภายใน 5-6 ชั่วโมง จะทำให้เราอ้วนเร็วกว่าคนปกติ 2 เท่า หากเข้านอนภายใน 2 - 3 ชั่วโมง จะทำให้เราอ้วนเร็วมากกว่าคนปกติ 3 - 4 เท่า เพราะอาหารยังย่อยไม่ทัน ทำให้ไม่สามารถนำไปใช้งานใดๆ ได้ จึงสะสมตัวในรูปของไขมันทันที

2. พิจารณาอาหารก่อนทาน ก่อนทานอาหารทุกครั้ง ลองน้อมพิจารณาว่า เราจะกินเพื่ออยู่ เพื่อให้ร่างกายมีกำลังในการประกอบความดีเท่านั้น นอกจากนี้ลองฝึกพิจารณาอาหารให้เป็นของน่าเกลียดหรือที่เรียกว่า “อาหาเรปฏิกูลสัญญา” โดยพิจารณาอาหารที่เรากินว่า อาหารเป็นของปฏิกูล ไม่ได้สะอาดจริง ทั้ง ไก่ หมู กุ้ง ปู และสัตว์ต่างๆ ล้วนเป็น ”ศพ” ของสัตว์ ซึ่งหากปล่อยไปตามกาลเวลา ศพนั้นก็จะเน่าเหม็น มีน้ำเหลืองไหลย้อย มีหนอนชอนไชไปตามเนื้อหนังที่พองบวม

3. ฝึกสติทุกช่วงเวลาแห่งการกิน เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายหรือจิตใจเรา ก็ให้ ”รู้”  หิวก็รู้ พอหิวแล้วมีความพอใจหรือไม่พอใจเกิดขึ้นก็รู้ ก่อนกินก็รู้ ขณะกินก็รู้ หลังกินก็รู้ ให้มีสติกำกับทุกการเคี้ยวและควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน เพราะจะทำให้อาหารย่อยง่ายขึ้น เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง จิตจะไม่ติดในรสอาหาร อาการอยากกินจุบกินจิบจะเบาบางลง ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ฝึกสมาธิลดความอยาก มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า การนั่งสมาธิสามารถลดความดันโลหิต ทำให้หลอดเลือดมีสุขภาพดีขึ้น จิตใจดีขึ้น หากใครถนัดแบบใดก็ให้ทำสมาธิในแบบที่ตนถนัด อาทิ การกำหนดดูลมหายใจ ดูท้องพอง - ยุบ หรือท่องคำบริกรรม วิธีนี้จะใช้ได้ผลหากทำวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที

ถ้าไม่อยากนั่งสมาธิ การเล่นโยคะร้อนเป็นประจำ ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้ใช้พลังงานมากขึ้นแทนการออกกำลังกายหนักๆ โดยฝึกพลังกล้ามเนื้อจากการเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับฝึกจังหวะหายใจให้ถูกต้อง ถ้าทำได้ต่อเนื่อง จะช่วยในเรื่องระบบการควบคุมอาหารโดยอัตโนมัติ กินได้น้อยลง และการเผาผลาญอาหารดีขึ้น

5. เดินจงกรมย่อยอาหาร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ที่ทานอาหารจนอิ่มเดินย่อยอาหารให้ได้ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ดังนั้นไหนๆ ต้องเดินย่อยอาหารแล้ว ลองเดินจงกรมไปด้วยก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย…การเดินจงกรมทำได้ไม่ยาก อาจเริ่มจากการบริกรรม ซ้าย-ขวา ย่างหนอ ดูลมหายใจ ดูเท้าที่ยกขึ้น เคลื่อนไปและวางลงบนพื้น ทั้งนี้ต้องไม่ลืมที่จะเอาสติมาจับอยู่ที่ทุกความเคลื่อนไหวของกาย

@@@@@@

พุทธวิธีทั้ง 5 ข้อนี้ นอกจากจะทำให้ท่านผู้อ่านลดน้ำหนักได้แน่ๆแล้ว  ยังสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดสมาธิและสติมากพอที่จะรับมือกับสิ่งกระทบที่เข้ามากระแทกใจในแต่ละวัน ซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียดจนต้องหาอะไรเข้าปากได้อีกด้วย



ส่วนหนึ่งจากคอลัมน์ Life Manegement นิตยสาร Secret
Image by Markus Spiske from Pixabay
Secret Magazine (Thailand) ,IG @Secretmagazine
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/secret-trick/30461.html
By Minou ,14 March 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ