ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระนางมัลลิกาเทวี พระราชเทวีผู้เรียนธรรมะโดยเคารพ  (อ่าน 999 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29352
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



พระนางมัลลิกาเทวี พระราชเทวีผู้เรียนธรรมะโดยเคารพ

พระนางมัลลิกาเทวี เป็นหญิงชาวบ้านที่ได้ถวายขนมถั่วแด่พระบรมศาสดา แล้วพระองค์ตรัสต่อพระอานนท์ว่า “กุลธิดานางนี้จะได้เป็นพระมเหสี” ไม่นานนักพระเจ้าปเสนทิโกศลได้พบรักกับกุลธิดานางนี้ และสถาปนาไว้ในตำแหน่งพระมเหสี กุลธิดานางนี้ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ประกอบทานกุศลอยู่เนืองนิจ แม้สุขสบายได้เป็นพระมเหสีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในชมพูทวีปก็ไม่ละทิ้งการทำทานทำกุศล

กุลธิดาแห่งนายมาลาการนางหนึ่งมีชื่อว่า “มัลลิกา” (มัลลิกา แปลว่า ดอกมะลิ) มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาตั้งแต่เด็ก เพราะบิดามักพานางไปฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่บ่อยครั้ง พลอยให้กุลธิดานางนี้ได้เป็นพระอริยบุคคลตั้งแต่เยาว์วัย (สำเร็จโสดาปัตติผล)

@@@@@@

นางมัลลิกาได้ถวายขนมแด่พระบรมศาสดา พระองค์แย้มพระสรวล พระอานนท์จึงทูลถามว่า “พระองค์ทรงหัวเราะด้วยเหตุใด” พระองค์ตรัสตอบว่า “กุลธิดานางนี้จะได้เป็นพระอัครมเหสีแห่งพระราชา” หลังนั้นนางมัลลิกากำลังเก็บดอกไม้ให้บิดาอยู่นั้น นางได้ร้องเพลงไปด้วย ชายรุ่นราวคราวกับบิดาปรากฏกายขึ้น เขาได้ชมเพลงของกุลธิดา และชื่นชมเสียงของนาง แต่หญิงสาวกลับไม่พอใจที่มีคนมาแอบเพลงเธอร้องเพลง ชายนิรนามจึงทำการขอโทษเธอจนเธอพอใจ เขาบอกว่าเขาเหนื่อยล้ามากจึงพาม้าที่ตนขี่มาพักอยู่ใต้ร่มไม้ของต้นไม้ในสวนแห่งนี้ ทั้งสองได้สนทนากันไม่เท่าไรนางมัลลิกากลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และชายนิรนามก็จากนางไป

หลายวันต่อมา ทางราชสำนักส่งคนมาเชิญนางมัลลิกาเข้าเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศล พระราชาผู้อยู่เบื้องหน้าของนางมัลลิกาคือชายนิรนามผู้นั้นนั่นเอง และพระองค์ได้สถาปนานางเป็นพระมเหสี ในอรรถกถาเล่าถึงบทบาทของพระนางมัลลิกาเทวีที่คอยเป็นที่ปรึกษาของพระสวามี และเป็นผู้ที่จะโน้มน้าวพระสวามีเข้าสู่เส้นทางแห่งพุทธธรรมเสมอ เช่น ครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันประหลาดต่อเนื่องกันถึง 16 เรื่อง พระองค์ให้ปุโรหิตพยากรณ์ความฝัน

@@@@@@

ปรากฏว่า พระราชาต้องประกอบพิธีบูชายัญเพื่อเป็นการแก้จากร้ายให้กลายเป็นดี พระนางมัลลิกาเทวีทรงทราบว่าการพิธีบูชายัญจะทำให้พระสวามีต้องมีรับสั่งฆ่าสัตว์ เดี๋ยวพระสวามีจะเป็นบาปจึงได้แนะนำให้พระองค์เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อทูลถามถึงเรื่องความฝันประหลาดนี้แทน (สามารถศึกษาเรื่องพระสุบินของพระเจ้าปเสนทิโกศลเพิ่มเติมได้ที่ >>> อรรถกถามหาสุบินชาดก)

หรือแม้กระทั่งพระเจ้าปเสนทิโกศลบรรทมแล้วทรงได้ยินเสียงประหลาดในยามค่ำคืน พระนางมัลลิกาเทวีก็ทรงเป็นผู้เดียวที่ทรงแนะนำให้พระสวามีเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อทูลถามเรื่องเสียงประหลาด พระพุทธเจ้าทรงอธิบายว่าเป็นเสียงของสัตว์นรกที่มาจากโลหกุมภีนรก (นรกกะทะทองแดง) (สามารถศึกเรื่องเสียงประหลาดในยามวิกาลของพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ที่ >>> ทุ.ส.น.โส. เสียงประหลาดจากมุมมืด) หรือพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงจะแข่งทำบุญกับราษฎร์

@@@@@@

พระนางมัลลิกาเทวีก็ทรงเสนอให้ทำอสทิสทาน คือ การถวายทานด้วยการจัดสถานที่ให้พระภิกษุจำนวน 100 รูป พำนักอยู่ในมณฑปที่สร้างขึ้น และประดับตกแต่งด้วยช้างถือฉัตรโดยมีเหล่าเจ้าหญิงเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหาร กลายเป็นการทำทานที่แปลกและพิสดารที่สุดในสมัยพุทธกาลเลยก็ว่าได้ (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> อสทิสทาน)

พระนางมัลลิกาเทวีทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนาในฐานะพระมเหสีคู่พระทัยของพระราชาแห่งแคว้นโกศล ยังเป็นผู้สนใจศึกษาพระธรรมอีกด้วย โดยพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทูลขอให้พระพุทธเจ้าทรงมีพระพุทธโองการแต่งตั้งพระภิกษุ 1 รูป เป็นพระอาจารย์สอนพระธรรมแด่พระมเหสีทั้งสองของพระองค์ คือ พระนางมัลลิกาเทวี กับ พระนางวาสภขัตติยา (เจ้าหญิงศากยวงศ์ที่ประสูติจากพระชายาที่เป็นนางทาสีของพระเจ้ามหานามะ สามารถศึกษาเรื่องของพระนางได้ที่ >>> ไม่มีใครสามารถชดใช้กรรมแทนกันได้ บทเรียนจากพระเจ้าวิฑูฑภะ

@@@@@@

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพระพุทธโองการให้พระอานนท์เป็นพระอาจารย์ของสองพระมเหสี เมื่อพระอานนท์กลับจากราชสำนักแคว้นโกศล พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามถึงพระราชเทวีทั้งสองว่าเรียนพระธรรมเป็นอย่างไรบ้าง พระอานนท์ตอบพระพุทธองค์ว่า มีแต่พระนางมัลลิกาเทวีเพียงพระองค์เดียวที่ทรงศึกษาธรรมะได้อย่างแตกฉาน และเก่งกาจในพระบาลี (หมายถึงพระไตรปิฎก และรวมไปถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วย) มีความเคารพในคำสอนของพระพุทธเจ้า ผิดกับพระนางวาสภขัตติยา ผู้เป็นพระญาติจากศากยวงศ์ที่ไม่สนใจเลย



ที่มา : อรรถกถา ธรรมบท เรื่อง ฉัตตปานิอุบาสก ,อรรถกถา ธรรมบท เรื่อง อสทิสทาน ,อรรถกถามหาสุบินชาดก  ,บุญทันตาเห็น เรื่องเล่าบุญติดจรวดครั้งสมัยพุทธกาล , www.matichonweekly.com
ภาพ : https://pixabay.com
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/171804.html
By nintara1991 ,30 August 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ