ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ  (อ่าน 5891 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สาวิตรี

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +6/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 148
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ได้ยินเรื่อง สมาธิมาก็หลายครั้ง และ คำนี้ก็มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดให้ได้ยินหลายครั้ง
บางทีชวนเพื่อนปฏิบัติ กรรมฐาน ก็เจออีกกลุ่มว่า ของเธอเป็น มิจฉาสมาธิ ของฉันเป็น สัมมาสมาธิ

ครั้นจะต่อวาจากันว่าเป็น มิจฉา กับ สัมมา นั้นมีหลักการวัดอย่างไร ก็มาพิจารณาภูมิธรรมตนเองว่ายัง
ไม่แน่น ดังนั้นจึงมาฝากความหวัง ที่บอร์ด โดยเฉพาะลุงปุ้ม หรือ คุณธรรมธวัช ช่วยตอบให้หน่อยคะ

มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ

 :c017: :c017: :c017:
บันทึกการเข้า

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
!

เป็น วีดีโอ ที่ฝรั่งชางต่างชาติ ได้พิสูจน์พลังสมาธิ กับพระธิเบต ที่มีสมาธิ จนสามารถเข้าใจความพิเศษ
ของสมาธิได้ ว่าถ้าจิตเข้มแข็ง ก็สามารถ สู่ได้แม้แต่อากาศที่หนาวเย็น หรือ ร้อนได้ ในภาวะที่สับสน
ที่ไม่ได้เอื้อต่อชีวิตมนุษย์ พลังสมาธิ จะช่วยผ่อนคลายและช่วยการดำรงชีวิตได้คะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2011, 06:52:13 pm โดย ครูนภา »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 06:55:03 pm »
0






ที่ประเทศธิเบต เป็นประเทศที่หนาวจัดมาก แต่พระธิเบตบางรูปก็ไม่ต้องใช้เครื่องนุ่งห่มนะคะ
ที่มาภาพ การเที่ยวธิเบต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2011, 06:56:58 pm โดย ครูนภา »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 10:32:11 pm »
0
สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ, จิตมั่นชอบ คือสมาธิที่เจริญตามแนวของ ฌาน ๔
                      (ข้อ ๘ ในมรรค)

ที่มา  พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ 
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
ทีฆนิกาย มหาวรรค
มหาสติปัฏฐานสูตร
ธัมมานุปัสสนา


สัมมาสมาธิ เป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม

บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่

เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะ
วิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมี
อุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกาย เพราะปีติสิ้นไป

บรรลุตติยฌานที่พระอริยทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข

เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัส
โทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ ฯ

ที่มาhttp://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=10&A=6721&w=%CA%D1%C1%C1%D2%CA%C1%D2%B8%D4



มิจฉาสมาธิ ตั้งใจผิด ได้แก่ จดจ่อ ปักใจ แน่วในกามราคะ ในพยาบาท เป็นต้น
            (ข้อ ๘ ในมิจฉัตตะ ๘)

ที่มา  พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ 
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค


[๓๔๐] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรมมีประเภทละ ๘ๆ ที่พระผู้มีพระภาค
ผู้ทรงรู้ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นตรัสไว้โดยชอบแล้ว
มีอยู่แล พวกเราทั้งหมดด้วยกันพึงสังคายนา ไม่พึงแก่งแย่งกันในธรรมนั้น การ
ที่พรหมจรรย์นี้พึงยั่งยืนตั้งอยู่นานนั้น พึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ชนมาก เพื่อ
ความสุขแก่ชนมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อ
ความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรมมีประเภทละ ๘ๆ เป็นไฉน ฯ
มิจฉัตตะ ๘ อย่าง
                                       ๑. มิจฉาทิฏฐิ             [เห็นผิด]
                                       ๒. มิจฉาสังกัปปะ       [ดำริผิด]
                                       ๓. มิจฉาวาจา             [วาจาผิด]
                                       ๔. มิจฉากัมมันตะ       [การงานผิด]
                                       ๕. มิจฉาอาชีวะ          [เลี้ยงชีวิตผิด]
                                       ๖. มิจฉาวายามะ         [พยายามผิด]
                                       ๗. มิจฉาสติ            [ระลึกผิด]

                                      ๘. มิจฉาสมาธิ           [ตั้งจิตผิด]

ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=4501&Z=7015
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 12:14:09 am »
0
มิจฉัตตะ คืออะไรครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1300.0

แต่อ่านแล้วก็ยังไม่เคลียร์เรื่อง มิจฉาสมาธิ อยู่ดี ทำไมเขาจึงบอกว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
เป็น มิจฉาสมาธิ คร้า... ประเด็นน่าจะอยู่ที่ตรงนี้ใช่หรือป่าวคร้า...

ส่วนของเขา เป็น สัมมาสมาธิ เพราะอะไรคร้า....
่ไม่มีข้อมูล อย่างนี้เรื่องออกจะเป็นวงกว้าง เพราะเห็นพระอาจารย์ไม่ตอบ แสดงว่าท่านมองเห็นว่าคำถามอาจจะ
กว้างหรือ ทดสอบศิษย์ในการตอบกันอยู่

คำแนะนำในการสร้างสมาธิ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=78.msg4163#msg4163

เป็นคำแนะนำสมาธิ สมัยพระอาจารย์เป็นฆราวาสคร้า... ต้องตามอ่าน ดูคะอาจจะมีเรื่องที่น้องจะเข้าใจเพิ่มขึ้นนะคร้า

 :25:
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

prachabeodee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 135
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 10:04:31 am »
0
ป้าว่า.....ที่บอกเป็นสัมมาสมาธิหรือมิจฉาสมาธิคงดูที่เจตนาจองผู้ปฎิบัติด้วย....ถ้าเป็นการปฎิบัติเพื่อออกจากทุกข์หรือเพื่ออกจากกิเลสแล้วป้าว่าเป็นสัมมาสมาธิหมด....แต่ถ้าปฎิบัติแล้วมุ่งไปสู่การติดยึดหรือเปลี่ยนไปยึดในสิ่งใหม่..ก็เป็นมิจฉาสมาธิ....
ทีนี้...ในการปฎิบัติจริงๆก็มีหลากหลายสายปฎิบัติ....แต่ละสายก็ของตนถูกของตนดีของตนเป็นสัมมาสมาธิ.....จริงๆแล้วต้องมาดูกันอีกทีว่า...เมื่อดำเนินมรรคได้สมบูรณ์แล้วก็ออกจากทุกข์ได้จริงหรือไม่..
โดยปกติแล้ว....แต่ละบุคคลก็มีจริตแตกต่างกัน,สร้างสมบารมีธรรมมาไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน..จึงทำให้มีความแตกต่างกันมากทั้งนัยยะและอรรถะ.....อย่างที่พระอาจารย์เคยพูดไว้ ว่าการปฎิบัติสายมัชฌิมาแบบลำดับนี้ไม่ไช่มิจฉาสมาธิ เพราะมีสติคอยกำกับอยู่ตลอด.....มีอนุสติ(พุทธานุสติ)อยู่ตลอด.....และที่ว่าเป็นสายที่ติดสุข...ก็จริงอยู่ เพราะเมื่อได้สมาธิแล้วย่อมได้สุขเป็นผลแน่นอน...นอกจากนั้นแล้วถ้าได้ถึงฌาณแล้วยิ่งมีสิ่งให้เพลิดเพลินอีกมากมายซึ่งถือว่าง่ายต่อการยึดติด(บางสายเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "ติดใน")...แต่ถ้าผู้ปฎิบัติเข้าใจในสิ่งนี้แล้วและสามารถออกจากการยึดติด(ก้าวร่วง)ในสิ่งต่างๆทีได้กล่าวมาแล้วนั้น...ได้เมื่อไหร่ ผลแห่งการปฎิบัติเพื่อออกจากทุกข์ก็จะเกิดตามมาอย่าไม่ต้องสงสัย.........สายนี้เมื่อเกิดมรรคผลแล้วจะเป็นผลที่เด่นชัดมากเพราะมีสมาธิที่ดีเป็นฐานรองรับ......
      ในเมื่อปฎิบัติในสายนี้แล้ว เธอต้องมีสัทธาที่เต็มเปี่ยมในปฎิปทานี้ แล้วต้องมีความแน่วแน่เป็นฐาน ไม่สงสัยในมรรคผล(แต่ต้องมีสติในการปฎิบัติ)ที่จะเกิดขึ้น.....ขอเพียง ทำจริงและทำให้เต็มกำลังก็พอ......มรรคผลย่อมบังเกิดแก่เธอเองโดยไม่ต้องสงสัย......ป้าขอเป็นกำลังใจให้ด้วยน๊ะ.....สาธุ
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: มิจฉาสมาธิ กับ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไรคะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 08:33:25 pm »
0

ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูนภา ภาพสวยมากครับ เหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง

หมวยนีย์ยังคงเป็นแฟนพันธุ์แท้เว็บมัฌชิมาอย่างเหนียวแน่น น่ามีรางวัลให้

ส่วนคุณป้า (เข้าใจว่า มีชื่อเล่นว่าป้า) แสดงธรรมได้ดี โดนใจครับ

ตัวผม ขออนุญาตขยายความเรื่องสัมมาสมาธิเพิ่มเติมครับ

จะเห็นได้ว่า พุทธพจน์ บอกตรงๆเลยว่า หมายถึง การเข้าฌาน๔

ศัตรูของฌานเป็นที่รู้กันว่า คือ นิวรณ์ นั่นเอง


นิวรณ์ ๕ (สิ่งที่กั้นจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรม, ธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุคุณความดี, อกุศลธรรมที่ทำจิตให้เศร้าหมองและทำปัญญาให้อ่อนกำลัง

๑. กามฉันทะ (ความพอใจในกาม, ความต้องการกามคุณ)

๒. พยาบาท (ความคิดร้าย, ความขัดเคืองแค้นใจ)
 
๓. ถีนมิทธะ (ความหดหู่และเซื่องซึม)
 
๔. อุทธัจจกุกกุจจะ (ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ, ความกระวนกระวายกลุ้มกังวล)

๕. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย)


อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน, จิตส่าย, ใจวอกแวก (พจนานุกรมเขียน อุทธัจ)

กุกกุจจะ ความรำราญใจ, ความเดือดร้อนใจ เช่นว่า สิ่งดีงามที่ควรทำ ตนมิได้ทำ สิ่งผิดพลาดเสียหายไม่ดีไม่งามที่ไม่ควรทำ ตนได้ทำแล้ว, ความยุ่งใจ กลุ้มใจ กังวลใจ ความรังเกียจหรือกินแหนงในตนเอง,
ความระแวงสงสัย เช่นว่า ตนได้ทำความผิดอย่างนั้น ๆ แล้วหรือมิใช่ สิ่งที่ตนได้ทำไปแล้วอย่าง นั้น ๆ
เป็นความผิดข้อนี้ ๆ เสียแล้วกระมัง


อ้างอิง
องฺ.ปญฺจก.๒๒/๕๑/๗๒; อภิ.วิ.๓๕/๙๘๓/๕๑๐.


สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับ สัมมาสมาธิ ก็คือ มิจฉาสมาธิ

ดังนั้น นิวรณ์ทั้งห้า จึงเปรียบเสมือน มิจฉาสมาธิ


ถ้าจะถามว่าต่างกันอย่างไร ต้องยกนิวรณ์สักข้อ มาคุยกัน ขอนำ "กามฉันทะ" มาอธิบาย

กามฉันทะคือ การหลง ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

สังเกตไหมว่า เวลาอยู่ใกล้ของสวยๆ เราจะเพลิดเพลิน มีความสุข อยู่ได้นานๆ โดยลืมเวลาไปเลย

เช่น ผู้ชายอยู่ใกล้สาวสวย ผู้หญิงช็อบปิ้งในห้าง

การที่เรามีความสุขกับการสนองกิเลส จนลืมเวลาไปนั้น

ความคิดส่วนตัวผมเห็นว่า นี่คือ มิจฉาสมาธิ

สัมมาสมาธิเป็นข้อแปด ของมรรคมีองค์ ๘ มรรคนี้ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่า

เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ เพื่อการเข้าถึงนิพพานนั่นเอง

ดังนั้น อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า สมาธิที่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผล นิพพาน คือ มิจฉาสมาธิ

 :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ