อย่าไปสนใจเลยครับ เป็นเรื่องของพระ เราเป็นผู้หญิง รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ
หน้าที่ของเราทำบุญครับ อุปัฏฐากครับ
“การประพฤติวุฏฐานวิธี” หรือ "อยู่ปริวาสกรรม" หรือ "มาชำระมลทินการละเมิดวินัยของพระ"
วุฏฐานวิธี คือ กฎระเบียบเป็นเครื่องออกจากอาบัติ หมายถึง ระเบียบวิธีปฏิบัติสำหรับภิกษุผู้จะเปลื้องตนออกจาก
ครุกาบัติสังฆาทิเสส มีทั้งหมด ๔ ขั้นตอน คือ
๑.  ปริวาส หรือ อยู่ประพฤติปริวาส หรือ อยู่กรรม (โดยสงฆ์เห็นชอบที่ ๓ ราตรี)
๒.  มานัต ประพฤติมานัต  ๖ ราตรี หรือ นับราตรี ๖ ราตรีแล้วสงฆ์สวดระงับอาบัติ
๓.  อัพภาน หรือ การเรียกเข้าหมู่ โดยพระสงฆ์  ๒๐  รูป สวดให้อัพภาน
๔.  ปฏิกัสสนา ประพฤติมูลายปฏิกัสสนา (ถ้าต้องอันตราบัติในระหว่างหรือการชักเข้าหาอาบัติเดิม)
ทั้ง  ๔  ขั้นตอนนี้รวมกันเข้าเรียกว่า “การประพฤติวุฎฐานวิธี” แปลว่าระเบียบหรือขั้นตอนปฏิบัติตน
เพื่อออกจากอาบัติ อันได้แก่ “สังฆาทิเสส”
ข้อดีคือเราได้ทำบุญ กับพระสงฆ์ ที่มาประพฤติ วัตรแสดงความบริสุทธิ์ เรียกว่ามาอยู่ใช้กรรม ที่ตนเองก่อไว้
ทั้งที่แน่ใจ และ ไม่แน่ใจ ซึ่งเป็นการละเมิดศีลวินัย จัดเป็นอาบัติที่มีโทษขั้นกลางครับ
 เช่น จับต้องกายหญิง เกี้ยวพาราสี (จีบแม่หญิง ) ชักสื่อชายหญิง ยังสงฆ์ให้แตกแยก เป็นต้น
   มี 13 ข้อ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีของพระที่ปฏิบัติล่วงผิดวินัย
 ที่นี้พระที่เข้าปริวาสกรรมในปัจจุบัน บางท่านก็ไม่มีอาบัติหรอก แต่อาศัยช่วงที่เปิดเข้าปริวาสนั้น ได้มาบำเพ็ญ
บุญโดยการภาวนา เข้ารับกา่รฝึกปฏิบัติ ท่องเที่ยวจาริก ในช่วงนี้ไปด้วย ดังนั้นในปัจจุบัน จึงระบุไม่ได้ว่ามี
ว่าพระภิกษุที่เข้าปริวาสนั้นต้องอาบัติ ( ละเมิดศีลข้อไหนใน 13 ข้อ มาบ้าง ) เพราะไม่มีการสอบถามเป็นข้อ
มีแต่การสอบว่า บริสุทธิ กับ ไม่บริสุทธิ เท่านั้น