ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อความเข้าใจ “ธรรมจักษุ” หรือดวงตาเห็นธรรม  (อ่าน 861 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




เพื่อความเข้าใจ “ธรรมจักษุ” หรือดวงตาเห็นธรรม โดย คุณเมตตา อุทกะพันธุ์

ธรรมะประจำวันนี้ ขอพูดเรื่อง ธรรมจักษุ หรือดวงตาเห็นธรรม  หรือพุทธนิกาย ZEN ใช้คำว่า ชาโตริ หรือภาษาอังกฤษ คือ Enlighten นี่เป็นเรื่องของภาษาที่ต่างกัน แต่กล่าวถึงสภาวะเดียวกัน

การที่จะมีดวงตาเห็นธรรมได้ เราก็จะต้องเจริญสติปัฎฐาน 4 กาย เวทนา จิต จนเข้าถึงธรรม เกิดวิปัสสนาญาณ เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง เห็นว่าสรรพสิ่งเกิดดับว่างจากตัวตน เห็นในความเป็นเช่นนั้นเองหรือ ตถตา การรู้เห็นเช่นนี้เราเรียกภาษาพระว่า ยถาภูตะญาณทัศนะ คือ รู้ เห็น ตามความเป็นจริง รู้ด้วยญาณ ที่เรียกว่า รู้อยู่ ว่างอยู่ เห็นอยู่ สภาวะนี้แหละที่เรียกว่า ธรรมจักษุ คือ เกิดดวงตาเห็นธรรม หรือดวงตาธรรม

ญาณที่กล่าวถึงนี้ เป็น รู้ ที่บริสุทธิ์ เป็นรู้ที่มีศักยภาพเปรียบประดุจเรดาร์ คือ จะรู้รอบ 360 องศา คือ รู้ทั้งตัวเองที่ว่าง และรู้อีกฝั่งหนึ่งคือ รูป นาม ขันธ์ 5 ที่เกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีสาระแก่นสารอะไรที่ยึดมั่นถือมั่นได้

ในสภาวะที่เรียกว่า ดวงตาเห็นธรรมนี้แหละเป็นสภาวะที่เห็นได้ทั้งสองฝั่ง คือ ทั้งฝั่งทุกข์ ที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่ง หรือที่เรียกว่า สังขาร และฝั่งที่พ้นไปจากทุกข์ คือ ฝั่งที่พ้นไปจากการปรุงแต่งทั้งปวง หรือที่เรียกว่า วิสังขาร

@@@@@@

เมื่อเข้าถึงญาณรู้ เห็นสภาวะสองฝั่งเช่นนี้ เท่ากับผู้ปฏิบัติเกิดการรู้แจ้งในอริยสัจ 4 คือ

     - รู้ทุกข์ สภาวะที่ปรากฎขึ้นและเสื่อมสลายไป
     - ละเหตุแห่งทุกข์ คือ ถอดถอนตัณหา อุปาทาน ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น
     - เข้าสู่นิโรธ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ที่พ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวง
     - เจริญข้อปฎิบัติมรรคมีองค์ 8 เพื่อให้เข้าถึงการดับไม่เหลือแห่งทุกข์

สำหรับผู้ปฏิบัติที่เข้าถึงสภาวะนี้ก็จะได้ลิ้มชิมรสของนิพพานชิมลอง จะอยู่ในสภาวะนี้ได้ชั่วคราว แต่ก็จะได้เห็นหนทางเดินชัดเจน แล้วว่าการเจริญสติปัฎฐาน 4 นี่แหละ ที่จะนำเราให้พ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวงในวัฎฎะสงสารได้

เพราะฉะนั้นการมีดวงตาเห็นธรรม หรือธรรมจักษุ จึงเป็นเพียงประตูที่เปิดไปสู่การบรรลุธรรมในขั้นต่าง ๆ ตั้งแต่ โสดาบัน ไปจนถึงอรหันต์ ดวงตาเห็นธรรม กับการบรรลุธรรม จึงเป็นคนละขั้นตอนกัน แต่จะบรรลุธรรมได้ต้องเกิดจากการมีดวงตาเห็นธรรมก่อน

@@@@@@

พวกเราล้วนเป็นผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรมหรือธรรมจักษุกันแล้วทั้งนั้น เป็นสิ่งที่หาได้ยากในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม สำคัญมากนะ เพราะสภาวะนี้คือประตูไปสู่พระนิพพาน คือ การพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว

ขอให้ทุก ๆ ท่านจงเจริญทั้งทางโลก เเละทางธรรม ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ดำรงอยู่ด้วยการมีสูญญตาเป็นวิหารธรรม ทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง ข้างนอกเราก็ทำงาน ทำการ ของเราไปตามหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ภายในเราอยู่กับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ นิ่ง ว่าง ไม่มีตัวตน ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น

“อยู่ได้ทั้งสองฝั่ง” ดำรงชีวิตอยู่อย่างบูรณาการ สมบูรณ์ สมดุล มีความสุข สงบ ร่มเย็น โลกก็ไม่ช้ำธรรมก็ไม่ขุ่น


 

เรื่อง : คุณเมตตา อุทกะพันธุ์  ประธานกรรมการ กรรมการกำกับดูแลบรรษัทภิบาล อมรินทร์กรุ๊ป
Photo by Kristopher Roller on Unsplash ,Secret Magazine (Thailand)
ขอบคุณ ; https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/206823.html
By nintara1991 ,24 June 2020
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ