ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คิดว่าได้ธรรมทาน แต่อาจจะได้บาป  (อ่าน 1343 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
คิดว่าได้ธรรมทาน แต่อาจจะได้บาป
« เมื่อ: ตุลาคม 20, 2020, 07:06:50 am »
0




คิดว่าได้ธรรมทาน แต่อาจจะได้บาป

เรียนทุกท่าน
 
เมื่อพูดถึงเรื่องการทำบุญ โดยเฉพาะการให้ทาน หนึ่งในการทำทานที่คนมักจะอยากทำกันก็คือ "ธรรมทาน" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง" (อรรกถาเล่มที่ 43 หน้า 325) นั่นคือ การให้ธรรมะเป็นทาน ได้บุญมากที่สุดในด้านการให้ทาน
 
โดยพระพุทธเจ้าได้เปรียบเทียบว่า แม้ว่าเราจะนิมนต์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกพระองค์มานั่งเรียงชิดติดกันตั้งแต่โลกยาวไปถึงพรหมโลก แล้วถวายจีวรให้ครบทุกรูป บุญที่ได้ก็ยังไม่เท่าบุญจากการให้ธรรมทานเลย
 
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการให้ธรรมะเป็นทาน(ธรรมทาน) ค่อนข้างมากเพราะบุญที่ได้บุญมากที่สุดในด้านการให้ทาน คงไม่ใช่ได้บุญง่ายๆเพียงแค่ซื้อหนังสือธรรมะให้คนได้อ่าน นอกจากนี้การซื้อหนังสือธรรมะบางเล่มไปแจก อาจจะได้บาปติดมาด้วย
 
    - หนังสือธรรมะบางเล่ม เป็นหนังสือธรรมะที่เขียนในแบบที่ "คิดเอาเอง"ว่าดี
    - หนังสือเหล่านี้จะสอนในสิ่งที่ผู้เขียนคิดว่าถูกต้อง โดยไม่ได้อ้างอิงพระไตรปิฎกเลย
    - หนังสือธรรมะ(ปลอมๆ)เหล่านี้ จะสอนคนในแนวทางผิดๆ เช่น การสะเดาะเคราะห์ เครื่องราง ของขลัง ไสยศาสตร์ แก้ปีชง พิธีกรรมต่างๆ ฯลฯ
    - หนังสือธรรมะ(ปลอมๆ)เหล่านี้ หากเราแจกคนอื่นเราจะได้บาปติดมาด้วย เป็นบาปจากการส่งเสริมให้คนเข้าใจผิดๆ และแก้ไขปัญหาชีวิตแบบผิดๆ
 
@@@@@@@

หนังสือธรรมะบางเล่มดูแล้ว"คล้าย"จะเป็นธรรมะที่ถูกต้อง แต่เนื้อหาบางจุดกลับไม่สอดคล้องกับพระไตรปิฎก ซึ่งความผิดพลาดดังกล่าว อาจจะเกิดจากการตีความผิด หรือการพิมพ์ผิดของสำนักพิมพ์ เช่น การแก้กรรม การสอนว่าชีวิตขึ้นอยู่กับกรรมเก่าอย่างเดียว การสอนว่าทำทานให้น้อยทำบุญอื่นให้มาก เป็นต้น

หนังสือธรรมะแบบนี้ หากเราแจกคนอื่นเราจะได้บาปติดมาด้วย โดยหนังสือธรรมะที่ค่อนข้างจะมีคนพิมพ์แจกมากที่สุดเล่มหนึ่งก็คือ "วิธีสร้างบุญบารมี" ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งหนังสือเล่มนี้พิมพ์ออกมาหลายครั้งจึงมีปกหลายแบบ แต่แบบที่นิยมคือแบบที่แนบรูปภาพมาด้วย (อ่านให้จบนะครับ จะได้ไม่เข้าใจผมผิด)

หนังสือเล่มดังกล่าวได้มีเนื้อหาว่า...
การให้"ธรรมทาน" แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า "อภัยทาน" ซึ่งเนื้อหาดังกล่าว ขัดกับคำพูดของ "พระพุทธเจ้า" ที่ว่า ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง ก็ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า ชนะทานทั้งปวง ก็ต้องแปลว่าไม่แพ้บุญใดในด้านการให้ทาน หรือแปลว่า ได้บุญมากที่สุดในด้านการให้ทาน โดยสามารถอ่านฉบับเต็มที่ตาม Link ด้านล่าง
    http://www.fungdham.com/download/book/prasunkharat/howtogetboon.pdf
    (ในหน้าที่ 12 ของไฟล์ หรือหน้าที่ 18 ของหนังสือ)
 
เรื่องดังกล่าวมีการโตเถียงกันนานพอสมควร ว่าธรรมทานกับอภัยทาน ทานไหนได้บุญมากกว่ากัน เพราะหนังสือดังกล่าว เขียนว่าเขียนโดยพระสังฆราช ซึ่งก็ทำให้มีคนปักใจเชื่อจำนวนมาก
 
หลังจากมีการโต้เถียงกันพักใหญ่ๆ หนังสือเล่มดังกล่าวก็ได้ออก Version ใหม่ออกมา โดยได้แก้ไขเนื้อหาในส่วนที่มีปัญหาให้ถูกต้องตาม "พระไตรปิฎก" จนกลายเป็น "แต่การให้ทานที่ได้บุญที่สุดได้แก่การให้ธรรมทาน" โดยสามารถอ่านฉบับเต็มที่ตาม Link ด้านล่าง(หน้าที่ 18 ของไฟล์ หน้าที่ 14 ของหนังสือ)
http://www.dhammabookstore.com/book/pdf/90000.pdf
 
@@@@@@@

อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ ผมมีโอกาสได้เข้าไปเวบของพระสังฆราชกลับปรากฎข่าวสารเกี่ยวกับหนังสือ "วิธีสร้างบุญบารมี" ว่า "พระนิพนธ์เรื่อง วิธีสร้างบุญบารมี มีพุทธศาสนิกชนมากมายนำไปพิมพ์เผยแพร่แจก ในโอกาสต่าง ๆ มากมาย แต่ปรากฏว่า ฉบับที่แจกกันอยู่นั้น หาได้เป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชไม่" ตาม Link http://www.sangharaja.org/home/index.php?mode=news&id=79
หรือสรุปง่ายๆว่า ที่พิมพ์แจกกันอย่างกว้างขวางนั้น "ไม่ได้เป็นหนังสือที่พระสังฆราชนิพนธ์"
 
โดยในเวบของพระสังฆราช ได้นำหนังสือที่พระสังฆราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เองมาแสดงด้วย หากเราได้อ่านก็จะพบว่า เนื้อหาและสำนวน แตกต่างจาก "วิธีสร้างบุญบารมี" ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ที่พิมพ์แจกกันอยู่ค่อนข้างมาก
 
ฉะนั้นการพิมพ์หนังสือเล่มดังกล่าวแจก จึงมีโอกาสได้บาปจากหลายด้าน เช่น หากพิมพ์เวอร์ชั่นใหม่ ก็จะได้บาปจากการพิมพ์หนังสือที่แอบอ้างพระสังฆราช หรือแม้แต่พิมพ์เวอร์ชั่นเก่า ก็จะเป็นการเผยแผ่คำสั่งสอนผิดๆ ว่าอภัยทานได้บุญสูงสุดในด้านการให้ทานและได้บาปจากการอวดอ้างพระสังฆราชด้วย
 
ฉะนั้นอย่าลืมบอกต่อคนที่เรารู้จัก เกี่ยวกับข่าวสารเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้คนรอบตัวเราเข้าใจผิดคิดว่าได้บุญธรรมทาน แต่กลับได้บาปติดไปแทน
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะพิมพ์หนังสือธรรมที่ถูกต้องตามพระไตรปิฎกแจกจ่าย ก็ยัง"ไม่"ถือว่าเราได้ให้ธรรมทาน
เพราะการให้ธรรมทานจะสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อเราให้ธรรมะแล้ว ผู้รับทำบุญมากขึ้น ทำบาปน้อยลง (อรรถกถาเล่มที่ 45 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย-ขุททกปาฐ-สุตตนิบาต หน้า 616)
 
@@@@@@@

ฉะนั้นหากเราให้หนังสือธรรมะที่คนอ่านสนุกสนานเพียงอย่างเดียว ก็ถือว่าเราได้ให้ทานด้วยหนังสือ แต่ยังไม่เป็นธรรมทาน หากเราให้หนังสือสวดมนต์ แล้วคนรับเอาไปสวดมนต์ แต่ยังรักษาศีล 5 ไม่ได้ ก็ถือว่าเราได้ให้ทานด้วยหนังสือ แต่ยังไม่เป็นธรรมทาน
 
หากเราให้หนังสือพระไตรปิฎกแล้วไม่มีคนอ่าน หรือคนอ่านไม่เข้าใจ ก็ถือว่าเราได้ให้ทานด้วยหนังสือ แต่ยังไม่เป็นธรรมทาน หากเราให้หนังสือพระไตรปิฎก แล้วคนอ่านเข้าใจ แต่ก็ยังทำบาปก็ถือว่าเราได้ให้ทานด้วยหนังสือ แต่ยังไม่เป็นธรรมทาน
 
จะเห็นว่า การจะให้ธรรมทานนั้น ไม่ได้ทำได้ง่ายๆเพียงแค่ซื้อหนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์ หรือพระไตรปิฎกแจกให้ผู้อื่น มีสิ่งที่เราจะต้องพิจารณาหลายอย่าง ทั้งหนังสือธรรมะนั้นถูกต้องหรือไม่(จะได้บาปติดมาหรือไม่) ถ้าเป็นหนังสือธรรมะที่ถูกต้อง ก็ต้องคิดอีกว่า หากเราให้หนังสือเล่มนั้นไปแล้ว คนอ่านจะทำบุญมากขึ้นทำบาปน้อยลงหรือไม่
 
ส่วนตัวผมเองก็แน่นอนว่ามีหนังสือธรรมะในใจอยู่แล้ว เป็นเล่มทีอ้างอิงจากพระไตรปิฎก เป็นเล่มที่หลายคนอ่านแล้วอยากทำบุญมากขึ้น ทำบาปน้อยลง ปกติผมจึงไม่เคยซื้อพระไตรปิฎกแจก ไม่เคยพิมพ์หนังสือสวดมนต์แจก ผมเน้นแจกแต่หนังสือ(เล่มที่ใครก็รู้ว่าเล่มไหน) เพราะทรัพยากรผมมีจำกัด ผมจึงต้องทุ่มทรัพยากรกับสิ่งที่ผมคาดหวังผลสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
 
ฉะนั้น หากเรามีความตั้งใจที่อยากจะให้ธรรมทาน หรืออยากจะใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดอย่างคุ้มค่า อย่าแจกหนังสือเล่มที่เราไม่เคยอ่าน เพราะเราไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนั้นเขียนอะไร และพยายามแจกหนังสือที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่า อยากทำบุญมากขึ้น ทำบาปน้อยลง เพราะหนังสือแบบนี้เท่านั้น เวลาที่เราให้ใคร เราถึงจะมีโอกาสได้บุญเป็นธรรมทาน
 
          ด้วยความนับถือ
            ณัฐพบธรรม
     www.Nutpobtum.com



ขอบคุณภาพจาก : https://sites.google.com/site/theholydhammacity/home
ขอบคุณบทความจาก : www.nutpobtum.com/articles/592529/คิดว่าได้ธรรมทาน แต่อาจจะได้บาป.html
เผยแพร่ทางออนไลน์เมื่อวันที่ : 02/03/2011
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ