ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สังกิเลส กิเลส และอุปกิเลส | มีสภาพและองค์ธรรม ต่างกันอย่างไร.?  (อ่าน 2743 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




สังกิเลส กิเลส และอุปกิเลส | มีสภาพและองค์ธรรม ต่างกันอย่างไร.?

กิเลส ๓ ประเภท ได้แก่
    ๑. สังกิเลส
    ๒. กิเลส
    ๓. อุปกิเลส 

@@@@@@@

๑. สังกิเลส คือ สภาพเปรอะเปื้อนที่ทำให้ศีล สมาธิและปัญญาเสียหาย

    - ที่ทำให้ศีลเสียหาย องค์ธรรมได้แก่ ทุจริต
    - ที่ทำให้สมาธิเสียหาย องค์ธรรมได้แก่ ตัณหา
    - ที่ทำให้ปัญญาเสียหาย องค์ธรรมได้แก่ ทิฎฐิ

ในมหาฎีกาวิสุทธิมรรคกล่าวว่า....

ความประพฤติไม่ดี(ทุจริต) มีความประพฤติไม่ดีทางกาย เป็นต้น ชื่อว่า สังกิเลส ดังนั้นการชำระสังกิเลสนั้น จึงเป็นการละด้วยกำลังของตทังคปหาน ซึ่งมีได้ด้วยศีล เหตุเพราะศีลเป็นปฏิปักษ์ต่อความก้าวล่วง

การชำระสังกิเลส คือ ตัณหา เป็นการละด้วยกำลังของวิกขัมภนปหาน ซึ่งมีได้ด้วยสมาธิ เพราะสมาธิเป็นปฎิปักษ์ต่อปริยุฎฐานะ และเหตุเพราะสมาธินั้น เป็นปฎิปักษ์โดยตรงต่อตัณหา

การชำระสังกิเลส คือทิฎฐิ เป็นการละด้วยกำลังของสมุจเฉทปหาน ซึ่งมีได้ด้วยปัญญา เพราะปัญญาเป็นปฎิปักษ์ต่ออนุสัย และเหตุเพราะปัญญามีการยึดถือเอาตามความเป็นจริง จึงเป็นปฎิปักษ์โดยตรงต่อทิฎฐิ อันมีการยึดถือเอาตามความไม่เป็นจริง

@@@@@@@

๒. กิเลส 10. ในธรรมสังคณีกล่าวว่า สภาพเปอะเปี้ยนที่ทำให้ใจหม่อนหมองร้อนรน มี 10 คือ

   1. โลภะ ความยินดีพอใจในโลกิยอารมณ์ องค์ธรรมได้แก่ โลภเจตสิกที่ในโลภมูลจิต(8)
   2. โทสะ ความโกรธ ความไม่พอใจ องค์ธรรมได้แก่ โทสเจตสิก ที่ในโทสมูลจิต(2)
   3. โมหะ ความลุ่มหลง ความโง่เขลา องค์ธรรมได้แก่ โมหเจตสิก ที่ในอกุศลจิต(12)
   4. มานะ ความเย่่อหยิ่ง ถือตัว องค์ธรรมได้แก่ มานเจตสิก ที่ในทิฎฐิคตวิปปยุตตจิต(4)
   5. ความเห็นผิด เช่นเห็นว่าขันธ์ ยั่งยืน เที่ยงแท้ ไม่เปลี่ยนแปลง หรือตายแล้วก็สูญ ไม่เกิเอีกเป็นต้น องค์ธรรมไดแก่ ทิฏฐิเจตสิก ที่ในทิฎฐิคตสัมปยุตตจิต(4)
   6. วิจิกิจฉา ความลังเลสังสัยในสิ่งที่ควรเชื่อ องค์ธรรมได้แก่ วิจิกิจฉาเจตสิก ที่ในวิจิกิจฉาสัมปยุตตจิต(1)
   7. ถีนะ ความง่วงเหงา ความหดหู่ ความท้อท้อถอย องค์ธรรมได้แก่ ถีนเจตสิก ที่ในอกุศลสสังขาริกจิต(5)
   8. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน องค์ธรรมได้แก่ อุทธัจจเจตสิก ที่ในอกุศลจิต(12)
   9. อหิริกะ ความไม่ละอายต่อทุจริต องค์ธรรมได้แก่ อหิริกเจตสิกที่ในอกุศลจิต(12)
  10. อโนตตัปปะ ความไม่สดุ้งกลัวต่อทุจริต องค์ธรรมได้แก่ อโนตตัปปเจตสิก ที่ในอกุศลจิต(12)

    กิเลส 1500 มีดังนี้ คือ
    - นามธรรม 53 (ได้แก่ จิต 1 เจตสิก 52)
    - รูป 22 (นิปผันนรูป 18 ลักษณะรูป 4)
    - รวม 75 ทั้ง 75 นี้ เป็นภายในตัวเรา 75 สิ่งมีชีวิตอื่นนอกตัวเรา 75 รวมเป็นอารมณ์ได้ 150
    - 150 คูณด้วยกิเลส 10 จึงเป็นกิเลสได้ 1500


@@@@@@@

๓. อุปกิเลส 16. ใน ม.มู 12/93/65 กล่าวว่า สภาพเปรอะเปี้ยนที่ทำให้คุณธรรมเสื่อมทราม มี 16 คือ

     1. อภิชฌาวิสมโลภะ ความโลภที่จ้องจะเอาให้ได้
     2. พยาบาท ความปองร้าย
     3. โกธะ ความโกรธ
     4. อุปนาหะ ความผูกโกรธ
     5. มักขะ ความลบหลู่
     6. ปลาสะ ความยกตนตีเสมอ
     7. อิสสา ความริษยา
     8. มัจฉริยะ ความตระหนี่
     9. มายา ความปกปิดโทษที่มีอยู่
   10. สาเถยยะ ความโอ้อวดคุณที่ไม่มีอยู่
   11. ถัมภะ ความดี้อด้าน
   12. สารัมภะ ความมุ่งเอาแต่ชนะ
   13. มานะ ความถือตัว
   14. อติมานะ ความทรนงตน
   15. มทะ ความมัวเมา
   16. ปมาทะ ความประมาทเลินเล่อชล่าใจ




ที่มา : วิสุุทธิมรรค ปฎิสัมภิทามรรค นิสสยอักษรปัลลวะ อักษรสิงหล อักษรขอม
ขอบคุณ : dhamma.serichon.us/2020/11/26/กิเลสทั้ง-3-ประเภท-มี-สังก-2/
บทความของ สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ
26 พฤศจิกายน 2020, posted by admin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2021, 07:19:33 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ