ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุการณ์เมื่อครั้ง หมอชีวกโกมารภัจจ์ "ขอพร" จากพระพุทธเจ้า  (อ่าน 2452 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




เหตุการณ์เมื่อครั้ง หมอชีวกโกมารภัจจ์ "ขอพร" จากพระพุทธเจ้า

สมัยหนึ่ง หมอชีวกฯได้รักษาโรคปวดศีรษะของเศรษฐีชาวราชคฤห์ด้วยการเปิดกระโหลกศีรษะ รักษาอาการท้องไม่ย่อยถ่ายไม่สะดวก เพราะเนื้องอกในลำไส้ของลูกเศรษฐีชาวพาราณสีด้วยการผ่าตัด และรักษาโรคผอมเหลืองของพระเจ้าจัณฑปัชโชตแห่งนครอุชเชนีด้วยเนยใสหุงกับยานานาชนิด

โดยกรณีหลังนี้หมอชีวกฯได้รับผ้าสิไวยกะ (ผ้าเนื้อดีมีชื่อ) เป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งหมอชีวกฯคิดว่า ผ้าเนื้อดีขนาดนี้คู่ควรกับพระเจ้าพิมพิสารหรือพระพุทธเจ้าเท่านั้น ต่อมาหมอชีวกฯก็ได้มีโอกาสพบกับพระพุทธเจ้า โดยเริ่มจากที่พระพุทธเจ้าได้บอกกับพระอานนท์ว่า

พ : อานนท์ ร่างกายของตถาคตนี้หมักหมมไปด้วยสิ่งเป็นโทษ อยากจะฉันยาถ่ายหน่อย (เมื่อพระอานนท์ไปบอกหมอชีวกฯ หมอชีวกฯจึงกล่าวว่า...)
ช : พระคุณเจ้าโปรดช่วยทำให้ร่างกายของท่านสดชื่นขึ้นอีกสัก 2-3 วัน (หลังจากนั้น หมอชีวกฯก็คิดว่า เราไม่ควรถวายยาถ่ายที่หยาบแก่ท่าน ถ้ายังไงเราอบก้านบัวด้วยยาต่างๆแล้วถวายดีกว่า เมื่ออบเสร็จแล้วจึงได้ไปหาพระพุทธเจ้า)

@@@@@@@

ช : ขอท่านสูดก้านบัวก้านที่หนึ่งนี้ แล้วจะทำให้ท่านถ่ายสิบครั้ง จากนั้นให้สูดก้านที่สอง ท่านจะถ่ายอีกสิบครั้ง ตามด้วยก้านที่สาม ซึ่งจะทำให้ท่านถ่ายอีกสิบครั้ง ด้วยวิธีนี้ ท่านจะถ่ายทั้งหมดสามสิบครั้ง (เมื่อหมอชีวกฯถวายหมดแล้ว ได้ขอตัวกลับ แต่ระหว่างทางเกิดคิดขึ้นมาว่า ร่างกายของพระพุทธเจ้ามีสิ่งเป็นโทษหมักหมมอยู่ จะถ่ายได้แค่ 29 ครั้ง ท่านจะต้องอาบน้ำก่อน แล้วจึงจะถ่ายได้อีกครั้ง ซึ่งในเวลาเดียวกัน พระพุทธเจ้าได้บอกให้พระอานนท์เตรียมน้ำร้อนเพื่ออาบไว้ ครั้งหมอชีวกฯกลับไปหาพระพุทธเจ้าอีกที ได้ถามว่า...)
ช : ท่านถ่ายแล้วหรือ.?
พ : เราถ่ายแล้ว ชีวก

ช : ตอนที่ผมกำลังเดินกลับไป ได้คิดขึ้นมาว่าร่างกายของท่านมีสิ่งเป็นโทษหมักหมมอยู่ จะถ่ายได้แค่ 29 ครั้ง ท่านจะต้องอาบน้ำก่อน แล้วจึงจะถ่ายได้อีกครั้ง ขอท่านได้โปรดอาบน้ำก่อนเถิด (หลังจากที่พระพุทธเจ้าอาบน้ำแล้ว ท่านก็ถ่ายอีกครั้งหนึ่ง หมอชีวกฯได้แจ้งเพิ่มเติมว่า...)
ช : ท่านไม่ควรฉันอาหารที่ปรุงด้วยน้ำต้มผักต่างๆ จนกว่าจะหายเป็นปกติ (ต่อมาไม่นาน หมอชีวกฯได้ถือผ้าสิไวยกะ (ผ้าเนื้อดีมีชื่อซึ่งหมอชีวกฯได้รับจากการรักษาพระเจ้าจัณฑปัชโชตแห่งนครอุชเชนี) เข้าไปหาพระพุทธเจ้าแล้วกล่าวว่า...)


@@@@@@@

ช : ผมอยากขอพรจากท่านสักข้อหนึ่ง
พ : ตถาคตเลิกให้พรแล้ว ชีวก
ช : ผมจะขอพรที่สมควรและไม่มีโทษ
พ : ถ้าอย่างนั้นจงว่ามาเถิด

ช : ปกติท่านและพระสงฆ์จะใช้ผ้าบังสุกุล (ผ้าเปื้อนฝุ่นห่อศพหรือผ้าที่คนทิ้งแล้ว) เป็นจีวรอยู่ แต่ผ้าสิไวยกะของผมผืนนี้เป็นผ้าที่พระเจ้าจัณฑปัชโชตให้มา เป็นผ้ามีชื่อเนื้อดีกว่าผ้าอื่นๆมาก ขอท่านโปรดรับผ้าสิไวยกะคู่นี้ของผม และขอท่านอนุญาตให้พระสงฆ์ใช้คหบดีจีวร(จีวรที่มีคนถวาย)ได้ด้วยเถิด (พระพุทธเจ้ารับผ้าสิไวยกะคู่นั้น แล้วได้แสดงธรรมให้หมอชีวกฯฟังและรับไปปฏิบัติ หลังจากหมอชีวกฯกลับไปแล้ว ท่านได้พูดกับภิกษุทั้งหลายว่า...)

พ : เราอนุญาตคหบดีจีวร จะใช้ผ้าบังสุกุลหรือผ้าคหบดีก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรูป แต่เราสรรเสริญการไม่เลือกรับ โดยให้เป็นไปตามมีตามได้ (หลังจากประชาชนในนครราชคฤห์รู้ข่าวว่า พระพุทธเจ้าอนุญาตให้ภิกษุใช้คหบดีจีวรได้ ต่างก็พากันดีใจว่าจะได้ถวายทานบำเพ็ญบุญ เพียงวันเดียวก็มีจีวรหลายพันผืนเกิดขึ้นทั้งในนครราชคฤห์และชนบทรอบๆ)




ที่มา : เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 7 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 จีวรขันธกะ พุทธานุญาตคหบดีจีวร กำเนิดชีวกโกมารภัจจ์ ข้อ 128), 2559, น.230-250
ขอบคุณภาพจาก : https://pin.it/5RCmhr4
ขอบคุณ : dhamma.serichon.us/2021/02/25/รับการรักษาและรับจีวรจ/
25 กุมภาพันธ์ 2021 ,By admin.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ