ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรุงเทพฯ ตั้งเค้าเป็นราชธานี ที่ปราสาทสด๊อกก๊อกธม หลักแหล่ง “ลัทธิเทวราช”  (อ่าน 963 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ปราสาทสด๊กก๊อกธม อ. โคกสูง จ. สระแก้ว


กรุงเทพฯ ตั้งเค้าเป็นราชธานี ที่ปราสาทสด๊อกก๊อกธม หลักแหล่ง “ลัทธิเทวราช”

กรุงเทพฯ เริ่มตั้งเค้าเป็นราชธานี

เจ้าพระยาจักรี (ร.1) รู้ข่าวจลาจลกรุงธนบุรี ยกไพร่พลจากเสียมเรียบ (พระเจ้าตากให้ไปตีเขมร) พักรอฟังข่าวที่ด่านพระจารึก คือ ปราสาทสด๊กก๊อกธม หลวงสรวิชิต {หน (ข้าหลวงเดิม คนสนิท)} ลักลอบเอาข้อราชการกรุงธนบุรีไปบอกเจ้าพระยาจักรี ที่ด่านพระจารึก (หลังปราบดาภิเษก ได้เป็นพระยาพิพัฒโกษา, เจ้าพระยาพระคลัง) {มีในพระราชพงศาวดารฯ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ฉบับตัวเขียน)}

กรุงเทพฯ ตั้งเค้าเป็นราชธานี ที่ปราสาทสด๊อกก๊อกธม หลักแหล่ง “ลัทธิทวราช” เจ้าพระยาจักรีตัดสินใจยกพลเข้ากรุงธนบุรี ปราบจลาจล, ปราบดาภิเษก, สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 6 เมษายน 2325 เท่ากับกรุงเทพฯ เริ่มตั้งเค้าเป็นราชธานีแห่งใหม่ที่ด่านพระจารึก คือปราสาทสด๊กก๊อกธม


ปราสาทสด๊กก๊อกธม ต. โคกสูง อ. โคกสูง จ. สระแก้ว (ภาพจากโดรนมติชนทีวี)

หลักแหล่ง “ลัทธิเทวราช”

จารึกสด๊กก๊อกธม พรรณนาความเป็นมาของลัทธิเทวราช และตระกูลพราหมณ์ผู้เป็นเจ้าพิธีลัทธิเทวราช เกี่ยวข้องพื้นที่และปราสาทสด๊กก๊อกธม (โดยไม่พบในที่อื่น) เสมือนเป็นหลักแหล่งสำคัญของตระกูลพราหมณ์เจ้าพิธีลัทธิเทวราช เป็นตระกูลพราหมณ์ปุโรหิต ผู้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์กัมพูชาตามลัทธิเทวราช

ลัทธิเทวราช

ลัทธิเทวราช หมายถึง ระบบความเชื่อว่าพระราชามนุษย์เมื่อสวรรคต ผีพระขวัญจะขึ้นไปสถิตรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเทวะบนสวรรค์ เรียกเทวราช มีพลังอําานาจปกป้องคุ้มครองให้คุณและโทษผู้มีชีวิตในราชอาณาจักร โดยเทวราชสามารถสื่อสารกับคนทั้งปวงผ่านพราหมณ์พิธี (หรือ หมอพราหมณ์) ในพิธีทรงเจ้าเข้าผี

เหล่านี้มีขึ้นจากการประสมประสานความเชื่อท้องถิ่นในศาสนาผี เข้ากับความเชื่อสากลเรื่องราชาเหนือราชาทั้งหลาย ที่เรียก จักรพรรดิราช หรือ จักรวาทิน โดยรับเข้ามาใหม่จากอินเดียพร้อมศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

การประสมประสานกันระหว่างความเชื่อเก่ากับความเชื่อใหม่ น่าจะก่อหวอดมีแล้วตั้งแต่ศาสนาจากอินเดียแผ่ถึงอุษาคเนย์ เพื่อยกสถานะคนชั้นนําพื้นเมืองท้องถิ่นจากหมอมดหมอขวัญขึ้นเป็นเจ้า ได้แก่ เทพเจ้า (หรือ พระพุทธเจ้า) สืบเนื่องจนสมมุติชื่อเรียกสมัยหลังว่าลัทธิเทวราช เป็นความเชื่อมีในราชสํานักภูมิภาคอุษาคเนย์ โดยเฉพาะราชสํานักอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเรือน พ.ศ. 1500 {นักวิชาการตรวจทานแล้วลัทธิเทวราชไม่พบในอินเดีย}

ราชสํานักรัฐละโว้ (ลพบุรี) พูดภาษาเขมร เป็นขอม รับลัทธิเทวราชจากอาณาจักรกัมพูชา แล้วส่งต่อราชสําานักรัฐอยุธยา (ที่สืบทอดจากรัฐละโว้)


ปราสาทสด๊กก๊อกธม ต. โคกสูง อ. โคกสูง จ. สระแก้ว (ภาพจากโดรนมติชนทีวี)

เทวราช เป็นลัทธิความเชื่อถูกสร้างใหม่ โดยรับความเชื่อเรื่องเทวะเข้าประสมกลมกลืนกับความเชื่อเรื่องผีขวัญ แล้วได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหม่ขนานนามว่าเทวราช มีอํานาจเหนือธรรมชาติ (ซึ่งเป็นแบบใหม่) ที่คลุกเคล้ากันระหว่างเทวดากับผี ซึ่งมีตัวอย่างสําคัญมากที่ปราสาทนครวัด

เทวราชปราสาทนครวัด พระเจ้าสูรยวรรมัน (สุริยวรมัน) ที่ 2 ผู้ทรงสร้างปราสาทนครวัด ครั้นสวรรคตแล้วผีพระขวัญถูกเชิญสู่โลกหลังความตาย รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระวิษณุ เท่ากับทรงเป็นเทวราชได้พระนามใหม่ว่า พระบรมวิษณุโลก หมายถึง ผู้เสด็จไปประทับบนโลกอันสูงส่งของพระวิษณุ

[เทวราช โดยทั่วไปหมายถึง พระศิวะ (ตามคติไศวนิกาย) แต่ปราสาทนครวัด สร้างโดยพระเจ้าสูรยวรรมันที่ 2 นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไวษณพนิกาย บูชาพระวิษณุ จึงปรับเปลี่ยนเทวราชหมายถึงพระวิษณุ ไปตามความเชื่อของกษัตริย์ผู้มีอํานาจ]

ชมรายการ ขรรค์ชัย สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว ตอน กรุงเทพฯ ตั้งเค้าเป็นราชธานี ที่ปราสาทสด๊อกก๊อกธม หลักแหล่ง “ลัทธิเทวราช” ได้ที่ : https://youtu.be/Pc5BK3clwY8




เผยแพร่ : วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2564
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ : เมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ.2562
ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/on-view/tour-tod-nong-tong-tiew/article_34567
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ