ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นภาระคนอื่น อยู่หรือเปล่า.? | ถ้าไม่อยากเป็นคนแบบนั้น แค่ทำตาม 7 ข้อนี้..  (อ่าน 1001 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

Background photo created by kues - www.freepik.com


เป็นภาระคนอื่น อยู่หรือเปล่า.? | ถ้าไม่อยากเป็นคนแบบนั้น แค่ทำตาม 7 ข้อนี้..

ในยุคที่มองไปทางไหนก็มีแต่วิกฤต แทบจะหาความสุขไม่ได้แบบทุกวันนี้ หลาย ๆ คนอาจประสบกับความยากลำบากอยู่ บางคนอาจรู้สึกสิ้นหวัง บางคนอาจรู้สึกเป็นภาระของคนอื่น เช่นนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกแย่ ๆ ได้ แต่ทุกปัญหามีทางออก หากใครกำลังรู้สึกว่าเป็นภาระคนอื่น และไม่สบายใจอยู่ ลองทำตาม 7 คำแนะนำเหล่านี้ดูนะคะ อาจจะช่วยแบ่งเบาความเครียดลงได้บ้าง

@@@@@@@

1. รับผิดชอบบทบาทหน้าที่

การลดภาระต่อคนรอบข้างที่ดีที่สุดคือการรับผิดชอบบทบาทและหน้าที่ของตัวเองให้ดี เมื่อเรามีกำลังวังชา สภาพร่างกายและสภาพจิตใจที่เอื้ออำนวย ขอให้ทำหน้าที่ตัวเองอย่างสุดความสามารถ ขอยกตัวอย่างเรื่องในครอบครัว เช่น หากเราเป็นลูกหลานวัยกำลังศึกษาเล่าเรียน อาจจะรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระที่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตแบบทุกวันนี้ ทางครอบครัวอาจจะได้รับความลำบาก ตนเองในฐานะที่ยังช่วยหารายได้อะไรมากไม่ได้เท่าวัยทำงาน อาจจะรู้สึกเครียดไปด้วย ต้องใจเย็น ๆลองปรึกษาคนในครอบครัวว่ายังไหวหรือไม่ มีทางออกอะไรที่จะสามารถช่วยพยุงกันไปได้บ้างไหม

แม้แต่บทบาทหน้าที่อื่น ๆ ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานในฐานะลูกน้อง หัวหน้า หรือใครก็แล้วแต่ทุกคนต้องรับผิดชอบและทำหน้าที่ตัวเองให้ดี จะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่นต้องคอยจัดการ ในห้วงความยากลำบากเช่นนี้ ช่วยกันได้ช่วยกันไปค่ะ

2. ช่วยเหลือแบ่งเบาเมื่อทำได้

หากยังพอมีพลังที่จะช่วยเหลือตัวเองและคนอื่นได้ ก็ลองช่วยแบ่งเบาภาระนั้น เช่น หากเป็นนักเรียนนักศึกษา อยากแบ่งเบาภาระที่บ้านก็ลองหาทุนการศึกษา หรือทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาช่วยจุนเจือครอบครัวเท่าที่ทำได้ และไม่สร้างภาระเพิ่ม หรือหากไปต่อไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องยอมลดภาระตรงส่วนนี้ลง อาจจะดร็อปเรียนก่อนหรือไม่ ก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละบ้านไป

การช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยจะเสริมทางพลังใจทางอ้อม เพราะจะได้ไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกแบกรับภาระอันหนักอึ้งอยู่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องจมทุกข์อยู่คนเดียวเสมอไป

3. พยายามรักษาผลประโยชน์ตัวเอง

การพยายามรักษาผลผระโยชน์ที่ตัวเองมีอยู่จะช่วยลดภาระต่อคนอื่น ๆ ได้ อย่างเช่น ช่วงนี้หากตกงานก็พยายามหาช่องทางการชดเชยหรือการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ อาจจะติดต่อขอรับเงินช่วงว่างงานจากประกันสังคม ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือจากรัฐ หรือที่ต่าง ๆ เพื่อค้ำจุนตัวเองและไม่เดือดร้อนคนอื่นให้ได้มากที่สุดไปก่อนชั่วคราว หรือแม้แต่พักชำระหนี้ นโยบายจากหน่วยงานต่าง ๆ มีอะไรก็ศึกษาและลงทะเบียนไว้ อาจจะช่วยได้บ้างค่ะ

4. ให้กำลังใจก็สำคัญ

หากในที่สุดแล้วเราไม่อาจช่วยเหลืออะไรใครได้มากมายนัก การไม่กดดัน ไม่สร้างความเครียดเพิ่มเติม ร่วมถึงการรู้จักให้กำลังใจคนที่กำลังรับภาระอยู่ก็ช่วยเติมพลังชีวิตได้เช่นกัน เพราะมันแสดงถึงความไม่เพิกเฉย และความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อกัน เราต่างรู้ว่ามันแย่ แต่เราทุกคนจะผ่านมันไปได้ด้วยกัน

@@@@@@@

5. อย่าพยายามโทษตัวเอง

มันต้องมีบางจังหวะของความคิดที่เราโทษตัวเองว่าเราไม่น่าเป็นภาระคนอื่นเลย รู้สึกผิดจัง มันเป็นปกติของสภาพจิตใจ แต่ว่าเมื่อรู้เท่าทันความคิดก็ต้องรีบกำจัดมันออก ไม่เช่นนั้นจะยิ่งสร้างความรู้สึกลบต่อ ๆ ไปอีก และไม่เป็นผลดีทั้งต่อตนเองและคนที่กำลังดูแลภาระเราอยู่ พยายามดึงตัวเองกลับมาอยู่ในจุดที่โอเค จะได้มองเห็นภาพว่าจะต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ต่อไปในวันพรุ่งนี้

6. คิดหน้าคิดหลังก่อนทำ

สิ่งสำคัญก็คือหากจะลงมือทำอะไรก็ตาม ควรคิดถึงผลที่จะตามมา ทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะนั้นทำให้เรารู้จักรับมือผลที่อาจเกิดขึ้นได้ และไม่วู่วามจนทำอะไรที่ยั้งคิดที่อาจเกิดภาระต่อเราและคนอื่นได้ในอนาคต ตัวอย่างที่มักจะพบเจอเช่น อยากได้ของชิ้นใหญ่ บ้าน รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ต่าง ๆ ตอนอยากได้ก็คิดไว้แล้วว่าจะผ่อนไหว เราหาเงินได้สบายมาก เงินแค่นี้เอง

แต่พอถึงวิกฤตที่มันมาแบบไม่ทันตั้งตัว หาเงินผ่อนส่งไม่ได้ลำบากทั้งตัวเอง บางคนลำบากไปถึงคนค้ำประกัน รับภาระกันไป แบบนี้ก็ไม่โอเค จริง ๆ แล้วก่อนซื้อก็ควรวางแผนการใช้จ่าย เงินสำรองต่าง ๆ ไว้ให้พร้อมก่อน อย่าใจร้อน เพราะไม่เช่นนั้นเราอาจไม่ใช่คน ๆ เดียวที่รับภาระ แต่หมายถึงชีวิตคนรอบข้างที่ต้องรับภาระแทนเราด้วย

7. เมื่อพร้อม ก็ตอบแทน

เมื่อผ่านช่วงรู้สึกเป็นภาระมาได้แล้ว แม้จะไม่ง่าย แต่เชื่อว่าสักวันจะเกิดขึ้น และหากวันที่เราพร้อมก็ควรหันกลับไปซัพพอร์ตคนที่เคยช่วยเหลือเรา ช่วยอะไรได้ก็ให้ช่วย ตอบแทนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยดูแลเรามา ช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบนี้ รับรองว่าเราจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเวลาตต้องจมทุกข์อีกต่อไป





ขอบคุณ : https://today.line.me/th/v2/article/knGQEo
LINE TODAY ORIGINAL, เผยแพร่ 30 ก.ค. เวลา 00.00 น. • nawa.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ