ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บูชายักษ์ "ท้าวเวสสุวรรณ" มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งใจดีมีเมตตา  (อ่าน 928 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



บูชายักษ์ "ท้าวเวสสุวรรณ" มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งใจดีมีเมตตา

“ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร” ที่เราๆท่านๆจะเห็นว่าเป็นเทพหรือยักษ์อยู่ตามวัดวาอารามต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณซุ้มประตูทางเข้าวัดยืนตระหง่านเด่นดูสง่าน่าเกรงขาม

ความเชื่อที่มีต่อท้าวเวสสุวรรณนั้น...เป็นถึงหนึ่งในท้าวจาตุมหาราชผู้ครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา แล้วก็ยังมีชื่อเรียกอื่นอีกว่า “ธนบดี” ซึ่งหมายถึงผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ธเนศวร ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์

ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งยักษ์, มยุราช... เจ้าแห่งกินนร, อิจฉาวสุ..ความมั่งมีได้ตามใจ, รากษเสนทร์...ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส,ท้าวกุเรปัน ฯลฯ

หนึ่งในตำนานอดีตชาติของท้าวกุเวร... พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่า “กุเวร” เป็นคนใจดีมีเมตตา ทำไร่อ้อยแล้วเอามาหีบทำน้ำอ้อยขายยึดอาชีพสุจริตเป็นนิจศีล



ทำไปเรื่อยๆกิจการรุ่งเรืองเป็นเจ้าของหีบยนต์บีบอ้อย 7 เครื่อง จึงสร้างบ้านพักสำหรับคนเดินทาง บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานแก่ผู้คนที่ผ่านไปมาตลอดทั้งชีวิต

ด้วยอำนาจกุศลผลบุญที่พราหมณ์กุเวรได้ทำ หนุนนำให้ไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา นามว่า “กุเวรเทพบุตร” ต่อมาได้รับการเทวาภิเษก ขึ้นครองราชย์เป็นผู้ดูแลพระนครสวรรค์ชั้นที่ 1 ด้านทิศเหนือ และได้พระนามใหม่ว่า “ท้าวเวสสุวรรณ”

กล่าวกันว่า...“คฑาวุธ” ของท้าวเวสสุวรรณนั้นถือเป็นยอดแห่งศัสตราวุธที่มีอานุภาพมหาศาลยิ่งนัก สามารถทำลายโลกใบนี้ได้เป็นจุณในพริบตาเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่า..ตามวัดวาอารามต่างๆหน้าโบสถ์วิหารจะมีท้าวเวสสุวรรณยืนเฝ้าตระหง่าน ด้วยเชื่อกันว่าจะคอยปกป้องสมบัติล้ำค่า ของมีค่าโบราณและอีกนัยหนึ่งก็แฝงไปด้วยหน้าที่เป็นเทพผู้ที่ทำหน้าที่คอยพิทักษ์ รักษาพระพุทธศาสนาสืบต่อไปตราบนานเท่านาน

@@@@@@

อีกเรื่องราวที่บันทึกไว้เกี่ยวกับ “ท้าวเวสสุวรรณ” มีด้วยว่าเป็นยักษ์ที่มีฟันแปดซี่ มีสี่กร พระวรกายสีขาว สวมอาภรณ์งดงามมีมงกุฎเป็นน้ำเต้าทรงอยู่พระเศียร

แต่มีรูปกายพิการ ร่างกายกำยำดูแข็งแรง รูปร่างสมส่วน มือขวาถือกระบองยาวมียักษ์เป็น บริวาร ยักษ์...จะเป็นพวกกายทิพย์พวกหนึ่งมีสันดานที่แตกต่างกัน

บางตน...มีสันดานดีประกอบด้วยศีลธรรม บางตน...มีสันดานร้าย จิตใจเต็มไปด้วยโทสะโมหะ

อีกตำนานหนึ่งก็ว่า...ท้าวเวสสุวรรณนั้นยังมีกายสีเขียว สัณฐานสูง 2 คาวุต ประมาณ 200 เส้น มีอาวุธเป็นกระบอง มีพาหนะ ช้าง ม้า รถ ปราสาท อาภรณ์มงกุฎประดับรูปนาค ดำรงอิสริยยศเป็นเจ้าแห่งยักษ์ มีบริวารแสนโกฏิ ถือโล่แก้วประพาฬ หอกทอง



ส่วนที่มาชื่อเรียก “ท้าวกุเวร” นั้น ก็สืบเนื่อง มาจากท้าวกุเวรมีรูปร่างพิการ จึงมีเหตุให้พระพรหมตั้งชื่อให้ท้าวกุเวร หากย้อนไปในหลายตำรา ท้าวเวสสุวรรณเป็นยักษ์ที่มีกายผิวพรรณ และพัสตราภรณ์สีเหลืองทองจิตใจดีงาม...อุทิศตนเพื่อพิทักษ์สัมมาสัมพุทธเจ้า สังเกตได้จากรูปปั้นยักษ์บริเวณวัด

ตามวัดต่างๆเรามักจะเห็นท้าวเวสสุวรรณ รูปปั้นยักษ์ที่มีหนึ่งหรือสองตน ยืนถือกระบองค้ำยืนอยู่หน้าวิหาร หรือโบสถ์ที่เก็บของมีค่า โบราณวัตถุของทางวัด ถ้ามีตนเดียวก็คือ “ท้าวเวสสุวรรณ”...แต่ถ้ามีสองตนก็คือบริวารของท้าวเวสสุวรรณที่คอยทำหน้าที่ปกปักรักษาบริเวณวัด

เล่าสืบๆต่อกันมาด้วยว่า...อาณาเขตที่ท้าวเวสสุวรรณนั้นมีพื้นที่ปกครองกว้างใหญ่ไพศาลเหลือคณานับ อีกทั้งยังมีหน้าที่เป็นหัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4...

นี่เองกระมังที่ผู้คนมีความเชื่อศรัทธากันมากว่าการบูชาท้าวเวสสุวรรณจะช่วยขับไล่ภูตผีปิศาจไปได้ “ท้าวเวสสุวรรณ”...จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางของขลังกันวิญญาณร้ายได้เป็นอย่างดี

ด้วยเป็นเทพ แห่งอสูร แต่โบราณ นานมาแล้วจึงทำรูปท้าวเวสสุวรรณอยู่ในรูปของยักษ์ ยืนถือกระบองยาวหรือไม้เท้าขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางระหว่างขา



บางตำราโบราณก็ว่า... ที่จริงแล้วท้าวเวสสุวรรณนั้นเป็นยักษ์ที่มีผิวกาย พัสตราภรณ์เป็นสีทองเหลืองงามอร่ามนัก ที่สำคัญมีจิตใจดีงามแตกต่างจากหน้าตาที่ดูน่ากลัว ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม พร้อม ที่จะอุทิศรักษาพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่ยิ่ง

กล่าวกันว่า...ยังทำหน้าที่จดรายละเอียดความดีงามของผู้คนไปประกาศให้เทวดาใน สวรรค์ชั้นฟ้ารับรู้อีกด้วย

โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นเทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์ นัยว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” นั้นเป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง ผู้เป็นเทพที่รักษาสมบัติของเทวโลก อีกทั้งยังมีอำนาจปกครองดูแลยักษ์ ภูตผีปิศาจทั้งหลาย ท้าวเวสสุวรรณจึงถือได้ว่ามีพลังอำนาจบารมีมากยิ่ง

คัมภีร์เทวภูมิ กล่าวย้ำศรัทธายิ่งใหญ่ ด้วย “ท้าวเวสสุวรรณ” ได้บำเพ็ญเพียรบารมีมานานหลายพันปี รับพรจากพระอิศวร พระพรหมให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวยคัมภีร์โบราณจึงมีบันทึกไว้ด้วยว่า...ผู้ใดหากมีหวังตั้งประสงค์อยากที่จะมีความเจริญในด้านลาภยศ สรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง กระทั่งอำนาจวาสนาแล้วละก็

...ให้ไปหาบูชารูป “ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร”

@@@@@@

คาถาบูชาประจำวัน “ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร” ตั้งนะโม 3 จบ...อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ


ต้องย้ำกันจริงๆอีกครั้งว่า...ผู้คนไม่น้อยเชื่อศรัทธากันว่าเมื่อบูชา “ท้าวเวสสุวรรณ” แล้ว จักได้รับความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตัวอย่างไม่ขาด ทั้ง... ลาภยศ สรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนาบารมีที่แม้เกิดขึ้นได้ยากยิ่งก็จักมีเข้ามาในชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

                           รัก-ยม






Thank to : https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/2545066
6 พ.ย. 2565 05:57 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ