ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไปรษณีย์บาตร.!? วิธีส่งข่าวระหว่างสงฆ์-สงฆ์ เพื่อการชุมนุมงานใต้ดิน  (อ่าน 851 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ภาพประกอบบทความนี้ บุคคลในภาพไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด (ภาพจาก ห้องสมุดภาพมติชน)


ไปรษณีย์บาตร.!? วิธีส่งข่าวระหว่างสงฆ์-สงฆ์ เพื่อการชุมนุมงานใต้ดิน

“ไปรษณีย์บาตร” คือวิธีส่งข่าวสารระหว่าง พระสงฆ์ กับ พระสงฆ์ เพื่อให้คณะสงฆ์มาชุมนุมกันตามนัดหมาย เพื่อประชุม จัดตั้ง “คณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนา” เมื่อปี 2477

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 สังคมไทยเกิดความตื่นตัวในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในหมู่ประชาชนเท่านั้น ในคณะสงฆ์เองก็มีการเรียกร้องความเสมอภาคในการปกครองจากเจ้าอาวาสอยู่เป็นระยะๆ

นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวของพระสงฆ์มหานิกายที่เรียกร้องขอแก้ไข “พระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 112” ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างมหานิกายกับธรรมยุต จนมีการถอดสมณศักดิ์พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ดังกรณีของ พระญาณนายก (ปลื้ม) จังหวัดนครนายก ที่ทำให้พระสงฆ์รุ่นหนุ่มเห็นว่าควรแก้ไขโครงสร้างคณะสงฆ์ (ในที่นี้ไม่ขอลงรายละเอียดเรื่องปัญหาในคณะสงฆ์)

พระธรรมวรนายก (สมบูรณ์ จนฺทโก) และพระมหาประหยัด (ต่อมาลาสิกขา เป็นนายประหยัด ไพทีกุล) จากจังหวัดนครนายกที่เดินทางมาพำนักที่วัดสุทัศน์ฯ กับพระจันทร์ สุขมา ที่เป็นเพื่อนกับพระมหาประหยัด โดยอาศัยความร่วมมือจากสงฆ์มหานิกายด้วยกัน ก็เริ่มดำเนินแผนการเป็นระยะๆ

@@@@@@@

ขั้นที่ 1. เป็นการตกลงในหลักการ ของพระสงฆ์ 9 รูป เช่น พระธรรมวรนายก (สมบูรณ์ จนฺทโก), พระมหาประหยัด, พระจันทร์ สุขมา, พระมหากลีบ วัดมหาธาตุฯ ฯลฯ และเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ได้หารือกันในงานทำบุญบ้าน (ของครอบครัวพระจันทร์ สุขมา) โดยมีการสวดมนต์, เลี้ยงพระ ตามพิธีกรรมจนจบ พระทุกรูปจึงปรึกษาหารือกัน

ขั้นที่ 2. เป็นการหาสมาชิกใหม่เพิ่ม โดยต้องเป็นพระสงฆ์ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน กล้าหาญ และพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญ กำหนดให้แต่ละรูปแยกย้ายไปหาสมาชิกเพิ่มให้ได้อย่างน้อย 10 รูป โดยนัดหมายให้มาพร้อมกันในการประชุมครั้งต่อไปที่เป็นการประชุมใหญ่ในวันที่ 11 มกราคม 2477

ขณะนั้นการติดต่อสื่อสารยังไม่สะดวกรวดเร็วเช่นปัจจุบัน นอกจากนี้เรื่องที่กำลังกระทำยังเป็นลักษณะ “ใต้ดิน” และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกลงโทษจากระเบียบของคณะสงฆ์ และกฎหมายบ้านเมืองได้ ทว่าการติดต่อสื่อสารระหว่างพระสงฆ์ในแต่ละวัดก็ดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว

โดยใช้ช่วงเวลาตอนเช้า ที่พระสงฆ์ทุกรูปจะต้องออกบิณฑบาตเป็นกิจวัตรประจำวันและไม่ผิดสังเกต เมื่อต้องการส่งข่าวสาร, ข้อมูล, การนัดหมาย ฯลฯ ก็จะเขียนใส่กระดาษเตรียมไว้ เมื่อต้องออกบิณฑบาต ก็เอากระดาษนั้นไปให้ในบาตรมอบให้พระสงฆ์รูปอื่น เพื่อแจ้งข่าว, นัดหมาย ฯลฯ พระธรรมวรนายก (สมบูรณ์ จนฺทโก) จึงเรียกวิธีนี้ว่า “ไปรษณีย์บาตร”


@@@@@@@

แล้ว “ไปรษณีย์บาตร” ได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร.?

ปรากฏว่าวันที่ 11 มกราคม 2477 ที่นัดประชุมใหญ่นั้น มีพระสงฆ์จากมหานิกายเกือบ 400 รูป จากวัดชื่อดังในกรุงเทพฯ เช่น วัดมหาธาตุฯ, วัดพระเชตุพนฯ, วัดเบญจมบพิตรฯ, วัดสุทัศน์ฯ ฯลฯ มาร่วมประชุมที่ “บ้านภัทรวิธม” (เป็นบ้านของคหบดีท่านหนึ่งที่เป็นเพื่อนกับบิดาของพระจันทร์ สุขมา อยู่ที่บางรัก ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง และมิดชิดดี) สามารถเลือกประธาน รองประธาน และกรรมการ

“ไปรษณีย์บาตร” ที่พระสงฆ์ไทยใช้นั้น จึงนับเป็นช่องทางการสื่อสารง่ายๆ ที่เนียน เนี้ยบ และได้ผลดี

อ่านเพิ่มเติม :-

   




ขอขอบคุณ :-
ข้อมูลจาก : คนึงนิตย์ จันทบุตร. การเคลื่อนไหวของยุวสงฆ์ไทยรุ่นแรก พ.ศ. 2477-2488, มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมานุษยศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่ 1 เมษายน 2528
ผู้เขียน : วิภา จิรภาไพศาล
เผยแพร : วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2566
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_101339
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ