ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศุกร์ (สุข) ละวัด ไหว้ ‘พระศาสดา’ ชมความงามจิตรกรรมฝาผนัง ที่ ‘วัดสุวรรณาราม’  (อ่าน 961 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

 :25: :25: :25:

ศุกร์ (สุข) ละวัด ไหว้ ‘พระศาสดา’ ชมความงามจิตรกรรมฝาผนัง ที่ ‘วัดสุวรรณาราม’

วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดสุวรรณาราม” เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ปัจจุบันวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงข้ามกับแยกบางขุนนนท์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม.

วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ “วัดทอง” มีลักษณะเป็นลานกว้างขวาง ในสมัยกรุงธนบุรี เป็นสถานที่ซึ่ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระราชดำรัสให้นำเชลยศึกพม่าจากค่ายบางแก้วไปประหารชีวิต




ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงรับเข้ามาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาปนาขึ้นใหม่ ทั้งพระอาราม และพระราชทานนามว่า “วัดสุวรรณาราม” เนื่องจากพระองค์มีพระนามเดิมว่า “ทองด้วง” เช่นเดียวกับชื่อวัด

นอกจากนี้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้มีพระราชศรัทธาสร้างเมรุหลวงสำหรับใช้ในการพระราชทานเพลิงศพเจ้านาย และขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งตามประเพณีต้องนำไปฌาปนกิจนอกกำแพงพระนครชั้นนอก โดยเมรุหลวงนี้ใช้มาจนถึงในสมัยรัชกาลที่ 5






ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณาราม และให้ช่างเขียนภาพฝาผนังในพระอุโบสถด้วย มีงานของหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์(คงแป๊ะ) ผู้เขียนมโหสถชาดก ซึ่งเป็นจิตรกรขึ้นชื่อในยุคนั้นทั้งคู่

ทั้งคู่เขียนภาพด้วยวิธีประชันกัน โดยใช้ผ้าคลุมภาพเอาไว้ และเปิดออกให้เห็นเมื่องานเสร็จแล้ว นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังในยุครัตนโกสินทร์ที่สวยงาม มีความละเอียดอ่อนของลายเส้น มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และมีความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และประเทศไทย




พระอุโบสถของวัด สร้างตามแบบแผนศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 มีเสาทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง มีระเบียงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ช่อฟ้าใบระกาประดับกระจก หน้าบันจำหลักลายรูปเทพนม และรูปนารายณ์ทรงครุฑปิดทอง

ภายในพระอุโบสถ นอกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานของ“พระศาสดา” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ฝีมือช่างเดียวกันกับพระศรีศากยมุนีที่วัดสุทัศน์ สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่เชิญมาแต่กรุงสุโขทัย ในสมัยรัชกาลที่ 1




มีความเชื่อ และความศรัทธาในพระศาสดาว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ และดลบันดาลให้สมประสงค์ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหาร ผู้คนจึงนิยมมาแก้บนด้วยการนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวและวิ่งวนรอบพระอุโบสถ 3 รอบ พร้อมกับส่งเสียงเหมือนม้าร้องไปด้วย เรียกว่า “วิ่งม้า” เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่าในอดีต มีผู้พบเห็นม้าสีขาวตัวหนึ่งวิ่งวนรอบพระอุโบสถ จึงเชื่อกันว่าพระศาสดาคงโปรดม้า





สถาปัตยกรรมอื่น ๆ ภายในวัดได้แก่ *พระวิหาร* สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีมุขขวางทั้งด้านหน้า และด้านหลัง กับ *หมู่กุฏิสงฆ์* ที่เป็นเรือนไม้ฝาปะกน เก่าแก่และงดงามมาก โดยเป็นหมู่ตึก 6 หลัง มีหอฉันอยู่กลาง และมีหอเล็กติดกำแพง 2 หอพร้อมทั้งหอระฆังและหอไตร

ใครผ่านวัดนี้ ลองแวะมาดูความสวยงามของจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถกันสักครั้ง









Thank to : https://www.thebangkokinsight.com/news/lifestyle/travel/1061929/
โดย PRASERT THEPSRI
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ