ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ครั้งแรกในรอบ 3 ปี สมโภชใหญ่ 253 ปี หลวงพ่อโสธร บูรณะพระเนตรใหม่  (อ่าน 1090 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29305
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ครั้งแรกในรอบ 3 ปี สมโภชใหญ่ 253 ปี หลวงพ่อโสธร บูรณะพระเนตรใหม่

สมโภชหลวงพ่อโสธร 253 ปี หลังบูรณะเสร็จสิ้น เปิดให้ประชาชนสักการะ และมีพิธีแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ หลังว่างเว้นพิธีโบราณมา 3 ปี การบูรณะครั้งนี้ได้ปรับเปลี่ยนพระเนตรองค์หลวงพ่อโสธรให้มองลงต่ำตามแบบดั้งเดิม เพื่อไม่ให้ผิดเพี้ยนจากอดีต



หลังบูรณะองค์หลวงพ่อโสธรเสร็จสิ้น วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา มีพิธีสมโภชครั้งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 2-6 เม.ย. 2566 พระมหาณรินทร ฐิตวีริโย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การสมโภช 253 ปี องค์หลวงพ่อโสธร จะมีความพิเศษในการอัญเชิญหลวงพ่อขึ้นจากแม่น้ำบางปะกง เป็นประเพณีโบราณที่ทำติดต่อกันมาทุกปี แต่พอมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงต้องหยุดไป และกลับมามีขบวนแห่ทางน้ำในปีนี้ โดยผู้มีจิตศรัทธาส่วนใหญ่รอคอยพิธีกรรมนี้ เพราะเชื่อว่าคนที่ร่วมขบวนแห่จะพบกับความสำเร็จ ปีนี้ขบวนแห่มีนางรำกว่า 1,000 คน มากกว่าทุกปีที่เคยจัดมา

ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ จัดขึ้นวันที่ 4 เม.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. มีการอัญเชิญหลวงพ่อโสธรจำลองขึ้นจากแม่น้ำ บริเวณท่าเรือวัดโสธรวรารามวรวิหาร ตามตำนานองค์หลวงพ่อลอยน้ำมา และชาวบ้านได้ใช้เชือกดึงขึ้นฝั่ง แต่เชือกขาด แล้วองค์หลวงพ่อจมน้ำหายไป จนมีการพบองค์หลวงพ่อโสธรลอยน้ำมาอีกครั้ง จึงมีผู้รู้แนะนำว่า ให้ตั้งศาลเพียงตา และทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญองค์หลวงพ่อโสธรขึ้นมาบนฝั่ง จึงสำเร็จ และตั้งประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถตั้งแต่ครั้งนั้น




สำหรับประชาชนที่มาร่วมขบวนแห่ทางน้ำ ควรมาที่วัดประมาณเที่ยง โดยแต่งกายสุภาพ เตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อนำองค์หลวงพ่อโสธร ขึ้นจากท่าน้ำ ประชาชนทั่วไปสามารถเดินตามขบวนแห่เข้าไปในพระอุโบสถ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต


พระเนตรหลวงพ่อโสธรหลังการบูรณะ

“เดิมวัดโสธร ชื่อว่าวัดหงษ์ หลังนำองค์หลวงพ่อโสธรขึ้นมาบนฝั่ง ภายในวัดยังมีเสาหงษ์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่พอมีพายุพัดเสาหงษ์หัก ชาวบ้านเลยเอาธงไปใส่แทน จากนั้นชาวบ้านเรียกชื่อวัดเพี้ยนมาเป็นวัดเสาธง ต่อมามีพายุพัดเสาธงหักอีกรอบ คำว่าทอน ในท้องถิ่นมีความหมายว่าหัก จึงเรียกว่า วัดเสาธงทอน ก่อนเพี้ยนมาเป็นวัดโสธร”


พิธีแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ

หลวงพ่อโสธร บูรณะตามตำราโบราณ

พระมหาณรินทร กล่าวต่อว่า องค์หลวงพ่อโสธร เริ่มดำเนินการบูรณะตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เดิมจะมีการบูรณะเพียงหลวงพ่อโสธร แต่ทางวัดมีมติให้บูรณะพระองค์อื่นที่เป็นบริวารอีก 17 องค์ รวมแล้วการซ่อมแซมครั้งนี้ทั้งหมด 18 องค์ หลังการบูรณะเสร็จได้เปิดให้ประชาชนกราบไหว้องค์จริงอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

การวางตำแหน่งองค์พระบริวารทั้ง 17 องค์ เป็นตำแหน่งตั้งแต่สมัยอดีต โดยหลวงพ่อโสธรไม่ใช่พระประธาน แต่มีองค์พระประธานอยู่ด้านหลัง เพราะมีองค์พระประธานตั้งอยู่เดิม เมื่อนำองค์หลวงพ่อโสธร ขึ้นมาจากแม่น้ำ จึงนำมาตั้งด้านหน้าพระประธาน


ภาพเปรียบเทียบหลวงพ่อโสธร ในอดีต

ตามคติความเชื่อพระบริวารทั้ง 17 องค์ มีเทพยดาสถิตอยู่ เมื่อคนที่มาขอพรกับหลวงพ่อโสธร เทวดาที่อยู่รายรอบจะดลบันดาลให้ตามบุญที่มี เลยทำให้คนที่มากราบไหว้ได้รับผลเร็ว เพราะเทวดารักษาหลวงพ่อมี 17 องค์ การบูรณะครั้งนี้ ปูนที่พอกหลวงพ่อมีการแตก เนื่องจากมีช่วงหนึ่งทาด้วยสีอะคริลิค เมื่อมีความร้อน ความชื้นสะสม ทำให้ปูนที่พอกมีรอยปริร้าว

ขณะเดียวกันการบูรณะครั้งนี้มีการแก้ไขพระเนตรองค์หลวงพ่อโสธร ตามข้อมูลของกรมศิลปากรระบุว่า พระเนตรมองลงต่ำ โดยไม่ได้เปิดพระเนตรแบบเต็มที่ ก่อนการสร้างพระอุโบสถ ชาวบ้านสามารถมาปิดทองหลวงพ่อได้ทั้งองค์ ด้วยความศรัทธาทำให้มีผู้ปิดทองบริเวณดวงตาจนมองไม่เห็นพระเนตร เมื่อลอกนำแผ่นทองออกพบว่ามีความหนา 2 เซนติเมตร พอมีการบูรณะปี 2549 ได้มีการทำให้พระเนตรเด่นชัดมากขึ้น พอมีการบูรณะครั้งล่าสุดจึงยึดถือตามแบบโบราณ ไม่ให้ผิดเพี้ยนไปจากรูปแบบเดิม

สำหรับประชาชนที่มาร่วมงานสมโภช และขบวนแห่ทางน้ำ เป็นนิมิตหมายอันดี เพราะทางวัดไม่ได้จัดงานตามแบบพิธีโบราณมากว่า 3 ปี จึงอยากเชิญชวนให้มากราบไหว้องค์หลวงพ่อโสธร เพื่อชื่นชมความงามหลังการบูรณะครั้งนี้.





ขอขอบคุณ
รูปจาก : เพจ วัดโสธรวราราม วรวิหาร
Thank to : https://www.thairath.co.th/scoop/interview/2667225
29 มี.ค. 2566 18:59 น. | สกู๊ปไทยรัฐ > Interview > ไทยรัฐออนไลน์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ