ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศีลไม่ถึงสมาธิ สมาธิไม่ถึงปัญญา คำนี้สำคัญอย่างยิ่ง  (อ่าน 5211 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
อรรถกถา ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
พรหมชาลสูตร


ศีลยังไม่ถึงสมาธิ เป็นอย่างไร?               
               คือว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ในปีที่ ๗ นับแต่ตรัสรู้ ได้ประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์ประมาณโยชน์หนึ่ง
ในรัตนมณฑปประมาณ ๑๒ โยชน์ ณ ควงต้นคัณฑามพฤกษ์ ใกล้ประตูนครสาวัตถี


เมื่อเทพยดากางกั้นทิพยเศวตฉัตรประมาณ ๓ โยชน์ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ย่ำยีเดียรถีย์ซึ่งแสดงการทรงถือเอาเป็นส่วนพระองค์ ในบริษัทประมาณ ๑๒ โยชน์ คือ

ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์อันเป็นไปโดยนัยมีอาทิว่า
ท่อไฟพวยพุ่งออกจากพระวรกายส่วนบน
สายน้ำไหลออกจากพระวรกายส่วนล่าง ฯ ล ฯ
ท่อไฟพวยพุ่งออกจากขุมพระโลมาแต่ละขุมๆ
สายน้ำไหลออกจากขุมพระโลมาแต่ละขุม มีวรรณะ ๖ ประการ ดังนี้.


               พระรัศมีมีวรรณะดุจทองคำ พุ่งขึ้นจากพระสรีระอันมีวรรณะดังทองคำของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
ไปจนถึงภวัคพรหม  เป็นประหนึ่งกาลเป็นที่ประดับหมื่นจักรวาลทั้งสิ้น.
รัศมีอย่างที่สองๆ กับอย่างแรกๆ เหมือนเป็นคู่ๆ พวยพุ่งออกราวกะว่าในขณะเดียวกัน.


               อันชื่อว่าจิตสองดวงจะเกิดในขณะเดียวกัน ย่อมมีไม่ได้. แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ทรงมีการพักภวังคจิตเร็ว และทรงมีความชำนาญที่สั่งสมไว้โดยอาการ ๕ อย่าง ดังนั้น พระรัศมีเหล่านั้นจึงเป็นไปราวกะว่าในขณะเดียวกัน.

               แต่พระรัศมีนั้นๆ ยังมีอาวัชชนะ บริกรรมและอธิษฐาน แยกกันอยู่นั่นเอง คือ

พระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระพุทธประสงค์รัศมีสีเขียว ก็ทรงเข้าฌานมีนีลกสิณเป็นอารมณ์
มีพระพุทธประสงค์รัศมีสีเหลือง ก็ทรงเข้าฌานมีปีตกสิณเป็นอารมณ์
มีพระพุทธประสงค์รัศมีสีแดงและสีขาว ก็ทรงเข้าฌานมีโลหิตกสิณเป็นอารมณ์ โอทากสิณเป็นอารมณ์
มีพระพุทธประสงค์ท่อไฟ ก็ทรงเข้าฌานมีเตโชกสิณเป็นอารมณ์
มีพระพุทธประสงค์สายน้ำก็ทรงเข้าฌานมีอาโปกสิณเป็นอารมณ์.


พระศาสดาเสด็จจงกรม พระพุทธนฤมิตก็ประทับยืน หรือประทับนั่ง หรือบรรทม.๑-
____________________________
๑- ขุ. ปฏิ. เล่ม ๓๑/ข้อ ๒๘๔

               บัณฑิตพึงอธิบายให้พิสดารทุกบท ด้วยประการฉะนี้.
               ในข้อนี้ กิจแห่งศีลแม้อย่างเดียวก็ไม่มี ทุกอย่างเป็นกิจของสมาธิทั้งนั้น.
               ศีลไม่ถึงสมาธิ เป็นอย่างนี้.

             

  อนึ่งเล่า ข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีมาสี่อสงไขยยิ่งด้วยแสนกัปแล้ว เมื่อกาลที่ทรงมีพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา เสด็จออกจากที่ประทับอันเป็นที่อยู่อาศัยอันเป็นสิริแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ผนวช ณ ริมฝั่งแม่น้ำอโนมา ทรงบำเพ็ญเพียรตลอด ๖ พรรษา.
 

         ครั้นถึงวันวิสาขบุรณมี ดิถีเพ็ญเดือน ๖ เสวยมธุปายาสใส่ทิพยโอชาซึ่งนางสุชาดา บ้านอุรุเวลคามถวาย
เวลาสายัณหสมัย เสด็จเข้าไปยังโพธิมัณฑสถานทางทิศทักษิณ และทิศอุดร

ทรงทำปทักษิณพญาไม้โพธิใบ ๓ รอบ
แล้วประทับยืน ณ เบื้องทิศอีสาน ทรงลาดสันถัตหญ้า
ทรงขัดสมาธิสามชั้น
ทรงทำกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์อันประกอบด้วยองค์ ๔ ให้เป็นเบื้องต้น
ทรงอธิษฐานความเพียร เสด็จขึ้นสู่บัลลังก์อันประเสริฐ ๑๔ ศอก
ผินพระปฤษฎางค์สู่ลำต้นโพธิ์อันสูง ๕๐ ศอก ราวกะต้นเงินที่ตั้งอยู่บนตั่งทอง
ณ เบื้องบนมีกิ่งโพธิ์กางกั้นอยู่ราวกะฉัตรแก้วมณี
มีหน่อโพธิ์ซึ่งคล้ายแก้วประพาฬหล่นลงที่จีวรซึ่งมีสีเหมือนทอง

 

ยามพระอาทิตย์ใกล้จะอัสดงคต ทรงกำจัดมารและพลมารได้แล้ว
ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณในปฐมยาม
ทรงชำระทิพยจักษุในมัชฌิมยาม
ครั้นเวลาปัจจุสสมัยใกล้รุ่ง
ทรงหยั่งพระปรีชาญาณลงในปัจจยาการที่พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสั่งสมกันมา
ยังจตุตถฌานมีอานาปานสติเป็นอารมณ์ให้บังเกิด
ทรงทำจตุตถฌาณนั้นให้เป็นบาท ทรงเจริญวิปัสสนา ทรงยังกิเลสทั้งปวงให้สิ้นไปด้วยมรรคที่ ๔
ที่พระองค์ทรงบรรลุแล้ว ตามลำดับแห่งมรรค ทรงแทงตลอดพระพุทธคุณทั้งปวง.


               นี้เป็นกิจแห่งปัญญาของพระองค์. สมาธิไม่ถึงปัญญา เป็นอย่างนี้.

ในข้อนั้น น้ำในมือยังไม่ถึงน้ำในถาด น้ำในถาดยังไม่ถึงน้ำในหม้อ
น้ำในหม้อยังไม่ถึงน้ำในไห น้ำในไหยังไม่ถึงน้ำในตุ่ม
น้ำในตุ่มยังไม่ถึงน้ำในหม้อใหญ่ น้ำในหม้อใหญ่ยังไม่ถึงน้ำในบ่อ
น้ำในบ่อยังไม่ถึงน้ำในลำธาร น้ำในลำธารยังไม่ถึงน้ำในแม่น้ำน้อย
น้ำในแม่น้ำน้อยยังไม่ถึงน้ำในปัญจมหานที น้ำในปัญจมหานทียังไม่ถึงน้ำในมหาสมุทรจักรวาล
น้ำในมหาสมุทรจักรวาลยังไม่ถึงน้ำในมหาสมุทรเชิงเขาสิเนรุ


น้ำในมือเทียบน้ำในถาดก็นิดหน่อย ฯ ล ฯ
น้ำในมหาสมุทรจักรวาลเทียบน้ำในมหาสมุทรเชิงเขาสิเนรุ ก็นิดหน่อย
ฉะนั้น น้ำในเบื้องต้นๆ ถึงมาก ก็เป็นน้ำนิดหน่อย โดยเทียบกับน้ำในเบื้องต่อๆ ไป ด้วยประการฉะนี้

      ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ศีลในเบื้องล่างก็มีอุปไมยฉันนั้นนั่นเทียว พึงทราบว่า
      มีประมาณน้อย ยังต่ำนัก โดยเทียบกับคุณในเบื้องบนๆ.
      ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

 
      ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อปุถุชนกล่าวชมตถาคตจะพึงกล่าวด้วยประการใด
      นั่นมีประมาณน้อยนัก ยังต่ำนัก เป็นเพียงศีล ดังนี้.


ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=09.0&i=1&p=3
อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=09&A=1&Z=1071



มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ
อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ
อาปูรติ ธีโร บุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ

ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่ามีประมาณน้อยจักไม่มีมาถึง
แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด
ผู้มีปัญญาสั่งสมบูญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น

ขุ.ธ. ๒๕/๓๑
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2011, 09:06:33 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาูธุ เจริญธรรม ปัญญายามเช้า ครับ
 :25:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

Be-boy

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 84
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ กับพระธรรม ยามเช้า ครับ
 :035:
บันทึกการเข้า
ออกกำลังกายเคลื่อนไหว เป็นสติครับ

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
ทรงทำประทักษิณพญาไม้โพธิใบ ๓ รอบ
แล้วประทับยืน ณ เบื้องทิศอีสาน ทรงลาดสันถัตหญ้า
ทรงขัดสมาธิสามชั้น
ทรงทำกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์อันประกอบด้วยองค์ ๔ ให้เป็นเบื้องต้น
ทรงอธิษฐานความเพียร เสด็จขึ้นสู่บัลลังก์อันประเสริฐ ๑๔ ศอก
ผินพระปฤษฎางค์สู่ลำต้นโพธิ์อันสูง ๕๐ ศอก ราวกะต้นเงินที่ตั้งอยู่บนตั่งทอง
ณ เบื้องบนมีกิ่งโพธิ์กางกั้นอยู่ราวกะฉัตรแก้วมณี
มีหน่อโพธิ์ซึ่งคล้ายแก้วประพาฬหล่นลงที่จีวรซึ่งมีสีเหมือนทอง
 
ยามพระอาทิตย์ใกล้จะอัสดงคต ทรงกำจัดมารและพลมารได้แล้ว
ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณในปฐมยาม
ทรงชำระทิพยจักษุในมัชฌิมยาม
ครั้นเวลาปัจจุสสมัยใกล้รุ่ง
ทรงหยั่งพระปรีชาญาณลงในปัจจยาการที่พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสั่งสมกันมา
ยังจตุตถฌานมีอานาปานสติเป็นอารมณ์ให้บังเกิด
ทรงทำจตุตถฌาณนั้นให้เป็นบาท ทรงเจริญวิปัสสนา ทรงยังกิเลสทั้งปวงให้สิ้นไปด้วยมรรคที่ ๔
ที่พระองค์ทรงบรรลุแล้ว ตามลำดับแห่งมรรค ทรงแทงตลอดพระพุทธคุณทั้งปวง.

น่าสนใจมากครับ กิจทีี่เกิดขึ้นในคืนตรัสรู้



ทรงขัดสมาธิสามชั้น

อยากถามส่วนนี้ครับ มีลักษณะอย่างไรครับ

 :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

pussadee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 149
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
ทรงทำกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์อันประกอบด้วยองค์ ๔ ให้เป็นเบื้องต้น

อยากทราบเนื้อหา ตรงนี้ด้วยคะ ใครแนะนำได้บ้างคะ

 :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

น่าสนใจมากครับ กิจทีี่เกิดขึ้นในคืนตรัสรู้

ทรงขัดสมาธิสามชั้น

อยากถามส่วนนี้ครับ มีลักษณะอย่างไรครับ


ปางขัดสมาธิเพชร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ลักษณะพระพุทธรูปปางสมาธิเพชร

ปางขัดสมาธิเพชร เป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปในอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ (แข้ง) หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง พระหัตถ์วางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้าย


ประวัติ

เป็นท่านั่งสมาธิที่พระบรมโพธิสัตว์ ประทับนั่งหลังจากที่ รับหญ้าคา 8 กำ จากนายโสตถิยพราหมณ์แล้ว
 
ทรงนำไปปูใต้ต้นศรีมหาโพธิ์แล้วทรงประทับนั่ง ในท่าขัดสมาธิเพชรนี้


แล้วทรงอธิษฐานว่า

"เนื้อและเลือดในสรีระนี้ แม้จะเหือดแห้งไปหมดสิ้น จะเหลือแต่หนังเอ็นและกระดูกก็ตามที ถ้าเรายังไม่บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณก็จักไม่ทำลายบัลลังก์นี้"

ด้วยพระหฤทัยที่แน่วแน่มั่นคง และทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมา หรืออีกนัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จออกไปโปรดสัตว์ในเวลาเช้า เสวยแล้วทรงพักกลางวัน ทรงพระอิริยาบทนั่ง คือนั่งสมาธิ

ที่มา  http://th.wikipedia.org/wiki/ปางขัดสมาธิเพชร
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
ทรงทำกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์อันประกอบด้วยองค์ ๔ ให้เป็นเบื้องต้น

อยากทราบเนื้อหา ตรงนี้ด้วยคะ ใครแนะนำได้บ้างคะ

 :25:

ตอนนี้หาข้อมูลมาตอบไม่ได้ ถ้าจะเดาก็คงต้องเดาว่า องค์ ๔ อาจจะเป็น ๔ ทิศ เหนือใต้ออกตก

คือ น่าจะเป็นการทำสมถกรรมฐาน แล้วแผ่เมตตาไปสี่ทิศใหญ่

 ;) :welcome:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ