ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อนุปุพพิกถา ๕ และ อริยสัจ ๔ - การศึกษาตามลำดับลุ่มลึกลงสู่การพ้นทุกข์  (อ่าน 936 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



อนุปุพพิกถา ๕ และ อริยสัจ ๔ - การศึกษาตามลำดับลุ่มลึกลงสู่การพ้นทุกข์



อนุปุพพิกถา ๕

เป็นพระธรรมเทศนาที่แสดงเนื้อความลุ่มลึกลงไปโดยลําดับ เพื่อขัดเกลาอัธยาศัยของผู้ฟังให้ประณีตยิ่งขึ้น จนจิตของ บุคคลนั้นพร้อมที่จะเข้าใจในสัจธรรม จึงทรงแสดงอริยสัจธรรม ๔ อัน เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา อนุปุพพิกถามี ๕ ประการ คือ

๑. ทานกถา
กล่าวถึงการให้ การเสียสละ อันเป็นเหตุแห่ง ความสุขทั้งหลาย เป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งหลาย เป็นที่ตั้งแห่งโภคะ ทั้งหลาย ทานย่อมให้สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ จักรพรรดิสมบัติ สาวกบารมีญาณ ปัจเจกโพธิญาณ อภิสัมโพธิญาณ ทานจึงเปรียบดุจ แผ่นดินใหญ่

๒. สีลกถา
กล่าวถึงความประพฤติที่ดีงาม ศีลย่อมให้สมบัติในโลกนี้และโลกหน้า เครื่องประดับใดจะงดงามเช่นกับผู้ที่มีศีลย่อมไม่มีกลิ่นใดจะหอมฟังทั้งตามลมและทวนลม เช่น กลิ่นของผู้มีศีลย่อมไม่มี พระพุทธองค์จึงตรัสศีลไว้ในลําดับต่อจากทาน

๓. สัคคกถา
เรื่องสวรรค์ กล่าวถึงทิพยสุขทิพยสมบัติที่น่าปรารถนาอันจะพึงได้รับ จากผลแห่งทานและศีลที่กระทําแล้ว ย่อมได้ในสวรรค์ พระพุทธองค์จึงทรงแสดงสัคคกถาไว้ในลําดับต่อจากศีล

๔. กามาทีนวกถา
พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้ความสุขในสวรรค์ ก็ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่ควรยินดีพอใจเพียงแค่สวรรค์ เปรียบเหมือนบุคคลประดับช้างให้งดงามแล้ว กลับตัดเอางวงของช้างไป จึงแสดงโทษ และความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามว่า กามทั้งหลายมีสุขน้อย มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก พระพุทธองค์จึงตรัสกามาที่นวกถา ไว้ในลําดับต่อจากสวรรค์

๕. เนกขัมมานิสังสกถา
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเรื่องของทาน ศีล สวรรค์ และโทษของกามทั้งหลายแล้ว ทรงแสดงอานิสงส์ ของการออกจากกาม ชี้แจงให้เห็นคุณของเนกขัมมะ คือการออกบวช เพื่อปฏิบัติให้ถึงธรรมอันเป็นที่สิ้นทุกข์ ซึ่งจักเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

@@@@@@@

อริยสัจธรรม ๔

เมื่อทรงทราบว่าบุคคลนั้น มีจิตที่ปราศจากกิเลส มีจิตที่ปราศจากนิวรณ์ คือ กามฉันทนิวรณ์ เป็นต้น มีจิตที่เบิกบานผ่องใส ประกอบด้วยปีติและปราโมทย์ สมบูรณ์ด้วยศรัทธาในสัมมาปฏิบัติแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงประกาศอริยสัจธรรม ๔ ประการ ที่พระองค์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง คือ
    - ทุกขอริยสัจ
    - ทุกขสมุทยอริยสัจ
    - ทุกขนิโรธ อริยสัจ และ
    - ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
เพื่อให้บุคคลนั้นพิจารณา เห็นสัจธรรม ตรัสว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา

    "เมื่อบุคคลนั้นพิจารณา ตามกระแสแห่งพระธรรมเทศนา ประจักษ์แจ้งธรรมนั้นแล้วด้วยตนเอง บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคล ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อฟังคําสอนของผู้อื่นอีก นอกจากคําสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอแสดงตนเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หรือขอบรรพชาอุปสมบทในที่สุดนี้ เป็นพระมหากรุณาคุณที่พระพุทธองค์ทรงมีต่อคฤหัสถ์ ผู้มีอุปนิสัย ที่จะได้บรรลุธรรม" (ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒/๑ หน้า ๖๕-๗๐)




ขอขอบคุณ :-
ข้อธรรมจาก : หนังสือ ตามรอยพระธรรม ของ พระบรมศาสดา ผู้เขียน สุรีย์ มีผลกิจ
website : https://www.nirvanattain.com/สิ่งที่ควรรู้/อนุปุพพิกถา-๕-และ-อริยสัจ-๔-การศึกษาตามลำดับลุ่มลึกลงสู่การพ้นทุกข์.html
นิรนาม / สิ่งที่ควรรู้ / 23 สิงหาคม 2563
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ