ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สาธุชน ต้องมี สาธุนรธรรม  (อ่าน 916 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สาธุชน ต้องมี สาธุนรธรรม
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2024, 07:52:47 am »
0
.



สาธุชน ต้องมี สาธุนรธรรม

สาธุชนคนดีต้องมีธรรมะ ๔ ประการ
     ยาตานุยายี จ ภวาหิ มาณว
     อลฺลญฺจ ปาณึ ปริวชฺชยสฺส
     มา จสฺส มิตฺเตสุ กทาจิ ทุพฺภิ
     มา จ วสํ อสตีนํ นิคจฺเฉ.

แปลความว่า คนดีนั้นจะมีธรรมะ ๔ ประการ เรียกว่า สาธุนรธรรม(ธรรมของคนดี) ดังนี้
     ข้อที่ ๑ คือเดินตามรอยคนดีที่อยู่หน้า
     ข้อที่ ๒ เป็นคนมีความกตัญญูไม่แว้งกัดผู้มีพระคุณ
     ข้อที่ ๓ ไม่ประทุษร้ายมิตรไม่ว่าในกาลใดๆ
     ข้อที่​ ๔ ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของความไม่มีสติ หรือตามคนที่ไม่มีสติ

โดยสรุปเป็นบทประพันธ์ไว้ว่า สาธุนรธรรม มี ๔ ข้อ ดังนี้
     ๑. เดินตามรอยคนดีที่อยู่หน้า
     ๒. มือเคยเลี้ยงมาจงอย่าเผา
     ๓. อย่าทำร้ายพวกพ้องมิตรของเรา
     ๔. อีกคนเขลาไร้สติอย่าริตาม


@@@@@@@

พระพรหมบัณฑิตได้ให้อรรถาธิบายดังนี้

สาธุนรธรรม ข้อที่ ๑. ยาตานุยายี

ยาตานุยายี แปลว่า เดินตามทางที่ท่านเดินมาแล้ว หมายถึงว่า อนุชนคนรุ่นหลังปฏิบัติตามแนวทาง ที่บุพการีชนคนรุ่นก่อนได้วางเป็นแบบอย่างไว้

สาธุนรธรรม ข้อที่ ๒. อลฺลญฺจ ปาณึ ปริวชฺชยสฺสุ
 
อลฺลญฺจ ปาณึ ปริวชฺชยสฺสุ แปลความว่า ไม่เผาฝ่ามืออันชุ่ม หมายความว่า ฝ่ามือของผู้มีพระคุณเปียกชุ่มด้วยข้าวน้ำ ที่ชุบเลื้ยงเรามา คนดีต้องไม่เผาฝ่ามืออันชุ่ม คือไม่ทรยศผู้มีพระคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งคนดี มีความกตัญญู รู้คุณ และกตเวที ตอบแทนคุณท่าน

สมดังสุภาษิตที่ว่า นิมิตฺตํ สาธุรูปปานํ กตญฺญู กตเวทิตา แปลความว่า ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี การจะวัดใจคนว่าดี เพียงใดอาจดูได้จากพฤติกรรมว่าเป็นคนชอบ รักษาหรือชอบทำลาย ทั้งนี้เพราะคนดี มีนิสัยชอบถนอมรักษา คนไม่ดีมีนิสัยชอบทำลาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนดีมีความกตัญญูรู้คุณค่าของบุคคลหรือสิ่งของจึงชอบถนอมรักษา ในขณะที่คนไม่ดีขาดความกตัญญู รู้คุณค่าจึงชอบทำลาย

สาธุนรธรรม ข้อที่ ๓. มา จสฺส มิตฺเตสุ กทาจิ ทุพฺภิ

มา จสฺส มิตฺเตสุ กทาจิ ทุพฺภิ แปลความว่า ไม่ประทุษร้ายมิตรไม่ว่าในเวลาใด คำว่า มิตร หมายถึงผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับเรา มิตรในกรณีนี้จึงไม่ได้หมายเพียงมนุษย์เท่านั้น แม้สัตว์เดรัจฉานและต้นไม้ที่มีคุณประโยชน์ ท่านก็จัดว่าเป็นมิตร ชาวนาผู้ฆ่าโคหลังใช้ไถนาเสร็จแล้วชื่อว่าประทุษร้ายมิตร ผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่ให้คุณประโยชน์แก่ตนก็ชื่อว่าประทุษร้ายมิตรเหมือนกัน เมื่อมนุษย์ทำลายมิตร คือ สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ มนุษย์ก็ถูกธรรมชาติลงโทษ ธาตุสื่คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ วิปริตกลายเป็นมลพิษสำรับมนุษย์

สาธุนรธรรม ข้อที่ ๔. มา จ วสํ อสตีนํ นิคจฺเฉ

มา จ วสํ อสตีนํ นิคจฺเฉ แปลความว่า ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของคนไร้สติ เพราะคนไร้สติมักทำให้คำแนะนำอย่างไม่รอบคอบ จึงมักจะนำเภทภัยมาให้ในภายหลัง คนที่หลงเชื่อถือคำของคนประเภทนี้อาจจะแพ้ภัยตัวเอง เพราะบูชาผู้ไม่ควรบูชาจึงพากันล่มจม

ดังเรื่องต่อไปนี้ ในจัมมสาฏกชาดก ในอดีตกาล มีปริพาชกคนหนึ่งชื่อจัมมสาฏก เที่ยวภิกขาจารอยู่ในกรุงพาราณสี ถึงสถานที่ชนแพะ ขณะนั้นแพะตัวหนึ่งเห็นปริพาชกนั้นแล้วตั้งท่าจะขวัดมันจึงย่อตัวลง ปริพาชกไม่ถอยหนีด้วยเข้าใจผิดคิดว่า แพะตัวนี้ย่อตัวทำความเคารพเรา ในเมืองใหญ่นี้มีแพะนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่รู้คุณของเรา พอคิดเช่นนี้ปริพาชกได้ยืนประณมมือรับความเคารพของแพะนั้น เขาจึงถูกแพะขวิดล้มลงขาดใจตายตรงนั้นเอง






ขอขอบคุณ :-
ที่มา : คติธรรม วาทะธรรมพระพรหมบัณฑิต และ Facebook ธรรมเป็นทีม
website : https://www.sangha14.org/index.php?url=salatam&id=53
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ