ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “พระสังกัจจายน์” พระอรหันต์ชื่อดังที่คนไทยนิยมกราบไหว้ขอพร เคยมีรูปโฉมงามมาก่อน  (อ่าน 822 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระสังกัจจายน์ วัดสังข์กระจายวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร (ภาพ : เพจ fb วัดสังข์กระจายวรวิหาร)


“พระสังกัจจายน์” พระอรหันต์ชื่อดังที่คนไทยนิยมกราบไหว้ขอพร เคยมีรูปโฉมงามมาก่อน.?

“พระสังกัจจายน์” ถือเป็นพระที่คนไทยหลายคนให้การนับถือ เพราะเชื่อกันว่าท่านจะประทานพรในเรื่อง “โชคลาภ” ให้กับผู้ที่ศรัทธา

@@@@@@@

ประวัติพระสังกัจจายน์

พระสังกัจจายน์หรือพระมหากัจจายนะเถระ มีชื่อจีนว่า “เกียกเมียงเอี๊ยง” ท่านเป็นพระอรหันต์ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ โดยฝ่ายมหายานจัดให้ท่านอยู่ในพระเอตทัคคะมหาสาวกพระมหากัจจายนะเถระสิบองค์ (จับไต้ตี้จื๊อ) ซึ่งพระที่โดดเด่นในนิกายนี้ ได้แก่ “พระมหากัสสปะ” และ “พระอานนท์”

พระสังกัจจายน์แต่เดิมตำรงตำแหน่งปุโรหิตที่แคว้นอวันตี วันหนึ่งท่านได้รับคำสั่งให้ไปเชิญเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มาเทศนาชาวเมืองที่แคว้น แต่เมื่อท่านได้พบกับพระพุทธเจ้าก็เกิดความเลื่อมใส ขอบวช กลายเป็นพระอรหันต์ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ยกย่องให้ท่านเป็นเอตทัคคะทางการอธิบายธรรม

ในอดีตพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้ายกย่องให้เป็นเอตทัคคะทางการอธิบายธรรมนี้มีรูปโฉมงาม ไม่ได้อ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน มีตำนานกล่าวไว้ 2 เรื่องถึงเหตุที่ทำให้ท่านกลายเป็นเช่นนี้ บ้างก็เล่าว่าเป็นเพราะท่านรูปงามจนเกินไป จึงทำให้ผู้ชายอยากมีภรรยางามเช่นท่าน ท่านสลดใจ จึงอธิษฐานให้ท่านอ้วนท้วน

แต่อีกตำนานก็เล่าว่า เทวดาและมวลมนุษย์มักยกย่องท่านว่างามเทียบเท่าพระพุทธเจ้า พระสังกัจจายน์เห็นว่าไม่เหมาะไม่ควร จึงเนรมิตกลายเป็นพระรูปร่างท้วม

@@@@@@@

ด้านที่มาของชื่อ “สังกัจจายน์” ผศ. ดร. ศุภวิทย์ ถาวรบุตร อาจารย์ประจำสาขาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้อธิบายไว้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ในบทความ “พระอ้วนไทย และพระอ้วนไทย” คือใครกัน? ว่า…

    “ส่วนที่ว่า เหตุใดพระมหากัจจายนะจึงมีชื่อว่าพระสังกัจจายน์ด้วยนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชื่อเรียกกันภายหลังในสมัยรัตนโกสินทร์นี่เอง กล่าวคือในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีการขุดพื้นเพื่อฝังรากอุโบสถวัดแห่งหนึ่งที่ฝั่งธนบุรี ปรากฏว่าครั้งนั้นมีการขุดค้นพบปฏิมกรพระมหากัจจายนะกับหอยสังข์ในบริเวณดังกล่าว

    วัดแห่งนั้นจึงได้ชื่อว่าวัดสังข์กระจายตั้งแต่นั้นมา (อ้างตามหนังสือพระสังกัจจายน์ พระอรหันต์ผู้สมบูรณ์ลาภผล) ปฏิมากรพระมหากัจจายนะที่ขุดพบยังคงประดิษฐานอยู่ที่วัดสังข์กระจายฝั่งธนบุรี จนปัจจุบัน

    ชื่อ ‘สังกัจจายน์’ จึงน่าจะมาจากชื่อวัด ‘สังข์กระจาย’ โดยทีแรกคงเรียกกันว่า ‘พระวัดสังข์กระจาย’ นานเข้าก็มีการกร่อนคำ และนำมารวมกับชื่อของท่านที่มีคำว่า ‘กัจจายนะ’ ‘พระวัดสังข์กระจาย’ ก็เลยกลายเป็น ‘พระสังกัจจายน์’ ไป นอกจากนี้เท่าที่อ่านงานเขียนต่างๆ ก็จะออกนามท่านว่าพระมหากัจจายนะเสมอ

    ชื่อพระสังกัจจายน์ จึงเป็นชื่อในภาษาพูดมากกว่าจะใช้ในภาษาเขียน”


@@@@@@@

อ่านเพิ่มเติม :-

    • ทำไม “พระพุทธชินราช” จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีการจำลองมากที่สุด?
    • Smiling Buddha: “พระสังกัจจายน์” หรือ “พระพุทธเจ้ายิ้ม” กันแน่?





อ้างอิง : ศุภวิทย์ ถาวรบุตร. พระอ้วนไทย และพระอ้วนไทย ใน นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545

ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : ปดิวลดา บวรศักดิ์
เผยแพร่ : วันพฤหัสที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2567
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 1 สิงหาคม 2567
website : https://www.silpa-mag.com/culture/article_136469
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ