ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม “คนสระบุรี” อู้กำเมือง, กินข้าวนึ่ง ฯลฯ เหมือนคนล้านนา.?  (อ่าน 2811 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดสมุหประดิษฐาราม ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ แสดงอัตลักษณ์ และวัฒนธรรมชาวไทยวน ตอนบนของภาพจะเห็นเด็กสวมว่อม (หมวก), มีถง(ย่าม) วางอยู่, แม่หญิงไว้ผมยาว สวมลายซิ่นปลายขวางตีนซิ่นสีแดง ซึ่งเป็นเอกลัษณ์ของไทยวน (ภาพถ่ายโดย ยุทธวงษ์ วงษ์ทอง)


ทำไม “คนสระบุรี” อู้กำเมือง, กินข้าวนึ่ง ฯลฯ เหมือนคนล้านนา.?

จังหวัดสระบุรี เป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางของประเทศ แต่ทำไม “คนสระบุรี” ในหลายอำเภอ กลับมีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม เช่น ภาษา, อาหาร, การแต่งกาย ฯลฯ เช่นเดียวกับคนล้านนาทางภาคเหนือ

คนสระบุรี กลุ่มดังกล่าวนี้เรียกตัวเองว่า “คนไทยวน”



ลูกหลานชาวไทยวน สระบุรี ในงานบุญกฐิน ตามไทยวน  (ภาพจาก Facebook เพจ หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี )


คนไทยวน สระบุรี มาจากไหน

แรกเริ่มชุมชนไทยวนก่อตั้งบริเวณเมืองเชียงแสน ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 มี ต่อมาได้ย้ายมาสร้าง “เมืองโยนก” ซึ่งเป็นที่มาของชนชาวไทยวน ภายหลังเมื่อเมืองโยนกล่มสลายจากภัยพิบัติ ผู้คนเคลื่อนย้ายลงทางใต้สู่ที่ราบเชียงใหม่-ลำพูน สร้างเมืองใหม่คือ “อาณาจักรล้านนา”

ส่วนการอพยพชาวไทยวน (ล้านนา) มาตั้งอยู่ที่เมืองสระบุรีนั้น เกิดขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หลังจากตีเมืองเชียงใหม่ได้แล้ว โปรดให้กวาดต้อนครอบครัวชาวเชียงใหม่ลงมาที่กรุงศรีอยุธยา ส่วนหนึ่งได้ส่งไปอยู่ที่ลพบุรี รวมทั้งสระบุรี ดังความในพระราชพงศาวดารฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน ว่า

“…แลได้เมืองเชียงใหม่ในเพลารุ่งขึ้นวันนั้น แล้วก็ไล่จับพญาแสนหลวงเจ้าเมือง แลบุตรภรรยาญาติวงษได้สิ้น แลได้ครัวตัวแสนท้าวพญาเสนาบดีทังหลาย แลครอบครัวอพยพชาวเมืองทังปวงเปนอันมาก ได้ช้างม้าเครื่องสาตราวุทธปืนใหญ่ปืนน้อยแลสิ่งของต่างๆ ก็มาก แล้วก็คุมครอบครัวส่งออกไปยังค่ายหลวงสิ้น

…แลเสดจ์ประทับยับยั้งอยู่ที่นั้นประมาณสิบห้าเวนกว่าหัวเมืองจะสงบก็ส่งไปบ้านเมือง แลหัวเมืองทังหลายซึ่งขึ้นแก่เมืองเชียงใหม่เปนปรกติแล้ว จึ่งเลีกทับหลวงกวาดเอาครอบครัวลาวชะเลยทังหลายที่ตีได้นั้น เสดจ์พระราชดำเนีรกลับมาโดยทางสวรรคโลก ก็เสดจ์มาประทับแรมอยู่ ณ เมืองศุขโขไท สิบห้าวัน…”


ชาวไทยวนที่อพยพมาในครั้งนี้นั้นน่าจะอาศัยอยู่ในบริเวณพระนครศรีอยุธยา รวมถึงจังหวัดลพบุรี และที่สระบุรีด้วย



ป้ายทางเข้า “หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี” เขียนด้วยอักษรล้านนา (ภาพจาก Facebook เพจ หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี )


จากเชียงแสน ถึงสระบุรี

สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงเทพหริรักษ์ยกทัพไปตีเมืองเชียงแสน เมื่อตีเมืองเชียงแสนแตกแล้ว ได้มีการอพยพผู้คนจากเมืองเชียงแสนลงมาอยู่ที่เมืองสระบุรีและเมืองราชบุรี (คูบัว) เมื่อ พ.ศ. 2347 ดังความในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ว่า

“…กองทัพกวาดได้ครอบครัว 23,000 เศษ รื้อกำแพงเผาบ้านเมืองเสีย แล้วแบ่งปันครอบครัวกันเป็น 5 ส่วน ให้ไปแก่เมืองเชียงใหม่ ส่วน 1 เมืองนครลำปาง ส่วน 1 เมืองน่าน ส่วน 1 เมืองเวียงจัน ส่วน 1 อีกส่วนหนึ่งถวายลงมา ณ กรุงเทพฯ โปรดให้ตั้งบ้านอยู่เมืองสระบุรีบ้าง แบ่งไปอยู่เมืองราชบุรีบ้าง…”

ชาวเชียงแสนที่อพยพมาครั้งรัชกาลที่ 1 ตั้งถิ่นฐานอยู่ทุกอำเภอในจังหวัดสระบุรี ยกเว้นอำเภอหนองโดน และอำเภอดอนพุด

นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานว่าชาวเชียงแสนที่อพยพมาในสมัยรัชกาลที่ 1 มีหัวหน้าชื่อปู่คัมภีระ มาตั้งบ้านเรือนที่บ้านไผ่ล้อม ตำบลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยารัตนกาศ (คัมภีระ) เจ้าเมืองสระบุรี

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “คนสระบุรี” อู้กำเมือง, กินข้าวนึ่ง ฯลฯ เหมือนกับคนล้านนา

อนึ่ง ปัจจุบันลูกหลานไทยวน สระบุรี มีการรวมตัวกันในนาม “หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยยวน สระบุรี” ที่ก่อตั้งโดยออาจารย์ทรงชัย วรรณกุล เพื่อสืบสานมรดกภูมิปัญญา วัฒนธรรม ชาติพันธ์ไทยยวนสระบุรี และมีฝึกอบรมให้แก่เยาวชนผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง

อ่านเพิ่มเติม :-

    • “พระพุทธบาท-สระบุรี-ปากเพรียว” สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นอย่างไร?
    • “เขาคอกคชคีรี” เมืองสระบุรี ว่าที่ราชธานีสำรอง สมัยรัชกาลที่ 4
    • ทำไมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ สั่งรื้อ “วังสีทา” วังสำรองโดยพระปิ่นเกล้าฯ






ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2567
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 27 ธันวาคม 2567
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_145605

อ้างอิง :-
- อัสรี อาหาะมะ. “ไทยวน” ใน https://ethnicity.sac.or.th/
- ศานติ ภักดีคำ. “บทที่ 10 เมืองสระบุรีเมืองสำคัญในสมัยรัชกาลที่ ๔” ใน, ประวัติศาสตร์เมืองสระบุรี จากศรีทวารวดี สู่ ศรีรัตนโกสินทร์. สุทธิพงษ์ จุลเจริญ และ วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ, เจ้าของลิขสิทธิ์และจัดทำ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มติชน, 2567
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ