.
มหาแก้วมณีโชติรส (ดวงแก้วมณีโชติ)
เป็น ๑ ในของคู่บารมีของพระมหาบุรุษ หากพระองค์ท่านมิได้ออกบวชเพื่อตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า เพราะหากมหาบุรุษผู้ใดไม่ออกบวช มหาบุรุษผู้นั้นจะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิผู้มีอำนาจครอบครองได้ทั้งไตรโลก (อันเป็นเหตุให้พระเจ้าสุทโธทนะไม่อยากให้เจ้าชายสิทธัตถะบวช)
เมื่อถึงกาลที่พระมหาจักรพรรดิอภิเษกเป็นกษัตริย์อย่างสมบูรณ์ สมบัติทั้ง ๗ ประการอันคู่บารมีพระมหาจักรพรรดิ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว และมหาแก้วมณีโชติรสนี้ ก็จะเสด็จมาหาพระมหาจักรพรรดิและถวายการอารักขาตามหน้าที่แห่งตน
ซึ่งในกรณีของ "มหาแก้วมณีโชติรส" นั้น หากพระมหาจักรพรรดิองค์ใหม่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์โดยสมบูรณ์แล้ว เมื่อใดก็ตามที่พระมหาจักรพรรดินั้นนึกถึงแก้วมหามณีโชติรส แก้วมณีผู้เป็นพญาของเหล่าแก้วมณีและรัตนะทั้งหลายนี้ ก็จะเหาะออกมาจากคูหาอันเป็นที่พำนัก ซึ่งซ่อนอยู่ใน "เขาวิบูลบรรพต" พร้อมด้วยแก้วมณีที่เป็นบริวาร ๘๔๐๐๐ ดวง มาหาพระมหาจักรพรรดิผู้เป็นนายทันที
อำนาจวิเศษของแก้วมหามณีโชติรส คือ มีรัศมีที่สว่างหากเย็นและนิ่มนวลดุจแสงจันทร์วันเพ็ญ จึงสามารถให้แสงสว่างแก่ผู้ที่หลงอยู่ในความมืดได้ และแสงของแก้วมหามณีโชติรสยังสามารถขจัด "ความมืดทั้ง ๔ ประการ" ได้อีกด้วย_________________________________
ที่มา : Krarakrata (remix : cartoon version)
ลำดับตอนที่ #8 : มหาแก้วมณีโชติรส (ดวงแก้วมณีโชติ) อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 53
https://writer.dek-d.com/Hyakkimaru/writer/viewlongc.php?id=646226&chapter=8
"ความมืดทั้ง ๔ ประการ" คืออะไร.?
ว่าด้วยพระจักษุ ๕ ชนิด
คำว่า ผู้มีพระจักษุ อธิบายว่า พระผู้มีพระภาค มีพระจักษุด้วยพระจักษุ ๕ ชนิด คือ
๑. มีพระจักษุด้วยมังสจักขุบ้าง
๒. มีพระจักษุด้วยทิพพจักขุบ้าง
๓. มีพระจักษุด้วยปัญญาจักขุบ้าง
๔. มีพระจักษุด้วยพุทธจักขุบ้าง
๕. มีพระจักษุด้วยสมันตจักขุบ้าง
พระผู้มีพระภาคมีพระจักษุด้วยมังสจักขุ เป็นอย่างไร คือ ในพระมังสจักขุของพระผู้มีพระภาคมีสีอยู่ ๕ สี คือ
(๑) สีเขียว
(๒) สีเหลือง
(๓) สีแดง
(๔) สีดำ
(๕) สีขาว
- ณ ที่ที่มีขนพระเนตรขึ้น มีสีเขียว เขียวสนิท น่าชม น่าดู ดุจดอกผักตบ ต่อจากนั้น ก็เป็นสีเหลือง เหลืองสนิท สีเหมือนทองคำ น่าชม น่าดู ดุจดอกกรรณิการ์
- เบ้าพระเนตรทั้งสองข้างของพระผู้มีพระภาคมีสีแดง แดงสนิท น่าชม น่าดู ดุจสีปีกแมลงทับ
- กลางดวงพระเนตรมีสีดำ ดำเข้ม ไม่เศร้าหมอง สนิท น่าชม น่าดู ดุจสีสมอดำ ต่อจากนั้น เป็นสีขาว ขาวสนิท เปล่งปลั่ง ขาวนวล น่าชม น่าดู ดุจสีดาวประกายพฤกษ์
พระผู้มีพระภาคมีพระมังสจักขุนั้นอยู่โดยปกติ เนื่องในพระอัตภาพ เกิดด้วยสุจริตกรรมที่ทรงสั่งสมมาในภพก่อน ทรงมองเห็นตลอด ๑ โยชน์โดยรอบ ทั้งกลางวันและกลางคืน
@@@@@@@
แม้ในเวลาที่มีความมืดประกอบด้วยองค์ ๔ คือ
(๑) ดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว
(๒) เป็นวันอุโบสถข้างแรม
(๓) ป่าชัฏรกทึบ
(๔) มีเมฆก้อนใหญ่ผุดขึ้นมา
- ในความมืดที่ประกอบด้วยองค์ ๔ อย่างนี้ พระองค์ก็ทรงมองเห็นได้ตลอด ๑ โยชน์โดยรอบ ไม่มีหลุม บานประตู กำแพง ภูเขา กอไม้ หรือเถาวัลย์มาปิดกั้นการเห็นรูปทั้งหลายได้
- หากบุคคลเอางาเมล็ดเดียวทำเครื่องหมาย แล้วใส่ลงในเกวียนบรรทุกงา พระผู้มีพระภาคก็ทรงสามารถหยิบเอางาเมล็ดนั้นขึ้นมาได้
พระมังสจักขุตามปกติของพระผู้มีพระภาคบริสุทธิ์อย่างนี้ พระผู้มีพระภาคชื่อว่ามีพระจักษุด้วยมังสจักขุเป็นอย่างนี้__________________________________________
ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๐ , พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส , ๑๕. โมฆราชมาณวปัญหานิทเทส ว่าด้วยปัญหาของโมฆราชมาณพ