“เปลี่ยนคำด่าเป็นกำลังใจ”
เมื่อพบกับท่านสมอาจ ท่านบอกให้รีบส่งบทความได้แล้ว ผู้เขียนยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี บังเอิญไปอ่านเรื่องเล่าในเว็บไซต์หนึ่ง อ่านแล้วคิดว่าเข้าทีดีเหมือนกัน เรื่องที่อ่าน คือ “เปลี่ยนคำด่าเป็นกำลังใจ”
ชีวิตมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงธรรมดาๆ อย่างเราๆ ท่านๆ ย่อมจะหลีกหนีอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์ไปไม่พ้น หากเลือกได้ ใครๆ ก็ไม่อยากพบเจอกับอนิฏฐารมณ์ด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อใดมีโอกาสพานพบ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้เท่าทัน ทำนองว่า “รู้เท่าเอาไว้กัน รู้ทันเอาไว้แก้”
มาอ่านดูซิว่าเรื่อง “เปลี่ยนคำด่าเป็นกำลังใจ” มีเนื้อหาเป็นอย่างไรบ้าง
โดนด่าว่าควาย หมายถึง เขากำลังยกย่องว่าเราเป็นคนขยัน อดทน เพราะควายขยัน อดทนไม่ค่อยมีปรากฏว่าควายแอบหลบงานไปนั่งเล่น แอบงีบ หรือไปจีบควายสาว
ดังนั้น ต่อไปเวลาใครเรียกเราว่า “ควาย” กรุณายิ้มรับแล้วตอบเขาไปว่า
“ขอบคุณครับ/ค่ะ คุณก็เช่นกัน”โดนแจกของลับ แสดงถึงการให้ความเคารพรักอย่างสูงสุดของผู้ให้ที่มีต่อผู้รับ
จึงได้ให้ของสำคัญเท่าชีวิตแก่เรา
ดังนั้น ใครแจกให้คุณก็ขอบคุณเขาไป ไม่เป็นไรให้เขาเก็บไว้ใช้เอง เพราะเรามีอยู่แล้วหรือไม่ก็กำลังหามาไว้เป็นของตัวเองอยู่โดนไล่ไปตาย โลกปัจจุบันน่าอยู่ที่ไหน อยู่ไปก็ไม่ปลอดภัย ใครไล่ไปตายแสดงว่า เขาห่วงใยในสวัสดิภาพของเรา ไม่อยากให้ผจญภัยกับความทุกข์ระทมอันมากมาย
เราจึงควรแสดงความห่วงใยเขาบ้างเช่นกันว่า
“ไม่เป็นไรเชิญพี่ก่อนเถอะ” โดนด่าว่าสัตว์ คำเต็มคือ “ผู้ประเสริฐดุจพระโพธิสัตว์” เป็นเวอร์ชั่นรีบๆ ย่อๆ เลยเหลือแค่ “สัตว์”
แต่ไม่เป็นไรเราเข้าใจในเจตนาดีของเขา ยิ้มรับกันดีกว่า
เมื่อยิ้มรับ เขาจะได้รู้ว่าเรายิ้มสวยโดนกล่าวถึง บุพการี แสดงว่า เขาเคารพบิดามารดาเราเหมือนบิดามารดาของเขาเอง
จึงกล่าวเพื่อระลึกถึง หรือว่าเขากำลังคิดถึงบิดามารดาเขา
เพราะว่าพวกท่านต่างตรอมใจตายไปหมดแล้ว
(เนื่องจากมีอภิชาตบุตรซาตานอย่างเขา/มันหรือแกนั่นแหละ)โดนด่าว่า บ้า รู้ ๆ กันว่า คนบ้ามักมีจินตนาการสูงส่งยิ่งกว่าคนธรรมดาหลายเท่า แถมยังอารมณ์ดีหัวเราะได้ทั้งวัน
เขาด่าว่าบ้าเป็นการชื่นชมในความฉลาดหลักแหลม เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และเป็นคนมีอารมณ์ขันของเรา ซึ่งทั้งหมดนี้แน่นอนว่าเขาย่อมทำไม่ได้อย่างเราโดนเรียกว่าไอ้ห่า สมัยก่อนเชื้อห่า ใครเป็นก็ตาย โอกาสรอดมีต่ำมาก แต่ปัจจุบันนี้การแพทย์เจริญก้าวหน้า เป็นได้ก็หายได้
การด่าว่า “ไอ้ห่า” จึงหมายถึงว่าจะต้องเจอเรื่องแย่ๆ
แต่ก็รักษาได้แน่นอน นับว่าเป็นการอวยพรที่เป็นมงคลยิ่งดีกว่าด่าว่า
“ไอ้ไข้หวัดนก” เป็นไหนๆ เมื่อพูดถึงคำด่า ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า มี ๒ ประเภท คือ
คำด่าทราม กับ คำด่าอุกฤษฏ์
ที่ชื่อว่า คำด่าทราม ได้แก่ คำด่าว่า เป็นอูฐ, เป็นแพะ, เป็นโค, เป็นลา, เป็นสัตว์ดิรัจฉาน, เป็นสัตว์นรก, สุคติของท่านไม่มี, ท่านต้องหวังได้แต่ทุคติ, คำด่าที่เกี่ยวด้วย ย อักษร ภ อักษร, หรือนิมิตของชายและนิมิตของหญิง ที่ชื่อว่า คำด่าอุกฤษฏ์ ได้แก่ คำด่าว่า เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก, ทุคติของท่านไม่มี, ท่านต้องหวังได้แต่สุคติ
อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บ้างครับ สมัยพุทธกาล เข้าใจว่าคำด่า เจ้าเป็นอูฐ ถือว่าเจ็บแสบอย่างมาก
แต่ปัจจุบันนี้ เหตุการณ์เปลี่ยนไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป ใครโดนด่าว่า เจ้าเป็นอูฐ ผู้เขียนก็อยากรู้จริงๆ เหมือนกันว่า เขารู้สึกอย่างไรกันบ้าง เขาจะเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสเหมือนกับเรื่องที่ผู้เขียนกล่าวไว้หรือไม่ หรือเขาจะหัวเราะขำกลิ้ง อยากรู้จริงๆ นะครับ
(ที่มา พระไตรปิฎก เล่ม ๒ ข้อ ๑๙๖ หน้า ๑๖๖ และ www.tttonline.net)))X)
ขอขอบคุณ http://www.ybat.org/index2.htm
ขอขอบคุณ http://www.kondee.com/
ที่มา http://www.watdao.com/board/index.php?topic=112.0