.

ขอบคุณภาพจาก pinterest
สันตติมหาอำมาตย์ ควรเรียกว่า สมณะ หรือ พราหมณ์๙. สันตติมหามัตตวัตถุ เรื่องสันตติมหาอำมาตย์
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้)
[๑๔๒] แม้บุคคลจะแต่งตัวแบบใดก็ตาม ถ้าเขาเป็นผู้สงบ ฝึกตนได้ เป็นผู้แน่นอน(๒-) ประพฤติพรหมจรรย์ ละเว้นการเบียดเบียนสรรพสัตว์ ประพฤติสม่ำเสมอ ควรเรียกบุคคลเช่นนั้นว่า พราหมณ์ สมณะ หรือภิกษุ(๓-) ก็ได้เชิงอรรถ :-
(๒-) สงบ หมายถึง สงบจากกิเลสมีราคะ เป็นต้น
ฝึกตนได้ หมายถึง ควบคุมอินทรีย์ทั้ง ๖ ได้
เป็นผู้แน่นอน หมายถึง เป็นผู้แน่นอนในโลกุตตรมรรคทั้ง ๔ (ขุ.ธ.อ. ๕/๗๕)
(๓-) คำว่า “พราหมณ์ สมณะ ภิกษุ” ตามหลักการพุทธศาสนามีความหมายดังนี้
พราหมณ์ หมายถึง ผู้ลอยบาปได้
สมณะ หมายถึง ผู้สงบระงับบาปได้
ภิกษุ หมายถึง ผู้ทำลายกิเลสได้ (ขุ.ธ.อ. ๕/๗๕)ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=25&siri=19
|๒๐.๑๔๒| อลงฺกโต เจปิ สมํ จเรยฺย
สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขุ ฯที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ ภาษาบาลี อักษรไทย พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ สุตฺต. ขุ. ขุทฺทกปาฐ-ธมฺมปทคาถา-อุทานํ-อิติวุตฺตก-สุตฺตนิปาตา
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=25&item=20&items=1

ขอบคุณภาพจาก pinterest
การปรินิพพานของสันตติมหาอำมาตย์
สันตติมหาอำมาตย์นั้น ครั้นทูลบุรพกรรมของตนอย่างนั้นแล้ว นั่งบนอากาศเทียว เข้าเตโชธาตุ ปรินิพพานแล้ว. เปลวไฟเกิดขึ้นในสรีระไหม้เนื้อและโลหิตแล้ว. ธาตุทั้งหลายดุจดอกมะลิเหลืออยู่แล้ว.
พระศาสดาทรงคลี่ผ้าขาว ธาตุทั้งหลายก็ตกลงบนผ้าขาวนั้น.
พระศาสดาทรงบรรจุธาตุเหล่านั้นแล้ว รับสั่งให้สร้างสถูปไว้ที่ทางใหญ่ ๔ แพร่ง
ด้วยทรงประสงค์ว่า "มหาชนไหว้แล้ว จักเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญ."
@@@@@@@
สันตติมหาอำมาตย์ ควรเรียกว่า สมณะหรือพราหมณ์
พวกภิกษุสนทนากันในโรงธรรมว่า
"ผู้มีอายุ สันตติมหาอำมาตย์บรรลุพระอรหัตในเวลาจบพระคาถาๆ เดียว ยังประดับประดาอยู่นั่นแหละ นั่งบนอากาศปรินิพพานแล้ว, การเรียกเธอว่า ‘สมณะ’ ควรหรือหนอแล.? หรือเรียกเธอว่า ‘พราหมณ์’ จึงจะควร."
พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า
"ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ.?
เมื่อภิกษุทั้งหลายทูลว่า "พวกข้าพระองค์นั่งประชุมกันด้วยกถาชื่อนี้"
จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย การเรียกบุตรของเรา แม้ว่า ‘สมณะ’ ก็ควร, เรียกว่า ‘พราหมณ์’ ก็ควรเหมือนกัน" ดังนี้
@@@@@@@
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
๙. อลงฺกโต เจปิ สมํ จเรยฺย
สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขุ.
แม้ถ้าบุคคลประดับแล้ว พึงประพฤติสม่ำเสมอ
เป็นผู้สงบ ฝึกแล้ว เที่ยงธรรม มีปกติประพฤติประเสริฐ
วางเสียซึ่งอาชญาในสัตว์ทุกจำพวก,
บุคคลนั้น เป็นพราหมณ์ เป็นสมณะ เป็นภิกษุ.ที่มา : อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ทัณฑวรรคที่ ๑๐ , ๙. เรื่องสันตติมหาอำมาตย์ [๑๑๕]
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=20&p=9
เอวํ โส อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ กเถตฺวา อากาเส นิสินฺโนว เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิ. สรีเร ชาลา อุฏฺฐหิตฺวา มํสโลหิตํ ฌาเปสิ. สุมนปุปฺผานิ วิย ธาตุโย อวสิสึสุ.
สตฺถา สุทฺธวตฺถํ ปสาเรสิ. ธาตุโย ตตฺถ ปตึสุ.
ตา ปกฺขิปิตฺวา จาตุมฺมหาปเถ ถูปํ กาเรสิ
"มหาชโน วนฺทิตฺวา ปุญฺญภาคี ภวิสฺสตีติ.
ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ "อาวุโส สนฺตติมหามตฺโต เอกคาถาวสาเน อรหตฺตํ ปตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺโตว อากาเส นิสีทิตฺวา ปรินิพฺพุโต : กินฺนุ โข เอตํ `สมโณติ วตฺตุํ วฏฺฏติ อุทาหุ `พฺราหฺมโณติ.
สตฺถา อาคนฺตฺวา "กาย นุตฺถ ภิกฺขเว เอตรหิกถาย สนฺนิสินฺนาติ ปุจฺฉิตฺวา,
`อิมาย นามาติ วุตฺเต,
"ภิกฺขเว มม ปุตฺตํ `สมโณติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, `พฺราหฺมโณติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยวาติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห
"อลงฺกโต เจปิ สมญฺจเรยฺย
สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขูติ.ที่มา : อรรถกถาเล่มที่ ๒๒ ภาษาบาลีอักษรไทย ธ.อ.๕ ปาป-ชราวคฺค
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=22&A=882