ทำอย่างไรจะได้พบกันอีกในชาติหน้า
ปัญหา ถ้าสามีภรรยารักกันมาก ๆ ในชาตินี้ และปรารถนาจะพบกันอีก ได้เป็นสามีภรรยากันอีกในชาติหน้า จะมีทางเป็นไปได้ไหม ? และควรจะปฏิบัติอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนคฤหบดีและคฤหปตานี ถ้าภรรยาและสามีทั้งสองหวังจะพบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ (ชาติหน้า) ไซร้ทั้งสองคนนั้นแลพึงเป็นผู้
- มีศรัทธาเสมอกัน
- มีศีลเสมอกัน
- มีจาคะเสมอกัน
- มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ...”อ้างอิง สมชีวิสูตรที่ ๑ และ ๒ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๓ พระไตรปิฎก เล่ม ๒๑
ที่มา
http://www.84000.org/true/206.html
สมชีวิธรรม ๔
(หลักธรรมของคู่ชีวิต, ธรรมที่จะทำให้คู่สมรสชีวิตสมหรือสม่ำเสมอกลมกลืนกัน อยู่ครองกันยืดยาว)
๑. สมสัทธา (มีศรัทธาสมกัน)
๒. สมสีลา (มีศีลสมกัน)
๓. สมจาคา (มีจาคะสมกัน)
๔. สมปัญญา (มีปัญญาสมกัน) อ้างอิง องฺ.จตุกฺก.๒๑/๕๕/๘๐.
ที่มา พจนานุกรม พุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม (ป.อ.ปยุตโต)

พระไตรปิฎก เล่ม ๒๑
พระสุตตันตปิฎกเล่ม ๑๓
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
สมชีวิสูตรที่ ๑
[๕๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬามฤคทายวันใกล้บ้านสุงสุมาร
คีระ แคว้นภัคคะ ครั้งนั้นแล เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จ
เข้าไปยังนิเวศน์ของนกุลบิดาคฤหบดี แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้
ครั้งนั้นแล คฤหบดีผู้นกุลบิดาและคฤหปตานีผู้นกุลมารดา เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว คฤหบดีผู้นกุลบิดาได้กราบทูลกะพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ตระกูลนำคฤหปตานีผู้นกุลมารดาซึ่งยังเป็นสาวมา
เพื่อข้าพระองค์ผู้ยังเป็นหนุ่มข้าพระองค์มิได้รู้สึกจะประพฤตินอกใจคฤหปตานีผู้นกุลมารดาแม้ด้วยใจเลย
ที่ไหนจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า
ข้าพระองค์ทั้งสองปรารถนาพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพ
แม้คฤหปตานีผู้นกุลมารดา ก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ตระกูลนำหม่อมฉันซึ่งยังเป็นสาวมา
เพื่อคฤหบดีผู้นกุลบิดาซึ่งยังเป็นหนุ่มหม่อมฉันมิได้รู้สึกจะประพฤตินอกใจคฤหบดีผู้นกุลบิดาแม้ด้วยใจเลย
ที่ไหนจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า
หม่อมฉันทั้งสองปรารถนาพบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรคฤหบดีและคฤหปตานี
ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้
ทั้งสองเทียวพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ ฯ
ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม
เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก
ทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว
ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก ฯ
จบสูตรที่ ๕อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๑๖๔๒ - ๑๖๖๙. หน้าที่ ๗๑ - ๗๒.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=1642&Z=1669&pagebreak=0ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=21&i=55