ประเด็นที่ 1
ดูจากจำนวนสิกขาบถ แล้วผมว่า พระมีสิทธิ์ บรรลุธรรมก่อนนะครับ
พูดถึงความเพียรที่เท่ากันนะครับ และมีความตั้งใจรักษาศีลเหมือนกันนะครับ
ประเด็นที่ 2
ถ้าผู้รักษาศีลได้ไม่ดี ระหว่างผู้มีศีล 227 กับ ศีล 5 จะเห็นได้ว่า ศีล 5 น่าจะได้เปรียบกว่านะครับ
แต่ถ้ามาพิจารณาดีจริง ๆ แล้ว ศีล 227 นั้นคลุม ศีล 5 อยู่แล้ว มองมุมไหน ก็ผู้ศีลมากกว่า ย่อมบรรลุธรรมได้ก่อน
ประเด็นที่ 3
ถ้าว่ากันด้วยความหมายของผู้มี ศีล แล้ว 227 10 8 5 ไม่ได้ต่างกันเลย เพราะ ศีล ก็คือ ความปกติ ของกาย วาจา ดังนั้นผู้มีศีล หนึ่งเดียวคือ ศีลสังวร ก็น่าจะมีโอกาสบรรลุธรรมเช่นเดียวกัน
ประเด็นที่ 4
การมีศีล ถือว่าศีลบริสุทธิ์ นั้นมีการนับเวลาด้วยหรือไม่ ระหว่างคนมีศีล มาแล้ว 3 ปี กับคนพึ่งมีศีล 3 วัน ใครจะบรรลุธรรมก่อนกัน ผมว่าทั้งสองคนมีโอกาสบรรลุพอ ๆ กัน เพราะการบรรลุธรรมเอาแน่ เอานอนไม่ได้ ในเรื่องเวลา บางคนต้องภาวนาเป็นปี บางคนก็เป็นเดือน บางคนก็หลายวัน บางคนก็หลายชั่วโมา บางคนก็ไม่กี่นาที จะเห็นว่าเรื่องเวลา กับการสั่งสมบารมีมาแล้วในปัจจุบัน วัดกันไม่ได้ ดังนั้นจะมีศีล 3 ปี หรือ 3 วัน ก็มีโอกาสบรรลุธรรมเท่ากัน บางคนยังไม่ได้สมาทานศีล หรือ กล่าวถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นที่พึ่งก็บรรลุธรรม กันมากมายในครั้งพุทธกาล
ยังมีอีกหลายประเด็น แต่จะฉีกประเด็นอย่างไร ผมก็ว่า ไม่น่าเกี่ยวกับจำนวนข้อของศีล ที่จะบรรลุธรรม
ลองนึกดูสิครับ ว่า พระบวช 25 พรรษา ยังไม่บรรลุธรรม ภาวนายังไม่ได้ พระบวชแค่ วันสองวัน ภาวนาได้
ในสังคมถึงจะเชิดชูพระพรรษามาก แต่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่พระองค์ย่อมทรงตรัสสรรเสริญ พระที่บวชน้อยแต่บรรลุธรรม
ผู้ใดเห็นธรรม แม้เพียงราตรีเดียว ย่อมประเสริฐกว่า ผู้มีอายุหลายร้อยปี นะครับ