มีการวัดผลการปฏิบัติ อย่างไรหรือครับ ที่ว่าปฏิบัติ ได้ หรือ ไม่ได้ 
สำหรับท่านสอนแบบประกบตัวต่อตัวในขณะที่ขึ้นกรรมฐาน สอนวิธีการเดินจิต
มีขั้นตอนอย่างไรครับ เพราะโดยปกติกรรมฐานก็สอนกันเฉพาะศิษย์อยู่แล้ว วิีธีการเดินจิตก็เป็นวิธีการปฏิบัติ
จะมีความแตกต่างกันอย่างไรครับ
ขอชี้แจงในคำถามที่ 2 นะครับ และต้องกราบขออภัยพระอาจารย์ด้วย หากกล่าวเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสม
ก่อนจะไปที่วัด ผมได้โทรกราบเรียนถามท่าน 2-3 ครั้ง ซึ่งบางเรื่องท่านแจ้งว่าตอบไม่ได้ถ้าไม่ได้เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน แต่ท่านก็แนะนำให้ไปที่วัดราชสิทธารามก่อน ไปดูหลักฐานต่างๆ จะได้เกิดศรัทธาในองค์บูรพาจารย์และสายวิชชา สำหรับการจะขึ้นกรรมฐาน ท่านบอกว่า ถ้าอยู่ในกรุงเทพ ก็ให้ไปที่วัดพลับ ผมจึงได้ไปขึ้นกรรมฐานกับหลวงพ่อจิ๋วก่อน และหลวงพ่อจิ๋วท่านก็เมตตาและเป็นกันเองมาก แต่ผมอาจเป็นศิษย์ใหม่มากๆ ก็ได้ ในความเห็นของท่าน จึงยังไม่จำเป็นต้องชี้แนะอะไรมาก ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆก่อน ตามแนวที่แจ้งตอนแรก
อันที่จริงแล้ว บ้านผมอยู่ชานเมืองด้านทิศเหนือ การเดินทางไปที่วัดแก่งขนุนจะสะดวกและรวดเร็วกว่า
ในวันที่ผมไปขึ้นกรรมฐานที่วัดแก่งขนุนนั้น โชคดีที่มีผมอยู่คนเดียว การสอนจึงเฉพาะตัวจริงๆ แต่ท่านก็เล่าว่า ถึงจะสอนเป็นกลุ่ม ท่านก็ช่วยชี้สภาวะแต่ละบุคคลในขณะนั้นให้ โดยคนนั้นต้องมีสติสังเกตุตัวเองก็จะทราบได้เช่นกัน ในวันนั้น ยังได้คุยเรื่องที่น่าแปลกใจอีกหลายเรื่อง แต่ไม่สามารถบอกได้
ในด้านการสอนภาวนานั้น ผมเองผ่านการปฏิบัติมาหลายแนวหลายที่ ทราบดีถึงความแตกต่างในสไตล์ของแต่ละพระอาจารย์ เช่น สายหลวงปู่มั่น ท่านก็ไม่อธิบายมาก เน้นให้ภาวนามากๆ เมื่อเจอสภาวะใดๆจริงแล้วจึงจะไปถาม
ส่วนบุคคลนั้นจะชอบหรือถูกจริตกับแนวการสอนพระอาจารย์ท่านไหนแล้ว ก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล (และบางทีก็อาจเป็นเรื่องของวาสนา และกรรมสัมพันธ์)
ในส่วนวิธีสอนการเดินจิตนั้น จากประสบการณ์ตรงของผม พิจารณาว่าโดยวัย(ที่ยังไม่มาก)ประกอบกับสไตล์การสอนของพระอาจารย์สนธยาท่าน ในเบื้องต้นท่านช่วยเหลืออย่างมาก เหมือนเป็นโค้ชที่ประกบใกล้ชิด และอาจเป็นเพราะท่านเมตตาผมด้วยก็เป็นได้ ผมกล่าวได้ว่ามีความต่างในวิธีการครับ เช่น ผมมีจุดภาวนาที่เคยปฏิบัติอยู่ ท่านก็ให้ดึงนำมาใช้ การชี้ถึงอารมณ์ในขณะนั้น เป็นต้น พูดมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะเป็นการละเมิดครูบาอาจารย์ แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็คงเหมือนกัน คือ ทุกคนต้องพยายามด้วยตนเอง จึงจะสำเร็จได้
ยิ่งกว่านั้น ท่านกล่าวอยู่ตลอดว่า ศูนย์กรรมฐานฯที่วัดแก่งขนุนนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อเผยแผ่กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป และสนับสนุนศูนย์กลางที่วัดพลับและหลวงพ่อจิ๋วท่าน ซึ่งในอนาคตก็จะมีความเข้าใจในที่มาที่ไปของศูนย์กรรมฐานฯนี้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเคารพทุกแนวทางที่ปฏิบัติตรง ครูบาอาจารย์ทุกท่านตามที่ผมเคยไปปฏิบัติมา และยังแวะเวียนไปกราบท่านอยู่เสมอ รวมทั้งขอคำสอนคำชี้แนะและเอามาประยุกต์ใช้ด้วย
เช่น คำสอนของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่ว่า "คนดี เขาไม่ตีใคร"
ขออภัย ถ้าคำตอบยังไม่กระจ่าง กรุณาสอบถามพระอาจารย์สนธยาต่อนะครับ