ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จะนั่งกรรมฐาน แบบไหนดี หรือ จะตัดสินใจเลือกแบบไหนดี  (อ่าน 4268 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ส้ม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 184
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ตอนนี้มีเพื่อน มาชักชวน ในการปฏิบัติในสถานที่ต่าง ๆ มีทั้งหนังสือ ซีดี มีครูอาจารย์ มีชื่อเสียงหลายท่าน
ซึ่งตอนเพื่อนชวน ก็บอกว่า ดี ๆ  ๆ  ทั้งนั้นจนทำให้เห็นวิธีการปฏิบัตินั้น เป็นหลากหลาย หลากวิธี ซึ่งในส่วนตัว
ไม่ชอบฝึก การภาวนาหลาย ๆ แบบ เพราะมีความเห็นว่า ฝึกหลายอย่างจะทำให้เกิดความสับสน

 อยากถาม เพื่อน ๆ ชาวกรรมฐานที่นี่ มีเกณฑ์ การตัดสินใจเลือกการฝึกภาวนา อย่างไรกันคะ

 :c017:
บันทึกการเข้า
เส้นทางแสนเปรี้ยว จะมีสุขจริงบ้างหรือไม่ ?

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28562
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

รับกรรมฐานให้ถูกกับจริตของตน
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3660.0

สติปัฏฐาน แบ่งตาม "จ ริ ต" ?..และ อ า นิ ส ส ง ส์.. ๗ ๖ ๕ ๔..?

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3485.0

เพื่อนๆร่วมวิชาชีพที่เมืองรถม้า น่าจะให้คำปรึกษาไปบ้างแล้ว

ส่วนผมขอกินแรงคนอื่น ช่วยไปอ่านเอาเองนะครับ หามาให้อ่านสองเรื่อง

ถูกใจหรือไม่อย่างไร ประเมินผลด้วยตัวเองแล้ว บอกผมสักนิดก็ดี

เอาไว้โอกาสหน้า จะมาคุยเป็นเพื่อนอีกที

 :welcome: ;) :49:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จริต คือ ลักษณะนิสัยพื้นฐานที่ประพฤติปฏิบัติ เป็นพฤติกรรมตามสภาพของจิตใจอันเป็นปกติของบุคคลนั้น โดยแบ่งออกเป็น 6 แบบ คือ

1. ราคจริต (คุณรักงาม) มีลักษณะเป็นคนสุนทรีย์ในอารมณ์ รักสวยรักงาม พูดจาอ่อนหวาน สะอาด ประณีต

2. โทสจริต (คุณเก่งเกณฑ์) มีลักษณะเป็นคนจริงจัง เจ้าระเบียบ ใจร้อน โมโหง่าย ชอบชี้นำ พูดดัง เดินเร็ว

3. โมหจริต (คุณฝันซึ้ง) มีลักษณะเป็นคนชอบคิดฝัน ชอบสะสม ยิ้มง่าย พูดไม่เก่ง ไม่ค่อยมั่นใจตนเอง เชื่อคนง่าย

4. วิตกจริต (คุณสลับใจ) มีลักษณะเป็นคนชอบคิดการณ์ไกล แต่เปลี่ยนใจบ่อย หน้าตาไม่ค่อยสดชื่น พูดเก่ง ละเอียดลออ

5. ศรัทธาจริต (คุณเลิศหลง) มีลักษณะเป็นคนนับถือตนเอง เสียสละ มีหลักการ มีศรัทธาแรงกล้าในสิ่งที่เชื่อถือ

6. พุทธิจริต (คุณปัญญา) มีลักษณะเป็นคนมีไหวพริบ จดจำเรียนรู้ได้ดี มีปัญญาดี ประนีประนอม สุภาพ มีเมตตาสูง

โดย ความเป็นจริงแล้ว คนเรามักมีจริตมากกว่า 1 อย่างผสมกัน เช่น ราคโทสจริต ราคโมหจริต โทสโมหจริต ราคโทสโมหจริต สัทธาพุทธิจริต สัทธาวิตกจริต พุทธิวิตกจริต สัทธาพุทธิวิตกจริต เป็นต้น เมื่อรวมกับจริตหลัก 6 ชนิด จึงได้เป็นบุคคล 14 ประเภท หรือ 14 จริต

ซึ่งบุคคลแต่ละจริตก็เหมาะที่จะทำกรรมฐานแต่ละชนิดแตกต่างกันออกไป

กรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง ท่านจำแนกแยกเป็นหมวดไว้ เพื่อเหมาะสมกับจริตนั้น ๆมีดังนี้ คือ


๑.รา คจริต ท่านจัดกรรมฐานที่เหมาะสมไว้ ๑๑ อย่างคืออสุภกรรมฐาน ๑๐ กับกายคตานุสสติกรรมฐาน อีก ๑ รวมเป็น ๑๑ อย่าง ในเมื่ออารมณ์รักสวยรักงามปรากฏขึ้นแก่อารมณ์จิต จงนำกรรมฐานนี้มาพิจารณาโดยนำมาพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง จากกรรมฐาน ๑๑ อย่างนี้ ตามแต่ท่านจะชอบใจ จิตท่านก็จะคลายความกำหนัด ยินดีในกามารมณ์ลงได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นอะไรเลย ถ้าจิตข้องอยู่ในกามารมณ์เป็นปกติ จนกว่าอารมณ์จะสงัดจากกามารมณ์ เห็นคนและสัตว์ สรรพวัตถุทั้งหลายที่เคยนิยมชมชอบว่าสวยสดงดงาม กลายเป็นของน่าเกลียดโสโครกโดยกฏของธรรมดา จนเห็นว่าจิตใจไม่มั่วสุมสังคมกับความงามแล้วก็พิจาณาวิปัสสนาญาณยกเอาขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ ว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ของเราเราไม่มีในขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา โดยเอาอสุภกรรมฐาน หรือกายคตานุสสติกรรมเป็นหลักชัยทำอย่างนี้ไม่นานเท่าใดก็จะเข้าถึงมรรคผล นิพพาน การทำถูกไม่เสียเวลาอย่างนี้

๒.โทสจริต คนมักโกรธ หรือขณะนั้นเกิดมีอารมณ์โกรธพยาบาทเกิดขึ้นขวางอารมณ์ไม่สะดวกแต่การเจริญ ฌาน ท่านให้เอากรรมฐาน ๘ อย่างคือ พรหมวิหาร ๔ และวัณณกสิณ ๔ วัณณกสิณ ๔ ได้แก่ นีลกสิณ เพ่งสีเขียว โลหิตกสิณ เพ่งสีแเดง ปีตกสิณ เพ่งสีเหลือง โอทากสิณ เพ่งสีขาว กรรมฐานทั้งแปดอย่างนี้ เป็นกรรมฐานระงับ ดับโทสะ ท่านจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่เหมาะสมแก่ท่าน คือตามแต่ท่านจะพอใจเอามาเพ่ง และใคร่ครวญ อารมณ์โทสะก็จะค่อย ๆ คลายตัวระงับไป

๓.โมหจริต และ๔.วิตกจริต อารมณ์ที่ตกอยู่ในอำนาจของความหลงและครุ่นคิดตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด ท่านให้เจริญอานาปานานุสสติกรรมฐานอย่างเดียว อารมณ์ความลุ่มหลงและควาสมคิดฟุ้งซ่านจะสงบระงับไป

๕.สัทธาจริต ทานที่เกิดสัทธาความเชื่อ เชื่อโดยปกติ หรืออารมณ์แห่งความเชื่อเข้าสิงใจก็ตาม ท่านให้เจริญกรรมฐาน ๖ อย่าง คืออนุสสติ ๖ ประการดังต่อไปนี้ ๑. พุทธานุสสติกรรมฐาน ๒.ธัมมานุสสติกรรมฐาน๓.สังฆานุสสติกรรมฐาน ๔.สีลานุสสติกรรมฐาน ๕. จาคานุสสติกรรมฐาน๖.เทวตานุสสติกรรมฐาน อนุสสติ ทั้ง ๖อย่างนี้ จะทำให้จิตใจของท่านที่ดำรงสัทธาผ่องใส

๖.พุทธจริต  คนเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันเหตุการณ์และมีปฏิภานไหวพริบพี ท่านให้เจริญกรรมฐาน ๔ อย่าง ดังต่อไปนี้ ๑. มรณานุสสติกรรมฐาน ๒.อุปสมานุสสติกรรมฐาน ๓.อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๔ .จตุธาตุวัฏฏฐาน รวม ๔อย่างด้วยกัน

กรรมฐาน ที่เหมาะแก่จริตทั้ง ๖ ท่านจัดเป็นหมวดไว้ ๕ หมวด รวมกรรมฐานที่เหมาะแก่จริต โดยเฉพาะจริตนั้น ๆ รวม ๓๐ อย่าง หรือในที่บางแห่งท่านเรียกว่า ๓๐ กอง กรรมฐานทั้งหมดด้วยกันมี ๔๐ กอง ที่เหลืออีก คือกรรมฐานกลาง อรูป ๔ และภูตกสิณ ได้แก่ ปฐวีกสิณ เตโชกสิณ วาโยกสิณ อาโปกสิณ ๔อย่างนี้ เรียกว่าภูตกสิณ อาโลกสิณ ๑ และอากาศกสิณ ๑ รวมเป็น ๑๐ พอดี กรรมฐาน ๑๐ อย่างนี้ ท่านตรัสไว้เป็นกรรมฐานกลางเหมาะแก่จริตทุกอย่าง รวมความว่าใครต้องการเจริญก็ได้เหมาะสมแก่ทุกคน แต่สำหรับอรูปนั้นถ้าใครต้องการเจริญ ท่านให้เจริญฌานในกสิณให้ได้ฌาน ๔ เสียก่อน แล้วจึงเจริญในอรูปได้ มิฉะนั้นถ้าเจริญอรูปเลยทีเดียวจะไม่มีอะไรเป็นผล เพราะอรูปละเอียดเกินไปสำหรับนักฝึกสมาธิใหม่.


ที่มาจากเมล ที่เคยถามพระอาจารย์ครับคล้ายกันแบบนี้ครับ

 :08:
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อนุโมทนา ตอบได้ดี

แต่ถึงจะตอบว่าตามจริต แต่จะมีสักกี่คนรู้ว่าตัวเอง เป็นจริตอะไร ?
เพราะจริต ทั้ง 6 มีในทุกคน จะมาก จะน้อย จะวิเคราะห์อย่างไร ? ว่าเราเป็นจริตนั้น ๆ ?

ดังนั้นทางที่ ดี แนะนำให้ปฏิบัติภาวนาทดสอบ กรรมฐาน อย่างละ 1 เดือน แบบทำสักวันละ 1 ชม.
ก็รู้แล้วว่า กรรมฐานถูกโฉลก กับเราหรือไม่

หรือถ้าจะให้ดี ก็เอาจริง เอาจังสัก 7 วัน เจริญภาวนาจริง ๆ เลย ก็รู้ผลแล้วว่า เราชอบไปอย่างนั้นหรือไม่

แต่ถ้าคิดไม่ออกเลย กรรมฐาน ที่เป็นมาตรฐาน มี 4 อย่างในผู้ภาวนาทุกจริต มีดังนี้

1. เมตตานุสสติกรรมฐาน
2. มรณานุสสติกรรมฐาน
3. พุทธานุสสติกรรมฐาน
4. กายคตาสติ

 กรรมฐาน 4 อย่างนี้เป็นกรรมฐานที่ไม่ขาด จากผู้ภาวนา เป็นกรรมฐานที่สนับสนุน วิชชา

ดังนั้นท่านจะจริตไหน ก็ต้อง เจริญกรรมฐาน ทั้ง 4 นี้ ในยุคนี้ก็ต้องอย่างนี้

เจริญธรรม
 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ