ถึงมี ในส่วน ศิษย์ และ อาจารย์ ก็มักไม่กล่าวกัน เพราะป้องกันกิเลส คือ
อัสสมิมานะ หรือ มานานุสัย
เนื่องด้วยบางคน พอรู้ ว่าตนเองภาวนา แล้ว ล้าหลังเขา แล้วก็น้อยใจ ไปก็มี
บางคน พอรู้ ว่าตนเองภาวนา แล้ว นำเขา แล้วก็ดีใจ หลงตัวเอง ไปก็มี
บางคน พอรู้ ว่าเสมอเขา ก็ท้อแท้ ไม่ภาวนาต่อก็มี
เนื่องด้วยในการภาวนา นั้น มีเหตุปัจจัย แตกต่างกันไป หลายประการเช่น
1. บุญบารมี ที่สั่งสมมาไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน
2. ความเพียร ที่ภาวนา ก็มีไม่เสมอกัน
3. บางท่าเกิดอุปกิเลส นิกันติ พอใจที่อยู่แต่เพียงเท่านั้นก็มี
4. การได้รับคำแนะนำจากกัลยาณมิตร ก็ไม่เท่ากัน
และอีก หลาย ๆ ประการ ซึ่งทำให้ผู้ภาวนา โดยเฉพาะในสาย กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
ซึ่งมีขั้น มีระดับ ในการภาวนา ที่ชัดเจน นั้น มักจะเกิดเรื่องของมานะขึ้นมาเสมอ ๆ ถึงแม้ผู้ภาวนา จะได้รับ
คำเตือน คำสอน จากพระอาจารย์ผู้สอน แต่เพราะความเป็นผู้ยังภาวนา ก็มักจะเกิดเรื่อง ความน้อยเนื้อต่ำใจ
บางครั้ง พระอาจารย์ ก็โดนลูกศิษย์ ตัดพ้อ ต่อว่า ทั้งทางตรง และทางอ้อมว่า สอนลูกศิษย์ไม่เท่ากัน เป็นต้น
ดังนั้น การกล่าวระดับ ในกรรมฐาน ให้ซึ่งกัน และ กันจึงไม่ควร นะจ๊ะ
เจริญธรรม