ก่อนอื่นขอแนะนำให้ไปอ่านลิงค์นี้ครับ
พิจารณา ที่ตัวเอง อย่างไร ว่า กิเลสดับได้ หรือ กิเลส ยังเหลือ อยู่
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4760.msg17369#msg17369
สังโยชน์ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ มี ๑๐ อย่าง คือ ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ ได้แก่
๑. สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน
๒. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
๓. สีลัพพตปรามาส ความถือมั่นศีลพรต
๔. กามราคะ ความติดใจในกามคุณ
๕. ปฏิฆะ ความกระทบกระทั่งในใจ ข. อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง ๕ ได้แก่
๖. รูปราคะ ความติดใจในรูปธรรมอันประณีต
๗. อรูปราคะ ความติดใจในอรูปธรรม
๘. มานะ ความถือว่าตนเป็นนั่นเป็นนี่
๙. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน
๑๐. อวิชชา ความไม่รู้จริง; พระโสดาบัน ละสังโยชน์ ๓ ข้อต้นได้, พระสกิทาคามี ทำสังโยชน์ข้อ ๔ และ ๕ ให้เบาบางลงด้วย,
พระอนาคามี ละสังโยชน์ ๕ ข้อต้นได้หมด,
พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ข้อ;
อ้างอิง พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
วิจิกิจฉา เป็นสังโยชน์ข้อ ๒ ต้องบรรลุโสดาบันก่อน จึงละได้
ขอแนะนำให้อ่านลิงค์นี้ครับ
ทรงสอนวิธี "พยากรณ์โสดาบัน"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3225.msg11469#msg11469
การที่จะรู้ได้ว่า วิจิกิจฉา ไม่มีแล้ว ต้องใช้ วิปัสสนาญาณ ในขั้นของ "ปัจจเวกขณญาณ"
๑๖. ปัจจเวกขณญาณ (ญาณหยั่งรู้ด้วยการพิจารณาทบทวน คือ สำรวจรู้มรรค ผล กิเลสที่ละแล้ว กิเลสที่เหลืออยู่ และนิพพาน เว้นแต่ว่าพระอรหันต์ไม่มีการพิจารณากิเลสที่ยังเหลืออยู่)
ขอแนะนำให้อ่านลิงค์นี้ครับ
"การปรากฏ วิปัสสนา คือ หยั่งพระไตรลักษณ์ มีในตอนไหน ของการฝึกกรรมฐาน"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4736.msg17285#msg17285
ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ
