
เมืองพัทยาจมใต้บาดาลหลังฝนตกกระหน่ำข้ามคืน กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือน 11-12 ก.ย.นี้มีร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน
ภาย หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนประชาชนว่าในช่วงวันที่ 11-12 ก.ย. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมี ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ผู้ สื่อข่าวเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รายงานว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 10 ก.ย. ได้เกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่เมืองพัทยา และตกไม่หยุดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 11 ก.ย. เป็นผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายจุด โดยเฉพาะถนนสุขุมวิทตั้งแต่พัทยาเหนือจนถึงพัทยาใต้
ส่วน ในตัวเมืองพัทยาไม่ว่าจะเป็นย่านตลาดพัทยาใต้ หน้าวัดชัยมงคล, ถนนวอล์คกิ้งสตรีท แหล่งรวมสถานบันเทิงชื่อดัง, ถนนพัทยาสาย 2 ตลอดสาย ถนนพัทยาสาย 3 บริเวณสี่แยกร้านอาหารมุมอร่อยและปากทางเข้าซอยบงกช รวมถึงซอยปลีกย่อยภายในตัวเมืองก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน เนื่องจากน้ำระบายลงทะเลไม่ทันและฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถนนบางสายน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้รถจักรยานยนต์และรถยนต์เล็ก ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ต่อ มาผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจบริเวณถนนพัทยาใต้ตั้งแต่เฟรนด์ชิฟซุปเปอร์มาเก็ต ไปจนถึงถนนวอล์คกิ้งสตรีทและถนนพัทยาสาย 2 ซึ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมสูงเช่นกัน พบว่ารถยนต์บางคันยังสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ แต่ก็เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการร้านค้าและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมถนน เนื่องจากมีคลื่นน้ำซัดเข้าไปในบ้านจนต้องหาสิ่งของมากั้น และผลจากน้ำท่วมยังทำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ถูกน้ำเข้าเครื่องจนพังเสียหาย ทำให้คนงานร้านซ่อมรถ จยย.ที่เปิด 24 ชั่วโมงต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อซ่อมเครื่องยนต์ให้กับลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ ขณะที่คนทำงานกลางคืนส่วนใหญ่ที่ไม่มี รถ ก็จำเป็นต้องเดินลุยน้ำตากฝนกลับบ้านกันอย่างทุลักทุเล
ขณะ ที่ทางเมืองพัทยา และเทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง ได้ส่งเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย นำรถสูบน้ำออกไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว และคาดว่าน่าจะสามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ในเร็วๆ นี้
มี รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง น้ำในบางจุดยังคงท่วมขังเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ถูกกระแสลมพัดจนล้มไปหลายต้น และมีอสรพิษไม่ว่าจะเป็นงู-ตะขาบ หนีน้ำเข้าไปในบ้านเรือน และมีหญิงสาวรายหนึ่ง ถูกตะขาบกัดภายในบ้านพักบริเวณปากซอยบงกช พัทยาใต้ จนญาติต้องหามส่ง รพ.แต่เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว
ล่าสุด นายวิชิต ชาตไพสิฐษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายอำเภอบางละมุง นายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่บรรทาสาธารณภัยเมืองพัทยาออกตรวจสอบสภาพความเสียหาย ที่เกิดขึ้น โดยพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนพื้นที่ถนนสายหลัก และเขตชุมชน รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ อาทิ ซอยวัดธรรมสามัคคี ซอยบัวขาว หมู่บ้านแปซิฟิก ถนนสายเพชรตระกูล เป็นต้น ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ต้องขนข้าวของหนีน้ำขึ้นไปบนชั้นสองของตัวอาคาร โดยปล่อยรถยนต์และรถจักร ยานยนต์จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานหลายชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบบริเวณปากคลองพัทยาใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางการระบายน้ำของเมืองพัทยาที่ปล่อยไหลลงสู่ทะเล โดยพบว่าช่วงปลายของสะพานนั้นมีสภาพคับแคบเนื่องจากมีประชาชนบางส่วนทำการ ปลูกสร้างอาคาร และสถานประกอบการรุกล้ำลำรางสาธารณะ นอกจากนี้แนวคลองยังพาดผ่านไปยังสถานประกอบการโรงแรมแห่งหนึ่งนั้น ทางโรงแรมได้ทำการติดตั้งแผ่นแสลนเพื่อป้องกันเศษกิ่งไม้ ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้เป็นจุดสะสมของเศษขยะมูลฝอยจนทำให้น้ำเกิดการชะลอตัว และเอ่อล้นย้อนกลับไปที่ท่อระบายจนท่วมขังไปบนถนนและพื้นที่อยู่อาศัยโดย ทั่วไป
นายวิชิต กล่าวว่าจากการที่ฝนตกลงมาในช่วงของคืนที่ผ่านมาจนคาบเกี่ยวมาถึงช่วงเช้า นั้น พบ ว่ามีความรุนแรงและมีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมากวัดได้กว่า 230 มม.จึงทำให้หลายพื้นที่ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างทันท่วงที แต่ปรกติก็จะมีการท่วมขังเพียงไม่นานซึ่งผิดกับครั้งนี้ซึ่งพบว่าท่วมขังมาก อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าแนวคลองที่ระบายน้ำมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวาง หลายจุด ทำให้น้ำไม่สามารถไหลได้โดยสะดวก ซึ่งจากนี้ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องทำการรื้อถอนอย่างเร่งด่วน พร้อมตรวจสอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่รุกล้ำแนวคลองว่ามีการครอบครองได้อย่างไร ซึ่งหากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด ส่วนความเดือดร้อนเบื้องต้นนั้นก็ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วย เหลือ พร้อมจะได้ดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำเพื่อเปิดทางให้น้ำไหลสะดวกมากขึ้น เพื่อรองรับปัญหาในระยะยาวต่อไป
http://www.krobkruakao.com