ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ลมหายใจดับ แต่เวทนาไม่ดับ แล้วเวทนาดับตอนไหน  (อ่าน 2691 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ 
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

๑๐. สังคีติสูตร (๓๓)

[๓๕๖] อนุปุพพนิโรธ ๙ อย่าง
             ๑. กามสัญญาของท่านผู้เข้าปฐมฌานย่อมดับไป
             ๒. วิตกวิจารของท่านผู้เข้าทุติยฌานย่อมดับไป
             ๓. ปีติของท่านผู้เข้าตติยฌานย่อมดับไป

             ๔. ลมอัสสาสะและปัสสาสะของท่านผู้เข้าจตุตถฌาน ย่อมดับไป
             ๕. รูปสัญญาของท่านผู้เข้าอากาสานัญจายตนะสมาบัติ ย่อมดับไป
             ๖. อากาสานัญจายตนสัญญาของท่านผู้เข้าวิญญาณัญจายตนสมาบัติย่อมดับไป

             ๗. วิญญาณัญจายตนสัญญาของท่านผู้เข้าอากิญจัญญายตนสมาบัติย่อมดับไป
             ๘. อากิญจัญญายตนสัญญาของท่านผู้เข้าเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ
ย่อมดับไป

             ๙. สัญญาและเวทนาของท่านผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธย่อมดับไป



ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=4501&Z=7015
ขอบคุณภาพจาก http://www.jepata.com/


     เมื่อสูตรนี้พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสโดยตรง แต่พระองค์สั่งให้พระสารีบุตรแสดงธรรมแทน มูลเหตุของสูตรนี้มีอยู่ดังนี้ (ขอยกเอาข้อหมายในพระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ มาแสดง)


๑๐. สังคีติสูตร
สูตรว่าด้วยการร้อยกรองหรือสังคายนาคำสอน

    พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จจาริกในแคว้นมัลละ ทรงแวะ ณ นครปาวา ประทับอยู่ในป่ามะม่วงของนายจุนทะบุตรช่างทอง.

    ครั้งนั้น มัลลกษัตริย์สร้างสัณฐาคารขึ้นใหม่ ยังไม่มีใครใช้ เมื่อทราบว่าพระผู้มีพระภาคเสด็จมาจึงนิมนต์ให้ทรงใช้ก่อน มัลลกษัตริย์จะใช้ภายหลัง พระผู้มีพระภาคทรงรับนิมนต์แล้ว เสด็จไปพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์. พระองค์เองประทับนั่งพิงเสากลาง ภิกษุสงฆ์นั่งพิงฝาด้านตะวันออก มัลลกษัตริย์นั่งพิงฝาด้านตะวันตก

    พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมจนดึก จึงตรัสให้มัลลกษัตริย์กลับได้. ครั้นเห็นภิกษุสงฆ์ยังไม่ง่วง จึงตรัสสั่งพระสารีบุตรให้แสดงธรรมแทน. พระองค์เองทรงปูผ้าสังฆาฏิ ๔ ชั้น ทรงพักผ่อนสำเร็จสีหไสยา ( บรรทมแบบราชสีห์ คือตะแคงขวา ).

   พระสารีบุตรปรารภความที่นครถนาฏบุตรถึงแก่กรรม สาวกแตกกันเป็นสองฝ่าย โต้เถียงกันด้วยเรื่องธรรมวินัย จึงสอนแนะให้ภิกษุทั้งหลายสังคายนาพระธรรมไม่วิวาทกัน เพื่อให้พรหมจรรย์ตั้งอยู่ยั่งยืน. ครั้นแล้วท่านได้แสดงตัวอย่างการสังคายนาธรรมเป็นหมวด ๆ



ที่มา http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/3.4.html
ขอบคุณภาพจาก http://www.bds53.com/


    บทสรุปของพระสูตรที่ต้องการให้เข้าใจก็คือ เมื่ออยู่ในฌานที่ ๔ ลมหายใจเข้าออกจะดับ คือ ไม่หายใจนั่นเอง แต่ไม่ได้ตายนะครับ ความรู้สึกหรือเวทนายังมีอยู่ คือ มีสติรู้ตัวอยู่
    ความรู้สึกหรือเวทนาจะดับจริงๆ เมื่ออยู่ในสัญญาเวทยิตนิโรธเท่านั้น

     :25:
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 11:24:19 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ