อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรีคาถา ติงสนิบาต
๑. สุภาชีวกัมพวนิกาเถรีคาถา
อรรถกถาเถรีคาถา ติงสนิบาต
อรรถกถาสุภาชีวกัมพวนิกาเถรีคาถา
ในติงสนิบาต คาถาว่า ชีวกมฺพวนํ รมฺมํ เป็นต้นเป็นคาถาของพระสุภาชีวกัมพวนิกาเถรี มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
พระเถรีแม้รูปนี้ก็ได้บำเพ็ญบารมีมาในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ สร้างสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาในภพนั้นๆ อบรมกุศลมูล เพิ่มพูนสัมภารธรรมเครื่องปรุงแต่งวิโมกข์มาโดยลำดับ มีญาณแก่กล้า มาในพุทธุปบาทกาลนี้ ก็บังเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ในกรุงราชคฤห์ มีนามว่าสุภา.
เล่ากันมาว่า นางมีส่วนแห่งเรือนร่างประกอบด้วยผิวพรรณดั่งทอง เพราะฉะนั้น นางจึงมีนามคล้อยตามไป ด้วยว่า สุภา แปลว่า งาม.
ขณะพระศาสดาเสด็จเข้าไปกรุงราชคฤห์ นางก็ได้ศรัทธาเป็นอุบาสิกา ต่อมาเกิดความสังเวชในสังสารวัฏ เห็นโทษในกามทั้งหลาย และกำหนดเอาเนกขัมมะการบวชเป็นทางเกษม บวชในสำนักพระนางปชาบดีโคตมี บำเพ็ญวิปัสสนา ๒-๓ วันเท่านั้นก็ดำรงอยู่ในพระอนาคามิผล.
ต่อมา วันหนึ่ง ชายนักเลงหญิงคนหนึ่งเป็นชาวกรุงราชคฤห์ เป็นหนุ่มแรกรุ่น เห็นพระเถรีกำลังเดินไปเพื่อพักกลางวันที่ชีวกัมพวันวิหาร เกิดจิตปฏิพัทธ์ขึ้นมา ก็ยืนกั้นขวางทางไว้ กล่าวเชิญชวนด้วยกามารมณ์
พระเถรีเมื่อจะประกาศโทษของกามทั้งหลายและอัธยาศัยในเนกขัมมะการบวชของตนด้วยประการต่างๆ จึงกล่าวธรรมแก่ชายผู้นั้น ชายผู้นั้นแม้ฟังธรรมกถาแล้วก็ไม่ยอมถอย ยังติดตามอยู่นั่นแหละ พระเถรีเห็นเขาไม่อยู่ในถ้อยคำของตน และยังชื่นชอบที่ลูกตา ก็กล่าวว่า เอาเถิด ท่านคงชอบลูกตา แล้วก็ควักลูกตาข้างหนึ่งของตนมอบให้เขา.
ลำดับนั้น ชายผู้นั้นก็สะดุ้งเกิดสลดใจ สิ้นร่านรักในพระเถรีนั้น ขอขมาพระเถรีแล้วก็หลีกไป.
พระเถรีก็ไปสำนักพระศาสดา พร้อมกับที่พบพระศาสดานั่นแหละ ตาของพระเถรีก็กลับเป็นปกติดังเดิม.
ลำดับนั้น พระเถรียืนอยู่ ถูกปิติที่ดำเนินไปในพระพุทธคุณสัมผัสไม่ขาดสาย.
พระศาสดาทรงทราบอาจาระทางจิตของพระเถรี ทรงแสดงธรรม ตรัสบอกกรรมฐานเพื่ออรหัตมรรค พระเถรีข่มปิติได้แล้ว ทันใดนั้นเอง เจริญวิปัสสนาก็บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ๔.
ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้วอยู่ด้วยผลสุขและนิพพานสุขอ้างอิง
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=472อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=9927&Z=10028ขอบคุณภาพจาก
http://www.rmutphysics.com/,http://talk.mthai.com/