หลากหลายชีวิต มีรูปแบบต่างกันไป ตามบุพพกรรมที่สร้างมาไว้ ใครสร้างกรรมไว้ดี ก็มีปัญหาน้อย ใครสร้างกรรมไม่ดีก็มีปัญหามาก ไม่มีชีิวิตใด ราบรื่นหมดจด ทุกคนต้องฟันผ่า มรสุมแห่งชีวิตที่เรียกว่า วัฏฏจักร วังวนแห่งการเวียนว่ายตายเกิด กันอยู่อย่างนี้ ตราบเท่าไม่รู้จักพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ต้องเวียนว่ายกันอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ไปตราบนานเท่านาน
คนมีสติ มีกำลังปัญญา จึงรู้แจ้งชัดว่า กรรม ก็เป็นเหตุให้เวียนว่ายตายเกิด ด้วยเช่นกัน แม้วิบาก ก็เป็นเหตุด้วยเช่นกัน กิเลส ก็เป็นเหตุให้ เวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้
การมีชีวิตคนเดียว ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง... แม้มวลหมู่พี่น้อง นับว่าเป็นเรื่องลำบาก ผมเจอมาหลายคนอยากจะบอกว่า มีชีิวิตก็ใช้ชีวิตนี้ให้มีค่า มีคุณ
ผมมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นคนมาจากฐานะยากจน แต่ก็สุ้ชีวิตมามีฐานะในระดับกลาง เธอเป็นครูที่ดีคนหนึ่งในสายตาผม เธอเป็นเด็กในเมือง ที่มีเพียง พ่อ แม่ เป็นญาติ ครั้นพอสิ้นพ่อแม่ เธอไปแล้วเธอ ก็ทุ่มเทชีวิตให้กับการสอนและมอบทุนให้เด็กทุกปี
มีวันหนึ่งผมได้ไปเป็นแขกที่บ้านเธอ ได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำมื้อนั้นแล้ว รู้สึกได้ถึงความเป็นผู้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยบทบาทของคนที่ประหยัด เธอมีกับข้าวสองสามอย่างที่รับแขก ซึ่งผมเองก็ได้แซวเธอในฐานะเพื่อนว่า จะเก็บเงินไว้ให้ใคร ครับ.... เงินเดือนก็ต้องเยอะแล้ว ลูกหลานก็ไม่มี ทานอาหารดี ๆ เสียบ้างสิครับ
ผมได้รับคำตอบว่า .... ทานอย่างนี้แล้ว เหมือนนั่งทานกับ พ่อแม่อยู่ และ รู้สึกว่าพ่อแม่ ก็ยังอยู่ด้วย
ผมฟังแล้วก็อึ้ง แต่รู้สึกตีืนตันใจเมื่อได้ยิน......
และเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เธอก้ได้จากเราไปด้วยโรคประจำตัว พร้อมกับทุนทรัพย์ที่เก็บไว้ ด้วยคำสั่งว่า ขอมอบเป้นทุนให้กับนักเรียน ที่ดี ต่อไป
ผมก็ไม่ทราบว่า การบริหารเงินสินทรัพย์ ซึ่งไม่มีญาติ นั้นเป็นอย่างไร แต่ที่ผมจะกล่าวก้คือ
บางครั้งการที่เราอยู่ในโลก สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะมั่งมี หรือ ยากจน เราต้องมีอุดมการณ์ เพระาอุดมการณ์ เป็นเครื่องสนับสนุนและกำลังใจให้เรามีชีิวิตอยู่ได้ในโลกอัน หฤโหด ที่เต็มไปด้วย ทุกข์ นี้ ครับ
คุยเป็นเพื่อน แต่เพียงเท่านี้นะครับ
