ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผีนั่งสามล้อไม่มีเงินจ่าย..สุดท้ายคนในบ้านต้องจ่ายเอง  (อ่าน 2138 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29305
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
   

นางไม้กับคึกฤทธิ์

นักคิดนักเขียนคนรุ่นเก่า อย่างอาจารย์พลูหลวง มีความเชื่อเรื่อง โชคลาง สังหรณ์ ปาฏิหาริย์ หรือเรื่องผี จนเขียนเรื่องเอาไว้ให้คนรุ่นลูกหลานอ่านหลายเล่ม

ในหัวข้อสภาวะเป็นทิพย์ หนังสือเล่มชื่อ รหัสวิทยา (สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง พ.ศ.2553) พลูหลวง เขียนเรื่องนางไม้...ในบ้านอดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

ในบริเวณบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มีบ้าน ทรงไทยโบราณหลังหนึ่ง เป็นบ้านเก่าเอามาปลูกใหม่

บ้านหลังนี้ เดิมตั้งอยู่ที่ที่ทำการเทศบาลกรุงเทพฯ เมื่อทางราชการจะปลูกตึกที่ทำการเทศบาลกรุงเทพฯ บริเวณเสาชิงช้า บ้านหลังนี้ถูกเวนคืนที่ดิน แล้วรื้อเอากองไว้


เล่าลือกันมานาน บ้านหลังนี้ผีดุ หนังสือพิมพ์เคยลงข่าว มีผีหญิงสาวนั่งรถสามล้อ มาลงปากตรอก อันอยู่ตรงร้านอาหารศรแดง แล้วก็เข้าตรอกไป คนขับสามล้อหลายคน ถูกบอกให้รอเอาค่ารถ แล้วก็ไม่ได้

จนเกิดเป็นข่าวเล่าลือกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นผี

นักข่าวตามไปถามคนขับสามล้อหลายคน ได้ความตรงกันว่า เวลาที่หญิงสาวเรียกสามล้อ มักเป็นเวลาก่อนสองยาม

เมื่อเป็นข่าวดัง ก็มีคนกรุงเทพฯมากมาย อยากเห็นผีกับตา ก่อนเวลาสองยาม คนหลายคนก็มาจับกลุ่มกันรอดู คนมากขนาดต้องข้ามถนนไปจับกลุ่มที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

อาจารย์พลูหลวง ท่านว่า มีคนเยอะขนาดนั้น ทั้งยังมารอกันหลายคืน ผีที่ไหนจะกล้ามาปรากฏตัว นานๆเข้าก็เลิกรากันไป



    เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ซื้อชิ้นส่วนบ้านเก่าหลังนั้น ไปปลูกใหม่ในบ้านซอยสวนพลู
    ข่าวลือผีสาวนั่งสามล้อก็ยังตามไป เล่ากันเป็นจริงเป็นจังว่า

    ผีสาวแต่งชุดไทยโบราณ นั่งสามล้อมาลงที่หน้าประตูบ้าน แล้วก็เดินหายไป
    คนขับสามล้อทนรอไม่ไหว ไปเคาะประตูบอกคนในบ้าน
    คนในบ้านตัดรำคาญ ควักเงินให้ค่าสามล้อไป เป็นเช่นนี้หลายครั้ง


บ้านทรงไทยหลังนี้ ท่านเจ้าบ้านเปิดเผยเองว่า มีประตูตกน้ำมัน ห้องที่มีประตูตกน้ำมัน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ใช้เก็บพระพุทธรูป และโบราณวัตถุต่างๆ เคยแสดงความเฮี้ยนอยู่เรื่อยๆ

ความเฮี้ยนครั้งสำคัญ เกิดขึ้นเมื่อปี 2518 ตำรวจชุมนุมกันที่สนามหลวง อภิปรายโจมตีรัฐบาล แล้วก็ชักชวนกันไปบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ซึ่งเป็นนายกฯอยู่ตอนนั้น พังประตูบ้านแล้ว ก็เฮโลกันทำลายต้นไม้ ทุบข้าวของมีค่า เฟอร์นิเจอร์ กระจก แม้แต่นกในกรุงก็ถูกฆ่า เหล้าดีๆที่เก็บไว้ ก็ถูกขนออกมาดื่มกันจนเมา

แต่ตำรวจเขาก็ดูเหมือนจะรู้อะไรควรไม่ควร ไม่แตะต้องเรือนไม้โบราณหลังนั้น

ตำรวจกลับไปแล้ว เจ้าของบ้านก็พบว่า ประตูบานตกน้ำมัน มีน้ำมันไหลเยิ้มออกมาโชกทั้งแผ่น ท่านเจ้าบ้านต้องเอาทองคำเปลวไปปิด ปิดเหมือนทุกครั้งที่เกิดเรื่องร้ายๆในบ้าน


ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เขียนเล่าเรื่องนี้ไว้เองว่า

จะมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ตก (หมายถึงตกน้ำมัน) บอกให้รู้ จนวันตำรวจบุกบ้าน คุณประโพธิ เปาวโรหิต มาคุยบอกว่า ยังไม่เคยเห็นบ้าน หลังนี้เลย อยากดู ผมก็พาขึ้นไปดู พอไปถึงประตู บานนี้ น้ำมันโชกทองที่ปิดไว้เก่ายังกับเป็นปีๆ ทองละลายออกหมด น้ำมันทั้งแผ่นเลย

ก็รู้ว่า โอ้โฮ! ก็คงตกใจ หรือโกรธมาก

ก็เห็นอย่างนั้นทุกคน ไหลออกมาจั้กๆเลย ลูบมาก็ติด น้ำมันไม่รู้ออกมาจากไหน ตอนเย็นผมก็เอาดอกไม้ธูปเทียนไปจุดบอกว่า ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว หายโกรธกันเสียที

เอาน้ำอบไทยพรม ปะแป้ง แล้วก็ผูกผ้าสีชมพู อะไรเหล่านี้ แขวนพวงมาลัย บอกสบายอกสบายใจ ต่อไปนี้ ไม่มีใครมาทำผิดคิดร้ายอีกแล้ว รุ่งขึ้นก็แห้งหมด

นางไม้ที่สิงบานประตูนี้ ท่านเจ้าของบ้านเรียกว่า “คุณย่า”

ท่านยังเล่าว่า คุณย่าไม่ค่อยชอบสุนัข หมาไปนั่งหน้าประตูก็ร้องเอ๋งๆ เหมือนถูกคนตีกลางดึก ท่านเลยดุคุณย่าว่า “นี่ก็อะไรไม่รู้ ลุกขึ้นตีหมูตีหมากลางดึก หนวกหูผู้คนเขาจะหลับจะนอน”

ท่านเจ้าบ้านทำหน้าที่ ดุทั้งผี ดุทั้งหมา เสร็จสรรพแล้ว ก็กลับไปนอน.


เรื่องโดย บาราย
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kumpee/246101
ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/,http://www.vcharkarn.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ