« เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 02:00:21 pm »
0
จังหวัดหนองบัวลำภูิจัด "พิธีผูกเสี่ยว"
พิธีสืบสานประเพณีวัฒนธรรม บายศรีสู่ขวัญ การผูกเสี่ยวระหว่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับพ่อเมืองหนองบัวลำภู และคู่เสี่ยวอีก 14 คน
วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาการเปรียญวัดสว่างอารมณ์ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นายประจวบ ไชยสาส์น นายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีและสักขีพยานงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรม บายศรีสู่ขวัญ การผูกเสี่ยว ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภู โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู และอำเภอศรีบุญเรือง
จัดให้มีพิธีผูกเสี่ยวถึง 16 คนที่เกิดในปีเดียวกัน และต่างก็มีบทบาทในฐานะเป็นผู้นำ ผู้บริหารตามบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกัน และถือได้ว่าเป็นคู่เสี่ยวแห่งการปรองดองแห่งปีอีกด้วย โดยเฉพาะแล้วดันไปเลือกจัดพิธีผูกเสี่ยวระหว่างนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู จับมือผูกแขนเป็นคู่เสี่ยวกับ นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทยโฆษกกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฏรน
อกจากนั้นยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ร่วมเป็นคู่เสี่ยวกันอีกด้วยท่ามกลางสักขีพยานอย่างเนื่องแน่นไม่ว่าจะเป็นนายธีระชัย แสนแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สส.พรรคเพื่อไทยของจังหวัดหนองบัวลำภู นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู หัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัด อำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวอำเภอศรีบุญเรือง ร่วมหลายพันคน โดยมีเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้ง 2 นิกายร่วมเจริญชัยมงคลคาถา
ทั้งนี้ นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ นายอำเภอศรีบุญเรือง กล่าวว่า การจัดพิธีผูกเสี่ยวในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณแห่งความปรองดอง น้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ดีและจะเป็นประเพณีของจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งในวันนี้เป็นการจัดให้กับผู้บริหารและผู้นำในระดับสูงของจังหวัดหนองบัวลำภู ทางด้านการเมืองและการปกครองโดยถือเป็นครั้งแรกและเป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดหนองบัวลำภู และเป็นสัญญาณที่ดีของความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ และจะจัดเป็นประเพณีนี้ให้คงอยู่ต่อไป
ถึงแม้นว่าในอดีตทั้งคู่และคู่เสี่ยวที่รวมในพิธีนี้จะไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งใดๆแต่ก็ได้ถือเอาโอกาสนี้เป็นการผูกแขนคู่เสี่ยวที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง และเป็นคู่คิด คู่พัฒนาในทุกๆด้านของจังหวัดหนองบัวลำภู และนับเป็นโอกาสดีที่มีผู้นำผู้บริหารที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันในจังหวัด จับมือผูกแขนเป็นคู่เสี่ยวร่วมกันโดยถือฤกษ์ดีสำหรับ นายระพี ผ่องบุพกิจ ที่มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู คนปัจจุบัน
ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2503 คู่กับนายไชยา พรหมา ส.ส.จังหวัดหนองบัวลำภู หลายสมัยพรรคเพื่อไทย เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม2503 ซึ่งทั้งคู่มีอายุครบ 52 ปีบริบูรณ์ รวมถึงคู่เสี่ยวซึ่งเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนันในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง ที่เกิดในปีพ.ศ.เดียวกันอีก 14 คนร่วมเป็นคู่เสี่ยวในครั้งนี้เพื่อให้เป็นประเพณีของอำเภอศรีบุญเรืองและจังหวัดหนองบัวลำภู สืบไป


ด้าน นางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรม บายศรีสู่ขวัญ การผูกเสี่ยวในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามไว้เป็นมรดกสืบทอดแก่อนุชนรุ่นหลัง
ในท้องถิ่นอีสานซึ่งการผูกเสี่ยว หมายถึง การผูกมิตรหรือการเป็นเพื่อนกัน
เป็นกิจกรรมประเพณีที่สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล ชุมชน
และสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคม
สำหรับประเพณีการผูกเสี่ยวในครั้งนี้ ถือเป็นคู่เสี่ยวเอกที่เกิดในเดือนเดียวกัน และปีเดียวกันอีกด้วย
ด้านความรู้สึกของนายไชยา พรหมา ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดหนองบัวลำภู ปัจจุบันเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการพิจาณาศึกษาแนวทางความปรองดองแห่งชาติ กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากเพราะประเพณีนี้เป็นประเพณีเอกลักษณ์ยิ่งใหญ่ของชาวอีสานมีความหมายลึกซึ้ง
เพราะคำว่าเสี่ยว หมายถึง เพื่อนตาย เพื่อนแท้
การที่ได้มาร่วมจับคู่ผูกเสี่ยวกับผู้ว่าระพี ผ่องบุพกิจ เพราะเกิดเดือนเดียวกัน ปีเดียวกันมีบุคลิกคล้ายกัน นิสัยใจคอคล้ายกันจึงควรจะผูกเสี่ยวเป็นมิตรแท้เป็นเพื่อนตายร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอันจะเป็นการจุดประกายความปรองดอง ความรัก ความสามัคคี แสดงให้เห็นว่าข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำสามารถทำงานร่วมกันไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประชาชนมีความสุขได้

อีกทั้งยังเป็นการเตือนใจคนในชาติให้มาเป็นเพื่อนตายเพื่อนแท้ซึ่งกันและกันที่สำคัญอยากให้กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างในการสร้างความปรองดองของคนในชาติและจะทำให้อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจุดเริ่มต้นในการจุดประกายสร้างความปรองดองให้เกิดในสังคมอย่างกว้างขวาง
ส่วนความรู้สึกของนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่าการที่ตนเองซึ่งเป็นข้าราชการประจำจะตัดสินใจจับคู่ผูกเสี่ยวกับข้าราชการการเมืองคนหนึ่งนั้นต้องใช้เวลาในการพิจารณาก่อนตัดสินใจ เพราะเสี่ยวในความหมายของคนอีสานคือ เพื่อนแท้ เพื่อนตาย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำกันเล่นๆหรือทำเพื่อสร้างภาพ
แต่ทำเพื่อจุดประสงค์ คือ หากเป็นเสี่ยวกันแล้ว ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น
เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมก็ควรจะทำ เหตุผลประการสำคัญอีกประการหนึ่งที่ตัดสินใจจับคู่ผูกเสี่ยวกับนายไชยา พรหมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองบัวลำภู เพราะเกิดเดือนเดียวกัน วันเกิดห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์ นิสัยตรงไปตรงมาเหมือนกัน จริงใจ จริงจัง ทุ่มเท ในการทำงานเหมือนกันจึงมั่นใจว่าการผูกเสี่ยวระหว่างตนเอง กับ ส.ส.ไชยา ในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างรอบด้านแน่นอนขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/19998