ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: iPhone, iPad หรือคอมพิวเตอร์ ซื้ออะไรดี?  (อ่าน 2980 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29307
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
iPhone, iPad หรือคอมพิวเตอร์ ซื้ออะไรดี?
« เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 11:38:38 am »
0


iPhone, iPad หรือคอมพิวเตอร์ ซื้ออะไรดี?
by iPhone4Society

    ก่อนหน้านี้ อุปกรณ์พกพาที่หลายคนมี มักจะเป็นโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุค สำหรับการทำงานใช่ไหมล่ะครับ?
    แต่มาวันนี้ หลายคนอาจจะสับสน เมื่อมี "อุปกรณ์ในประเภทที่ 3" (ไม่เกี่ยวอะไรกับเพศที่ 3 นะจ๊ะ) มาคั่นกลางระหว่างโทรศัพท์และโน้ตบุค ก็คือ iPad นั่นเอง
    ทีนี้ก็เกิดคำถามขึ้นมาแล้วว่า iPad ทำอะไรได้? แล้วเราจะยังต้องพก iPhone กับโน้ตบุคอยู่หรือไม่ หากซื้อ iPad มา เรามีคำตอบให้ครับ



[ ก่อนอื่นเลย iPad คืออะไร? ]
หลายคนอาจจะให้นิยามว่ามันคือ "iPod touch ขนาดยักษ์"??
แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะ iPad เป็นมากกว่า iPod จอยักษ์แน่นอน



ครั้งแรกที่เปิดตัว iPad ในเดือนมกราคม ปี 2553 ที่ผ่านมา CEO ของ Apple นาม Steve Jobs ที่เรารู้จักกันดี ได้ให้นิยาม iPad ว่าเป็น "อุปกรณ์ประเภทที่ 3" (Third Category Device) และจะเป็น "คอมพิวเตอร์ในยุคถัดไป" (Post-PC Device)

iPad ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ระหว่างโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) และคอมพิวเตอร์โน้ตบุค เพื่ออุดช่องว่างระหว่างอุปกรณ์ทั้งสอง โดย Jobs ชูความสามารถเด่นบางประการ ที่ตัว iPad เองทำได้ดีกว่าทั้งสองอย่างนี้ ตามภาพที่เราเห็น



จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เราใช้กว่า 80% บนคอมพิวเตอร์นั่นเอง และยังมีสิ่งใหม่อย่าง "การอ่านหนังสือ" (eBook) เพิ่มเข้ามาด้วย

แต่ iPad เองก็ยังไม่มีความสามารถเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้แต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับนิยามคำว่า "คอมพิวเตอร์ในยุคถัดไป" (Post-PC Device) ที่จะทำสิ่งที่เราใช้ในทุก ๆ วัน ให้ง่ายขึ้น และดีขึ้นกว่าเดิม มากกว่าที่จะเพิ่มเติมอะไรใหม่ ๆ เข้าไปให้ซับซ้อนขึ้น

เห็นไหมว่า iPad ออกจะเอนเองไปเป็นคอมพิวเตอร์ (Tablet Computer) มากกว่าจะเป็นแค่เครื่องเล่นเพลง iPod จอยักษ์เสียด้วยซ้ำ



[ แล้วเราควรซื้ออุปกรณ์ใดบ้าง? ]
แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือชนิด Smartphone (iPhone) และคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจำเป็นที่หลายคนต้องมีไปแล้วในทุกวันนี้ และ iPad เองก็แค่เข้ามาเสริม เป็นส่วนเติมเต็มให้เท่านั้น ลองตารางนี้ดีกว่าครับ น่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า


จากภาพ จะปิดประเด็นแรกไปเลยว่า ถ้ายังไม่มีโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ก็แทบจะเลิกมอง iPad ไปเลยครับ
เพราะ iPad เองยังต้องอิงกับคอมพิวเตอร์หลักของเรา ในการถ่ายโอนข้อมูล (Sync) เฉกเช่น iPhone นั่นเอง



[ คำถามต่อมา แล้ว iPad ทำอะไรได้บ้าง? ]
ด้วย Application กว่า 65,000 ตัว ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ ณ วันนี้ (พ.ค. 2554) รวมถึงยังใช้ App ของ iPhone อีกกว่า 300,000 ตัวได้ และจำนวน App ดี ๆ เหล่านี้ จะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต ทำให้ iPad เป็นอุปกรณ์ที่ต่อยอดจินตนาการของเราออกไปได้ไม่รู้จบ

ลองดูภาพของหลาย ๆ App ด้านล่างนี้ดูครับ ผมเชื่อว่าเราคงไม่ใช้อะไรอย่างนี้ แบบจริงจัง บนโทรศัพท์มือถืออย่าง iPhone หรือบนคอมพิวเตอร์เครื่องหลักแน่


         
          1. เล่นอินเทอร์เน็ตเต็มจอ iPad ดูเว็บได้สนุกกว่าบนคอมมากจริง ๆ
   
         
          2. ใช้เป็นเครื่องดนตรีจำลอง มีทั้งกลอง, กีตาร์, เปียโน แต่งเพลงได้ด้วย

         
          3. วาดรูป ร่างภาพ ขีดเขียนได้ตามใจชอบ ด้วยนิ้วหรือปากกา
   
         
          4. ตำราทำอาหารสวย ๆ พร้อมรูปประกอบ ชวนน้ำลายไหล

         
          5. แผนที่ และระบบนำทางบนรถ ใน iPad รุ่น 3G มี GPS และเข็มทิศนำทางด้วย
   
         
          6. ต่อออกจอทีวี ด้วยระบบเชื่อมต่อไร้สาย ผ่าน Apple TV เกมบางเกมก็ต่อออกจอ แล้วใช้ iPad บังคับได้ด้วย

         
          7. พิมพ์ข้อความหรืออีเมลได้ทุกที่ ด้วยขนาดที่พกพาได้ง่าย และคีย์บอร์ดเหมือนบนคอมฯ
   
         
          8. ทำสไลด์นำเสนอ และต่อออกจอนอก ทำสไลด์สวย ๆ ได้ง่าย ต่อออกจอเพื่อนำเสนอก็ได้

          (ยังมีต่อ)


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.iphone4society.com/buyer-guide/iPhone-iPad-or-Computer-Which-one
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29307
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: iPhone, iPad หรือคอมพิวเตอร์ ซื้ออะไรดี?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 11:49:32 am »
0


[ ถ้าเราจะเอา iPad มาใช้งานเอกสารจะเหมาะไหม? ]
ในครั้งแรกที่ iPad เปิดตัว Apple ได้นำเสนอชุดโปรแกรม iWork ซึ่งประกอบไปด้วย

    Pages โปรแกรมงานเอกสาร เหมือน Word
    Numbers โปรแกรมงานตาราง เหมือน Excel
    Keynote โปรแกรมนำเสนอ เหมือน PowerPoint
    (ตัวนี้เจ๋งกว่า PowerPoint มาก มีคนบอกว่า ซื้อ iWork เหมือนซื้อ Keynote มาใช้ แล้วแถม Pages กับ Numbers)


ทั้ง 3 โปรแกรมบน iPad ขายแยก ในราคาโปรแกรมละ $9.99 (ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับ Microsoft Office) ซื้อได้บน App Store เช่นเดียวกับการซื้อ App ของ iPhone

หากใครเคยใช้เครื่อง Mac มา จะพบว่า 3 โปรแกรมนี้เหมือนบน Mac มาก แทบไม่ต้องปรับตัวกันเลยทีเดียว

แต่กับผู้ใช้ทั่วไป ที่ใช้ Windows จะพบว่าการทำงานบน 3 โปรแกรมนี้ อาจจะเข้ากับบน Windows ได้ยากพอสมควร เพราะปัญหาความเพี้ยนของไฟล์เอกสารนั่นเอง (แม้แต่ Microsoft Office 2003 กับ 2007 ยังเพี้ยนได้ง่าย ๆ เอาข้ามมาใช้กับ Apple คงวุ่นน่าดู)

เราขอสรุปข้อดี และข้อเสียของงานเอกสารบนชุดโปรแกรม iWork ให้ดูง่าย ๆ ดังนี้

ข้อดี
    - การใช้งานง่ายมาก สไตล์ Apple เลย จัดรูปแบบง่าย ทำอะไรก็สวยได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องออกแรง
    - การทำงานบน iPad ทำให้เราร่างงาน หรือสร้างสไลด์นำเสนอที่ไหนก็ได้ เพราะ iPad เบามาก
    - สามารถเอางานไปทำต่อ หรือเอามาจากบน Mac หรือ Windows ได้ทันที (จะเพี้ยนไม่เพี้ยนอีกเรื่องหนึ่ง)
    - ใช้กับภาษาอังกฤษและภาษาตะวันตกส่วนใหญ่ รวมถึงภาษาจีนและญี่ปุ่นได้ดี
    - Export ออกมาเป็น PDF และส่งทางเมลได้ทันที ใครเอาไปเปิดก็ไม่เพี้ยน (แค่แก้ไขไม่ได้)


ข้อเสีย
    - มีปัญหากับภาษาไทยเล็กน้อยขณะพิมพ์ (iWork เวอร์ชันบน Mac ด้วยเช่นกัน)
    - ลงฟอนต์เพิ่มเติมไม่ได้ ยิ่งทำให้งานภาษาไทยไม่ยืดหยุ่น เพราะบน iPad มีแต่ฟอนต์ภาษาตะวันตก และภาษาจีน, ญี่ปุ่น
    - การเปิดไฟล์ Microsoft Office จากคอมพิวเตอร์ อาจจะเพี้ยนได้ เพราะเรื่องฟอนต์
    - ยังไม่มีความสามารถเท่าเวอร์ชันบนคอมพิวเตอร์ เช่น Keynote ทำกราฟ 3 มิติไม่ได้
    - สั่งพิมพ์ลำบาก ต้องใช้เครื่องพิมพ์ที่รองรับเท่านั้น


ถ้าใช้งานเอกสาร “ภาษาไทย” จริงจังล่ะก็ ไปทำบนคอมพิวเตอร์ดีกว่า อย่ามาหวังพึ่ง iPad ครับ



หากต้องการงานเอกสารจริงจังล่ะก็ ปัจจุบันมีโน้ตบุคประเภทหนึ่งที่เหมาะกับงานนอกสถานที่มาก เรียกเล่น ๆ ว่า "Sub-Notebook" มีลักษณะโดยรวม ดังนี้

    - ขนาดหน้าจอ 11-12 นิ้ว ความละเอียดสูง (Netbook มักจะจอเล็กและความละเอียดต่ำ ทำงานลำบาก)
    - ไม่มี DVD Drive ในตัว (ส่วนมากมักมีแถมเป็นแบบเสียบแยก)
    - น้ำหนักเบา (ประมาณ 1.0 - 1.5kg)
    - ใช้พวก CPU ที่เน้นประสิทธิภาพ อย่าง Intel Core i3/i5 แทนที่จะเป็น CPU ประหยัดไฟ (แต่ช้าเต่าคลาน) อย่าง Intel Atom


โน้ตบุคประเภทนี้ ก็มีราคาพอกับ iPad เช่นกัน โดยจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 บาท คงจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่มีคอม หรือต้องการคอมพิวเตอร์พกพาที่ประสิทธิภาพสูงกว่า Netbook นั่นเอง

ใครมีงบพอ อยากใช้ MacBook Air ก็ไม่ว่ากันจ้ะ (ฮา)



[ อ่านมาถึงนี่แล้ว สรุป iPhone, iPad หรือคอมพิวเตอร์ดี? ]
อุปกรณ์ ทั้ง 3 ชนิด อันได้แก่ โทรศัพท์มือถือ (iPhone), Tablet (iPad) และคอมพิวเตอร์ ต่างก็มีจุดประสงค์และความสามารถที่แตกต่างกัน และแทบจะไม่ซ้อนทับกันเลย ขึ้นอยู่กับสิ่งที่แต่ละคนจะนำไปใช้งาน

Apple วางตำแหน่งของ iPad ไว้ดีมาก คือให้ iPad เป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ง่าย มากกว่าที่จะเป็นโทรศัพท์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่แย่งยอดขายกัน (แล้วเราก็เสียเงินให้กับทุกตัว)



ด้วยความสามารถที่แตกต่าง ทำให้เรายังคงต้องพก iPhone อยู่ หากใช้ iPad เพราะคงไม่มีใครหยิบ iPad ใส่กระเป๋ากางเกง พกไปไหนมาไหนตลอดเวลา หรือหยิบ iPad มาเล่นมือเดียวขณะโหนรถเมล์แน่ ๆ และก็ยังต้องมีคอมพิวเตอร์เครื่องหลักไว้ Sync กับ iPad ที่บ้าน ดังที่เคยเป็น เช่นกัน

แต่ถ้าไม่มี iPad ก็ไม่เสียหาย เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนต้นแล้วว่า iPad เป็นเพียงส่วนเติมเต็มให้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์นั่นเอง

    อยากได้โทรศัพท์ = ซื้อ iPhone (ต้องเชียร์หน่อย เว็บเราเว็บ iPhone นี่นา)
    อยากได้คอมพิวเตอร์ = ซื้อคอมพิวเตอร์ (ยี่ห้อก็ตามใจชอบเลยครับ แต่ทีมงานใช้ Mac กัน (ฮา))
    มีโทรศัพท์แล้ว มีคอมพิวเตอร์แล้ว = ซื้อ iPad


 
[ ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เอาคอม ถ้าอย่างนั้น ซื้อ Tablet อะไรดี? ]
ทุกวันนี้ ในตลาดมี Tablet หลากหลายชนิดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Android Honeycomb Tablet หรือ Windows Tablet รวมไปถึง BlackBerry Playbook ก็ตาม

แต่ทุกตัวที่ว่ามา ยังไม่มีตัวไหนที่พอจะให้ประสบการณ์ในการใช้งาน Tablet ในภาพรวม ได้ดีเท่า iPad เลย

ถึงแม้ว่า iPad จะมีสเป็คที่ด้อยกว่า แต่ความลื่นในการใช้งานจริงนั้นกินขาดแทบทุกตัวในตลาด ระบบเสถียร ไม่มีแฮงค์ ไม่มีจอฟ้า (น่ากลัว ๆ แบบในภาพล่าง) ไม่ค้างง่าย



เอาจริง ๆ ขนาด iPhone ที่ CPU เพียง 800MHz (0.8 GHz) แต่ก็ลื่นพอกับโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นที่เป็น Dual-Core 1GHz ด้วยซ้ำไป แล้วคิดดูว่า iPad 2 ใช้ CPU Dual-Core 1GHz จะเร็วกว่า iPhone แค่ไหนล่ะครับ?


Application ของ iPad ณ วันนี้ ก็มีกว่า 65,000 ตัวให้เลือกใช้ รวมถึงใช้ App ของ iPhone ร่วมด้วยได้แบบไม่มีปัญหา เอาไปต่อยอดได้มากมาย เมื่อเทียบกับ Android Honeycomb ที่มีไม่ถึง 1,000 ตัว การใช้งานก็ย่อมจำกัดอยู่แค่โปรแกรมที่มากับเครื่องเท่านั้น

แบตเตอรีของ iPad ก็ใช้งานได้นานกว่า 10-12 ชั่วโมง สมราคาคุยตามสเป็ค เรียกได้ว่าพกไปใช้งานนอกบ้านสบาย แถมขนาดตัวของ iPad ก็บางเบา ปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์จก็ขนาดเดียวกับของ iPhone (แต่แรงดันไฟต่างกัน อย่าเอาของ iPhone มาใช้กับ iPad นะ) ยิ่งพกง่ายไปใหญ่



ระบบก็มีการระบายความร้อนที่ดี ถือนาน ๆ แล้วไม่เมื่อยมือเท่าไรนัก หากลองเอา Windows Tablet มาถือ จะพบว่าถือได้ไม่เกิน 5 นาทีแน่ ๆ เพราะน้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม และระบบระบายความร้อนที่ไม่ดี แถมยังปล่อยลมร้อนออกจากเครื่องในบางรุ่นด้วย (เหมือนกำลังถือโน้ตบุคเล่นมือเดียวนั่นล่ะ)


ที่ iPad กินขาดอีกเรื่อง ก็คงเป็นความใช้ง่ายของมัน เพราะผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่กำลังอ่านเว็บนี้อยู่ เกือบทุกคนต้องใช้ iPod หรือ iPhone ใช่ไหมล่ะครับ เมื่อเราใช้ iPhone เป็น เราก็ใช้ iPad เป็นเองโดยไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเลย

ระบบทุกระบบย่อมมีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันไปครับ ไม่ใช่ว่าเจ้าอื่นจะไม่มีข้อดีเลย มีครับ ทุกตัวย่อมมีจุดเด่นของมัน อย่าง Android ก็ปรับแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความยึดติด, BlackBerry ก็มีความสามารถด้านธุรกิจเต็มเปี่ยม, Windows ก็คือคอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบของเรา

แต่ในขณะนี้แล้ว ถ้าพูดถึง Tablet ล่ะก็ iPad มาแรง และพร้อมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของพวกเราจริง ๆ ครับ


 
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.iphone4society.com/buyer-guide/iPhone-iPad-or-Computer-Which-one
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2012, 11:51:07 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: iPhone, iPad หรือคอมพิวเตอร์ ซื้ออะไรดี?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 12:04:48 pm »
0
น่าจะจริง นะครับ เพราะว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่ คุ้นเคยกับ OS windows มากกว่า แต่พอต้องปรับเปลี่ยน การใช้ OS อื่น และ โปรแกรม อื่น ๆ แล้วก็จะเห็นความต่างเลยครับ ต้องปรับ ตัว และ ทำใจ ด้วยครับ อาจจะไม่สะดวกเหมือนอย่าง ใจ

   ผมเอง ก็เคยเป็นครับ ตอนที่ Anti windows เลยหันไปใ้ช้ OS lunux Unix แทน ตอนนั้นต้องทำใจมาก ๆ ครับ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเรียนมาก ต้องอาศัยความคล่องตัวกับการพิมพ์คำสั่ง เป็นหลัก ตอนนั้นก็เลย ปิ้งขึ้นมาว่า วันนี้เราใช้ คอมพิวเตอร์ ทำอะไรกัน ตอนนั้นก็คิดว่า เราใช้เพื่อ ฟังเพลง ดูหนัง  ไป ๆ มา ๆ ก็ ดูหนัง ฟังเพลง ได้แล้ว ความต้องการนั้นก็ไม่ใช่  สรุป แล้ว อยากให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้สารพัดครับ สรุปแล้ว ผมว่า ถ้าอยากใช้ด้วยความไม่ลำบาก ก็ติด Microsoft ต่อไปเถอะครับ เปลี่ยนมา ระบบ mac อาจจะจแย่นะครับ

   :08: :91: :49:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2012, 12:06:20 pm โดย เสกสรรค์ »
บันทึกการเข้า