พิมพ์

[เปลวฟ้า]

อยากทราบความหมาย ของคำว่า "ศรัทธา" ในพระพุทธศาสนา ด้วยครับ

 ก่อนอื่นผมคิดว่า ศรัทธา เป็นการที่เราต้องเชื่อ แม้จะเป็นเรื่อง งมงาย ก็ควรต้องเชื่่อ ครับ การเชื่ออย่างนี้เอาเหตุ เอาผลไม่ได้ ครับ เหมือที่ผม เชื่อว่า คนเราตายแล้ว ต้องเกิดอีก หากยังไม่เป็นพระอรหันต์ เป้นต้น คือการเชื่ออย่างนี้ ถ้าถามผมว่า ทำไมจึงเชื่อ ก็ตอบได้แต่เพียงว่า มีความรู้สึกว่าควรจะเชื่อ เหมือนเรื่อง การทำความดี ไม่ทำความชั่ว ก้เพราะเชื่อ การทำความดีนั้น จะไม่ตกทุกขืได้ยาก อย่างนี้เป็นต้น จึงได้ทำความดี

    ที่นี้ก็มาถึงความเชื่อ เรื่องบุญ ฟังมาว่า ทำบุญแล้วจะได้บุญเป็นเทวดา จริง ๆ แล้ว ผมก็เชื่อนะครับถึงแม้ว่าจะแย้งอยู่ว่า จะได้เป็นจริง ๆ หรือ

    หรือ ผมยังเข้าใจคำว่า "ศรัทธา"  ในพระพุทธศาสนา ยังไม่เพียงพอ

    ขอเชิญท่านผู้รู้ ช่วยแนะนำผมด้วยครับ

     

[raponsan]

   ความเชื่อความศรัทธาของคุณเปลวฟ้า ประกอบด้วยวิจิกิจฉา(ความลังเลสงสัย) ถือเป็นเรื่องปรกติ
   เพราะคนที่ไม่มีิวิจิกิจฉานั้น ต้องเป็นอริยบุคคลในขั้นโสดาบันเป็นอย่างต่ำ

   อย่างไรก็ตามปุถุชนอาจตั้งคำถามเรื่องนรกสวรรค์ว่า ยังไม่เคยเห็นแล้วจะให้เชื่ออย่างสนิทใจได้อย่างไร
   กรณีนี้ ปุถุชนที่มีโลกียฌาน สามารถถอดจิตไปดูนรกสวรรค์ได้ หรือใช้มโนมยิทธิได้ ก็จะเชื่อเรื่องนี้เต็มร้อย
   การฝึกมโนมยิทธิทางสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีผลดีตรงที่ช่วยลดวิจิกิจฉาได้้

   แต่ถ้าตอบเพียงเท่านี้ เดี๋ยวมิตรรักแฟนธรรมจะผิดหวัง ต้องยกบาลีมาคุยกันสักหน่อย
   

[raponsan]

ศรัทธา
    [สัดทา] น. ความเชื่อ, ความเลื่อมใส, เช่น สิ้นศรัทธา ฉันมีศรัทธาในความดีของเขา บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ ประสาทะ เป็น ศรัทธาประสาทะ.ก. เชื่อ, เลื่อมใส, เช่น เขาศรัทธาในการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณ. (ส. ศฺรทฺธา; ป. สทฺธา).

สัทธา
    น. ความเชื่อ, ความเลื่อมใส. (ป.; ส. ศฺรทฺธา)

ที่มา พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒
ขอบคุณภาพจาก http://lh5.ggpht.com/,http://board.palungjit.com/

ศรัทธา ความเชื่อ, ความเชื่อถือ; ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม;
       ดู สัทธา (ข้อ ๑ ในพละ ๕, ข้อ ๑ ในเวสารัชชกรณธรรม, ข้อ ๑ ในสัทธรรม ๗, ข้อ ๑ ในอริยทรัพย์ ๗, ข้อ ๑ ในอริยวัฑฒิ ๕)


ศรัทธา ๔ (ความเชื่อ, ความเชื่อที่ประกอบด้วยเหตุผล)

    ๑. กัมมสัทธา (เชื่อกรรม, เชื่อกฎแห่งกรรม, เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง คือ เชื่อว่าเมื่อทำอะไรโดยมีเจตนา คือ จงใจทำทั้งรู้ ย่อมเป็นกรรม คือ เป็นความชั่วความดีมีขึ้นในตน เป็นเหตุปัจจัยก่อให้เกิดผลดีผลร้ายสืบเนื่องต่อไป การกระทำไม่ว่างเปล่าและเชื่อว่าผลที่ต้องการจะสำเร็จได้ด้วยการกระทำ มิใช่ด้วยอ้อนวอนหรือนอนคอยโชค เป็นต้น)

    ๒. วิปากสัทธา (เชื่อวิบาก, เชื่อผลของกรรม, เชื่อว่าผลของกรรมมีจริง คือ เชื่อว่ากรรมที่ทำแล้วต้องมีผล และผลต้องมีเหตุ ผลดีเกิดจากกรรมดี ผลชั่วเกิดจากกรรมชั่ว)

    ๓. กัมมัสสกตาสัทธา (เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน, เชื่อว่าแต่ละคนเป็นเจ้าของ จะต้องรับผิดชอบเสวยวิบากเป็นไปตามกรรมของตน)

    ๔. ตถาคตโพธิสัทธา (เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า, มั่นในในองค์พระตถาคต ว่าทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ ทรงพระคุณทั้ง ๙ ประการ ตรัสธรรม บัญญัติวินัยไว้ด้วยดี ทรงเป็นผู้นำทางที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์ คือ เราทุกคนนี้ หากฝึกตนด้วยดี ก็สามารถเข้าถึงภูมิธรรมสูงสุด บริสุทธิ์หลุดพ้นได้ ดังที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญไว้เป็นแบบอย่าง)

    ศรัทธา ๔ อย่างนี้ มีมาในบาลีเฉพาะข้อที่ ๔ อย่างเดียว (เช่น องฺ.สตฺตก.๒๓/๔/๓ เป็นต้น) ว่าโดยใจความ ศรัทธา ๓ ข้อต้น ย่อมรวมลงในข้อที่ ๔ ได้ทั้งหมด

    อนึ่ง ในข้อ ๓ มีข้อธรรมที่มาในบาลีคล้ายกัน คือ กัมมัสสกตาญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน ) เช่น อภิ.วิ.๓๕/๘๒๒/๔๔๓

ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม และประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

     
      กล่าวโดยสรุปก็คือ ความเชื่อหรือความศรัทธาในพุทธศาสนา ก็คือ "ตถาคตโพธิสัทธา"
      ขอให้เชื่อในพระพุทธเจ้า เชื่อในพุทธคุณทั้ง ๙ ข้อ(อิติปิโส)
      หากมีคนแย้งว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ? ก็ขอให้คิดถึงพุทธพจน์ที่ว่า
      "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต"
      ขอให้ทุกท่านถามตัวเองว่า "ท่านเห็นธรรมแล้วหรือยัง.?"
       

[miracle]

อริยธนคาถา

(หันทะ มะยัง อะริยะธะนะคาถาโย ภะณามะ เส)
เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคาถาสรรเสริญพระอริยเจ้าเถิด.

ยัสสะ สัทธา ตะถาคะเต อะจะลา สุปะติฏฐิตา
ศรัทธาในพระตถาคตของผู้ใดตั้งมั่นอย่างดีไม่หวั่นไหว
สีลัญจะ ยัสสะ กัล๎ยาณัง อะริยะกันตัง ปะสังสิตัง
และศีลของผู้ใดงดงาม, เป็นที่สรรเสริญที่พอใจของพระอริยเจ้า
สังเฆ ปะสาโท ยัสสัตถิ อุชุภูตัญจะ ทัสสะนัง
ความเลื่อมใสของผู้ใดมีในพระสงฆ์, และความเห็นของผู้ใดตรง
อะทะลิทโทติ ตัง อาหุ อะโมฆันตัสสะ ชีวิตัง
บัณฑิตกล่าวเรียกเขาผู้นั้นว่าคนไม่จน, ชีวิตของเขาไม่เป็นหมัน
ตัส๎มา สัทธัญจะ สีลัญจะ ปะสาทัง ธัมมะทัสสะนัง,
อะนุยุญเชถะ เมธาวี สะรัง พุทธานะ สาสะนัง
เพราะฉะนั้น, เมื่อระลึกได้ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่,
ผู้มีปัญญาควรสร้างศรัทธาศีล, ความเลื่อมใส, และความเห็นธรรมให้เนืองๆ


นำมาร่วมสมทบเพื่อเสริมศรัทธาให้แก่ทุกท่าน ครับ
 


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.sujitwongthes.com
ภาพแกะสลัก 1000 กว่าปีที่ ถ้ำพระโพธิสัตว์ สระบุรี