ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุที่..คนเราคบค้าสมาคมกัน เป็นเพราะ..'มีธาตุเดียวกัน'  (อ่าน 3416 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28595
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
๕. จังกมสูตร
    
     [๓๖๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ เขตพระนครราชคฤห์ ก็โดยสมัยนั้นแล         
     ท่านพระสารีบุตรจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็จงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     ท่านพระมหากัสสปก็จงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     ท่านพระอนุรุทธก็จงกรมอยู่ ด้วยกันกับภิกษุหลายรูป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     ท่านพระปุณณมันตานีบุตรก็จงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     ท่านพระอุบาลีก็จงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     ท่านพระอานนท์ก็จงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
     แม้พระเทวทัตต์ก็จงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค ฯ



     [๓๖๖] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
      พวกเธอเห็นสารีบุตรกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนมีปัญญามาก

      พวกเธอเห็นมหาโมคคัลลานะกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนมีฤทธิ์มาก

      พวกเธอเห็นมหากัสสปกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นธุตวาท

      พวกเธอเห็นอนุรุทธ กำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นผู้มีทิพยจักษุ

      พวกเธอเห็นปุณณมันตานีบุตรกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นธรรมกถึก

      พวกเธอเห็นอุบาลีกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นผู้ทรงวินัย

      พวกเธอเห็นอานนท์ กำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่ ฯ
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นพหูสูต

      พวกเธอเห็นเทวทัตต์กำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่
      ภิ. เห็น พระเจ้าข้า ฯ
      พ. ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนมีความปรารถนาลามก ฯ



      [๓๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันโดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี


      แม้ในอดีตกาล สัตว์ทั้งหลายก็ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว โดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี


      แม้ในอนาคตกาล สัตว์ทั้งหลายก็จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี


      แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ฯ


      จบสูตรที่ ๕


อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ บรรทัดที่ ๔๐๘๗ - ๔๑๓๘. หน้าที่ ๑๗๐ - ๑๗๒.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=4087&Z=4138&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=16&i=365
ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/,http://www.tourwat.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 03, 2012, 02:29:36 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28595
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณภาพจาก http://www.shutterphoto.com/


    พระสูตรนี้บอกอะไรเราบ้าง
   
    ข้อแรก สมัยพุทธกาลมี "การเดินจงกรมเป็นหมู่คณะ"
    ข้อสอง สมัยพุทธกาลมี "การแบ่งสำนักครูบาอาจารย์" ตามอัธยาศัยของครูและศิษย์์
    ข้อสาม การที่คนเรามีอัธยาศัยต่างกัน ทำให้เกิดการแบ่ง จนถึงขั้นแตกแยก
    ทำให้เกิดมีนิกาย มีสำนัก มีกลุ่มแยกย่อยลงไปอีก
    หากมองในแง่ลบ การแบ่งทำให้ความสามัคคีลดน้อยลงไป
    ประเด็นปัญหาก็คือ ทำอย่างไร การรู้รักษ์สามัคคีจะเกิดขึ้นได้

     :49:
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 03, 2012, 08:24:42 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

timeman

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 91
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรืองนี้ จัดว่าเป็นคำพูดที่แรง ถึงแม้พระพุทธเจ้า ตรัสแสดงก็เพื่อให้เห็น ความต้องแยก พระพุทธเจ้าพระองค์ก็มีประสงค์ไว้อย่างนั้น แต่อย่างน้อยทั้งหมดก็เป็น กลุ่ม พุทธะ

   ข้อสังเกต คือ หลังจากดำรัสเสร็จ ก็มิได้เรียกให้ ภิกษุ มาปฏิบัติภาวนาร่วมกัน เพราะธรรมดา พระพุทธเจ้าทรงตรัสสรรเสริญ ความเพียรส่วนบุคคลมากกว่า ที่นี้ในกลุ่มที่ยกก็คือ กลุ่มลูกศิษย์ ที่มีอัธยาศัย ตามจริตวาสนากับครูอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้มีึวาสนาต่อกัน

    :s_hi:
บันทึกการเข้า
ทะลุมิติ มาหา ความจริง ของตัวเอง