พระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ
๏ ระเบียบในการปฏิบัติธรรมพระอาจารย์สมภพท่านสอนปฏิบัติธรรมแนวอานาปานสติกรรมฐาน โดยมีหลักเกณฑ์และขอบเขตของระเบียบในการปฏิบัติธรรมภายในวัด ดังนี้
เวลา ๐๒.๐๐ น. สัญญาณระฆังให้ตื่น ปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา
เวลา ๐๔.๐๐ น. สวดมนต์ ทำวัตรเช้า
เวลา ๐๔.๓๐ น. แสดงธรรม “ธรรมะก่อนฟ้าสาง”
เวลา ๐๙.๐๐ น. ฉันอาหารมื้อเดียว
เวลา ๑๕.๐๐ น. ปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา
เวลา ๑๗.๐๐ น. สวดมนต์ ทำวัตรเย็น แสดงธรรม “ธรรมะก่อนฟ้าสนธยา”
เวลา ๒๑.๐๐ น. จำวัด๏ งานปกครองคณะสงฆ์หลังจากที่พระอาจารย์สมภพได้อุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้ทุ่มเทกำลังในการพัฒนาผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ตามปณิธานที่ตั้งไว้ทั้ง ๒ แห่ง จนปัจจุบันนี้เป็นอารามที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์เหมาะแก่การปฏฺบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง พระอาจารย์สมภพได้สละลาภ ยศ ทุกอย่าง ไม่ได้เป็นพระครู, พระมหา หรือแม้แต่ตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านก็ปฏิเสธไม่ขอรับ โดยท่านเป็นเพียงประธานสงฆ์ที่มีอายุพรรษามากตามหลักธรรมวินัยเท่านั้น
ต่อมาในภายหลัง เมื่อมีผลงานทางด้านการเผยแผ่ธรรมออกไปอย่างแพร่หลายในวงกว้าง เป็นที่รู้จักของสาธุชนและบุคคลทั่วไป เจ้าคณะจังหวัดสกลนครจะขอพระราชทานสมณศักดิ์ถวาย ท่านก็ปฏิเสธไม่ขอรับ โดยกราบเรียนเหตุผลแก่เจ้าคณะจังหวัดสกลนครว่า “ผมไม่อยากได้ สิ่งที่ผมอยากได้ผมได้แล้ว”๏ งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาผลงานของท่านส่วนมากจะเป็นการเทศนาแล้วบันทึกเสียงไว้ ในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และปาฐกถาในหน่วยงานราชการต่างๆ ที่รวบรวมได้เป็นเรื่องเป็นหัวข้อจำนวน ๔๑๗ เรื่อง จะขอนำเสนอเรื่องที่เด่นๆ ที่จัดเป็นประเภทไว้ พอสรุปสังเขปดังนี้
๑. เวสสันดรปริทัศน์ (บุญมหาชาติ)
๒. อบรมพระหนุ่ม
๓. พุทธทำนาย (ความฝันที่เป็นจริง)
๔. ชีวิตเจียระไน
๕. สถานการณ์พุทธศาสนาในโลกยุคปัจจุบัน
๖. วิศกรรมห่าก้อม
๗. ปลดชนวนระเบิด
๘. ธรรมิกถาหน้าเชิงตะกอน
๙. บุญแจกข้าว กองหด
๑๐. วิสาขะรำพึง (เสียงอีสาน)(ซ้าย) พระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ ขณะพักรักษาอาการอาพาธ
ณ โรงพยาบาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
นอกจากนี้แล้ว ท่านยังรับกิจนิมนต์ไปแสดงธรรมในสถานที่ต่างๆ ทั้งใกล้ทั้งไกลทั่วประเทศ รวมทั้งในต่างประเทศด้วย ชีวิตจึงอยู่กับการเดินทางเป็นส่วนมาก การพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ ประกอบกับสุขภาพไม่ค่อยจะดี จึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ในขณะนั่งแสดงธรรมอยู่นั้นปรากฏว่าท่านสลบฟุบลงกับพื้น คณะศิษยานุศิษย์ได้นำท่านส่งโรงพยาบาล แพทย์ตรวจเช็คร่างกายพบว่าเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ทำให้ท่านเป็นอัมพาตระยะหนึ่ง
พอพื้นขึ้นมาก็พูดไม่ได้เพราะหลอดเสียงอักเสบ หูนั้นได้ยินคนพูดรู้เรื่องหมด แต่ท่านสื่อกับคนอื่นไม่ได้ เพราะร่างกายไหวติงส่วนแขนขาไม่ได้ หลังจากเวลาผ่านไปหลายวันมือเริ่มใช้งานได้ หมอก็เลยตรวจเช็คว่าท่านยังจำอะไรได้เป็นปกติหรือไม่ ก็เอาปากกากับกระดาษให้ท่าน ปรากฏว่าท่านเขียนได้ ทางด้านญาติโยมและคณะศิษย์ก็ดีใจที่พระอาจารย์ฟื้นขึ้นมาได้ เพราะปกติแล้วโอกาสที่จะฟื้นเป็นไปได้น้อยมาก
ปัจจุบันท่านสามารถพูดได้แล้ว แต่พูดได้ไม่ชัดถ้อยคำนัก ถ้าพูดเร็วก็จะรัวฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องนั่งรถวินแชร์ในการไปมา ซึ่งก็สามารถเดินได้บ้างแต่ต้องใช้ไม้เท้าช่วย บทบาทที่เคยเดินทางไปแสดงธรรมตามกิจนิมนต์ก็ไม่มีมากเหมือนแต่ก่อน เพราะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ยังคงเหลือแต่ผลงานการแสดงธรรมเก่าๆ ที่จัดทำเป็นเทป ซีดี วีซีดี เอ็มพี ๓ ฯลฯ ซึ่งมีความหลากหลาย ท่านแสดงธรรมได้ทุกระดับ ทั้งโวหารสำนวนและไหวพริบดีมาก เมื่อได้ฟังแล้วจะเห็นความแปลกใหม่อย่างน่าทึ่งมาก ท่านมีความเป็นพหุสูตรอย่างแท้จริง
พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) แห่งวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ครั้งหนึ่งยังเคยโทรศัพท์ไปนิมนต์พระอาจารย์สมภพให้ไปหาที่วัดสวนแก้ว พระพยอมบอกว่า “ถ้าท่านไม่มาหาผม ผมจะเป็นฝ่ายไปหาท่าน” เรื่องนี้ได้ยินในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาของท่านพูดคุยกัน
พระอาจารย์สมภพ ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม แห่งวัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา, หลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และ หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโท แห่งวัดสิงหารินทาราม ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ในอดีตก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ท่านเคยเป็นโฆษกนักจัดรายการวิทยุของสถานีวิทยุกระจายเสียง ๙๐๙ จ.สกลนคร ชื่อว่า รายการธรรมะเพื่อชีวิต ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนในเขตนั้นเป็นอย่างมาก
พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) แห่งวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี
หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม แห่งวัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
หลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโท แห่งวัดสิงหารินทาราม จ.บึงกาฬ
(มีต่อ ๓)