ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอพร ๑,๒๕๐ พระอรหันต์ "พุทธอุทยานพุทธชยันตี" นครนายก  (อ่าน 2685 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29310
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ขอพร ๑,๒๕๐ พระอรหันต์ "พุทธอุทยานพุทธชยันตี" นครนายก

ขอพร ๑,๒๕๐ พระอรหันต์ ๑ เดียวในโลกที่พุทธอุทยานพุทธชยันตี นครนายก
ท่องไปในแดนธรรม เรื่อง / ภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู


      "พุทธอุทยานสัมพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี" ตั้งอยู่ หมู่ ๓ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก บริเวณทางเข้าน้ำตกสาริกา เนื้อที่ประมาณ ๔๐ ไร่ โดยได้จัดสร้างพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ หน้าตักกว้าง ๙ เมตร และสร้างพระอรหันต์ จำนวน ๑,๒๕๐ องค์

      ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดสร้างพระพุทธรูป ที่ล้อมรอบด้วยพระอรหันต์ จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ดำเนินการจัดสร้างโดย พระราชพิพัฒน์โกศล หรือหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม บางขุนนนท์ กรุงเทพฯ
 
      ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๕ วันมาฆบูชา หลวงพ่อเณรได้จัดให้มีพิธีเทองทองหล่อพระเกตุพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ โดยได้ให้บุตรธิดาเจ้าพระคุณพ่อ (คุณพ่อ) เจ้าพระคุณแม่ (คุณแม่) ร่วมเททอง ขณะนี้ได้ดำเนิการสร้างแล้วเสร็จโดยจัดให้มีการสมโภช ๓ วาระ คือ
      วาระที่ ๑.วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ
      วาระที่ ๒.วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ และ
      วาระที่ ๓.เบิกเนตรสมโภชใหญ่พระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ในวันมาฆบูชา พ.ศ.๒๕๕๖





      "โครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาล้วนๆ พระอรหันต์ จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ได้มีผู้รับจองเป็นเจ้าภาพหมดภายใน ๒ เดือน มีผู้จองเป็นเจ้าคนเดียวมากถึง ๑๐๘ องค์ ที่สำคัญคือ ไม่มีใครถามถึงวัตถุมงคลสักรายเดียวเลยว่า เป็นเจ้าภาพแล้วจะได้รับพระอะไร ถือเป็นโครงการแรกและโครงการเดียวที่ไม่ต้องสร้างวัตถุมงคล" นี่เป็นคำยืนยันของหลวงพ่อเณร
 
      พร้อมกันนี้หลวงพ่อเณรยังบอกด้วยว่า พุทธอุทยานสัมพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี สร้างขึ้นเนื่องในมหาอภิสมัย พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในประเทศต่างๆ ที่มีชาวพุทธเข้มแข็งได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองในวาระนี้เป็นเวลา ๓ ปี ระหว่าง พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๕ เช่น ในประเทศศรีลังกา พม่า อินเดีย เป็นต้น
      ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างตื่นตัวและยิ่งใหญ่ รวมทั้งที่สำนักงานใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา ก็มีการจัดงานฉลองใหญ่ในช่วงวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา

 
      อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งที่พุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ หรือ พ.ศ.๒๕๐๐ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองรัฐบาลประเทศอินเดียยังได้สร้างสวนสาธารณะพุทธชยันตีไว้ที่กรุงนิวเดลี เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับวาระนี้ด้วย สำหรับรัฐบาลไทย จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ
      ด้วยการสร้างพุทธมณฑลเป็นอนุสรณ์สถาน ประกาศให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดยกำหนดให้วันพระหรือวันธรรมสวนะเป็นวันหยุดราชการและมีการพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทยครบชุดฉบับแรก เป็นต้น

 



      สำหรับการจัดสร้างพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ หน้าตักกว้าง ๙ เมตร และสร้างพระอรหันต์ จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ถือว่าเป็นการจัดสร้างครั้งแรกของโลก ส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ ขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ที่นี้มีการจัดสร้างรูปปั้นพระอรหันต์จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ด้วย ทั้งนี้หลวงพ่อเณร ได้กล่าวถึงอานิสงค์การจัดสร้างพระพุทธรูปว่า
   
     "อานิสงส์ของการจัดสร้างพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์และพระอรหันต์ที่มาในวัฏฏังคุลีชาดกว่า     
     บุคคลผู้สร้างทำพระพุทธรูปนั้น จะได้เป็นพระอินทร์ ๘ ครั้ง จะได้เป็นสมเด็จบรมจักรพรรดิ ๘๐ ชาติ หรือ ๑๐๐ ชาติ จะได้เป็นพระราชานับประมาณไม่ได้ ผลแห่งการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมพระพุทธรูป ไม่ควรคิดว่ามีค่าเท่าใด เพราะเป็นอจินไตย ประมาณไม่ได้"
 
     ส่วนโครงการต่อเนื่องที่หลวงพ่อเณรกำลังดำเนินการจัดสร้าง คือ สร้างพระอสีติมหาสาวก
     รวมทั้งปรับปรุงพื้นที่พุทธอุทยานสัมพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรม และสถานปฏิบัติธรรม
     พุทธศาสนิกชนร่วมบุญและสอบถามเส้นทางได้ที่อุทยานพระพิฆเณศ อ.เมือง จ.นครนายก                 
     โทร.๐๘-๘๔๐๐-๙๐๐๑-๘ หรือที่วัดศรีสุดารามวรวิหาร โทร.๐-๒๔๓๓-๕๙๑๙และ ๐๘-๑๙๐๖- ๖๙๗๔





พระอรหันต์ ๔ จำพวก
 
      หลวงพ่อเณรอธิบายให้ฟังว่า พระอรหันต์ (พระ-อะ-ระ-หัน) คือ ผู้ห่างไกลจากกิเลสแล้ว ผู้หักกำของวงล้องสังสารวัฏได้แล้ว ผู้ความแก่ปัจจัย ผู้ไม่มีความลับในเรื่องทำบาป ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระอริยบุคคลชั้นสูงสุด สามารถละสังโยชน์ได้ครบ ๑๐ ประการ ทั้งนี้ หากแบ่งพระอรหันต์ ตามคุณวิเศษจะได้ ๔ จำพวก คือ
 
      ๑.พระสุกขวิปัสสก (ไม่มีญาณวิเศษใดๆ นอกจากรู้การทำอาสวะให้สิ้นไป (อาสวักขยญาณ) อย่างเดียว) อานิสงส์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนาเพียงอย่างเดียว

      ๒.พระเตวิชชะ ผู้ได้วิชชา ๓ คือ
             ๒.๑ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ หมายถึง รู้ระลึกชาติได้
             ๒.๒ จุตูปปาตญาณ หมายถึง รู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลายอันเป็นที่เกิดจากการเข้าใจในกฎแห่งกรรมอย่างแท้จริงจึงรู้เหตุการณ์ที่จะเป็นไปได้ทั้งสิ้น และ
             ๒.๓ อาสวักขยญาณ หมายถึง รู้ทำอาสวะให้สิ้น อานิสงส์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนา และถือวัตรธุดงค์


     ๓.พระะฉฬภิญญะ หมายถึง ผู้ได้อภิญญา ๖ คือ
          -ทิพฺพจักขุ ตาทิพย์ คือ ฤทธิที่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ใกล้ไกลได้ มีพระอนุรุทธะ เป็นเอกทัคคะ เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านการมีตาทิพย์ คือ สามารถมองเห็นโลกใบนี้ ราวกับ มองเม็ดมะขามป้อมบนฝ่ามือ
          - ทิพยโสต หูทิพย์อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้ (
          - โดยเฉพาะมโนมยิทธิการแยกร่างและจิต เป็นฤทธิที่แสดงได้เฉพาะพระอรหันต์ประเภทฉฬภิญโญเท่านั้น
          - เจโตปริยญาณ (ทายใจผู้อื่นได้)
          - บุพเพนิวาสานุสสติญาณ (ระลึกชาติได้) และ
          - อาสวักขยญาณ (ญานที่ทำให้อาสวะสิ้นไป) อานิสงส์จากการปฏิบัติวิปัสสนาและเจริญสมาธิจนได้ฌานสมาปัตติ

 
     ๔.พระปฏิสัมภิทัปปัตตะ (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4) คือแตกฉานในความรู้อันยิ่ง ๔ ประการ ได้แก่
           - อัตถปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในอรรถ
           - ธัมมะปฏิสัมภิทาความแตกฉานในธรรม
           - นิรุตติปฏิสัมภิทาความแตกฉานในภาษา
           - ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในปฏิภาณไหวพริบ



ขอบคุณบทความและภาพจาก
www.komchadluek.net/detail/20120831/138954/ขอพร๑,๒๕๐พระอรหันต์พุทธอุทยานพุทธชยันตีนครนายก.html#.UEGCvqDvolh
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7283
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เป็นสถานที่ แสดงถึงศรัทธา ของชาวพุทธเพียง 20 % ที่ได้ร่วมกันจัดทำ
ได้ยินมาว่า ชาวพุทธในประเทศมีเพียง 20 % จริงหรือไม่ จำไม่ได้ว่า โพลล์ไหนสำรวจเรื่องนี้

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ