พิมพ์

[raponsan]

ฮือฮา! พญานาคโผล่กลางหนองหาร ต่อหน้าคณะรองนายกเล็ก

รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสกลนคร พาคณะกว่า 40 ชีวิต ลงเรือไปดูดอนสวรรค์ ขณะแล่นเรืออยู่กลางหนองหาร ทุกคนบนเรือต้องตกตะลึง เนื่องจากมีเกลียวคลื่นซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพญานาค โผล่ขึ้นมาให้เห็นถึง 2 รอบ...

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 2555 นายวิบูลย์ แต้ศิริเวชช์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสกลนคร นำคณะซึ่งประกอบไปด้วย นักวิชาการ ประชาชน และสื่อมวลชน ลงพื้นที่เพื่อไปดูสภาพความเป็นจริงของเกาะดอนสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่กลางหนองหาร ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กม. ซึ่งในการไปครั้งนี้ นายวิบูลย์ได้ประกาศเชิญชวนทางเฟซบุ๊กว่าจะมีการเดินทางไปชมตะวันรอนที่หนองหาร และดูสภาพความจริงบนเกาะดอนสวรรค์

ซึ่งมีผู้พยายามจะออกโฉนดที่ดินบนเกาะเป็นที่ธรณีสงฆ์ ที่กล่าวกันว่าจะมีการสร้างพุทธมณฑลดอนสวรรค์ แต่มีประชาชนออกมาคัดค้านเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าดอนสวรรค์เป็นมรดกของชาวสกลฯ และเป็นตำนานอยู่คู่ทะเลสาบหนองหารมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

ทั้งยังได้ประกาศพื้นที่ นสล. และ ครม.ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ใครก็ตามไม่สามารถจะออกโฉนดที่ดินได้ ปรากฏว่ามีผู้สมัครใจที่จะเดินทางไปดอนสวรรค์กว่า 100 คน แต่เรือสามารถบรรจุได้เพียง 40 คน เท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างเดินทางใกล้จะถึงเกาะดอนสวรรค์ ห่างประมาณ 2 กม. ได้เกิดปรากฏการณ์ที่ทุกคนในเรือต้องตกตะลึง เมื่อปรากฏเกลียวคลื่นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 50 ซม. ยาวประมาณ 50 เมตร ห่างจากเรือประมาณ 100 เมตร โดยคลื่นดังกล่าวคล้ายงูขนาดใหญ่ว่ายอยู่กลางหนองหาร ปรากฏอยู่นาน 3 นาที ก่อนที่จะค่อยๆ หายไป

สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นต่างก็ยกมือพนมท่วมหัว โดยทุกคนต่างก็เชื่อว่าเป็นพญานาคปรากฏให้เห็น ทำนองบอกกล่าวว่าจะมีเภทภัยมากล้ำกรายดอนสวรรค์ ขอทุกคนจงช่วยปกป้องรักษาไว้เป็นตำนานคู่หนองหารต่อไป

จากนั้นเมื่อเรือกำลังจะเข้าถึงดอนสวรรค์อีกประมาณ 1 กม. คณะได้มองออกไปก็พบกับปรากฏการณ์เหมือนกับที่พบในครั้งแรกอีก แต่ครั้งนี้มองเห็นในระยะไกล ลักษณะคล้ายกับเกลียวคลื่น ยาวกว่าครั้งแรก แต่ลำตัวเล็กกว่า เกิดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ยาวเกือบ 100 เมตร ปรากฏอยู่ประมาณ 5 นาที

ซึ่งตรงกับก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ได้มีพญานาคเข้าสิงสุภาพสตรีท่านหนึ่งในอำเภอเต่างอย ระบุชื่อพญานาคชื่อปู่นาคิน เป็นเพื่อนกับปู่อือลือที่ อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย และสุทโธนาคราช ที่หนองหาร และว่าใครที่จะคิดมิดีมิร้ายต่อดอนสวรรค์หรือใครจะมาทำอะไรกับดอนสวรรค์ไม่ได้ จะตามไปหักคอทุกภพชาติ

อย่างไรก็ตาม นายวิบูลย์ แต้ศิริเวชช์ ได้นำคณะขึ้นบนเกาะดอนสวรรค์ เพื่อตรวจสอบว่าขอนไม้ยางนาที่ล้มลงมาวันนี้ มีการเลื่อยตัดส่วนปลายต้นออก และต้นมะพร้าวที่ถูกตัดเป็นท่อนวางกองรวมไว้อีกที่ จึงแจ้งกับพระที่ออกมาคอยถ่ายรูปคณะที่ขึ้นมาบนดอนสวรรค์ ไม่เว้นผู้สื่อข่าวและช่างภาพ ที่ติดตามไปทำข่าว

และได้พบกับสภาพพื้นดินที่ขาวโพลนในบริเวณใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ เป็นบริเวณกว้าง มีศาลาไว้เป็นที่พัก สำหรับทำกิจและเป็นที่รับรอง มีพระประธานเป็นพระพุทธชินราช ส่วนด้านหน้าพระประธาน มีรูปปั้นคล้ายกับหลวงพ่อสด ถือลูกแก้วตั้งอยู่หน้าพระประธาน มีพระพี่เลี้ยงนั่งรับรองผู้คนเดินทางมา

นายวิบูลย์ได้แจ้งให้กับพระหัวหน้าทราบว่า การตัดไม้ทำลายสภาพแวดล้อมบนเกาะดอนสวรรค์ จะทำโดยพลการไม่ได้ เป็นความผิดตามกฎหมาย จึงแจ้งเตือนไม่ให้กระทำการเช่นนี้อีก เมื่อเดินลึกเข้าไปอีก พื้นดินใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่นโดนแพ้วถาง ดายหญ้าออกแทบจะโล่งเตียน ลูกไม้ที่หล่นลงมาจากต้นยางนา บางส่วนกำลังงอกงามตามฤดูกาล ที่รอดจากการแพ้วถางและจุดไฟเผา รอดตายเป็นบางส่วน บางต้นตรงโคนต้นโดนเผามาก่อน โดยมีสภาพกองไฟเก่าให้เห็นเป็นระยะ

ส่วนบริเวณโดยรอบมีพระบางส่วนกำลังทำท่าเหมือนกับจะโกนผมให้กันอยู่ที่วันนี้เป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ

ผู้สื่อข่าวเดินสำรวจพบไก่ป่าจำนวนหนึ่งอยู่หลังชายป่าใกล้กับที่อาบน้ำ ที่ขึงผ้ากั้นไว้แยกกับบริเวณที่เป็นเขตของพระที่จำพรรษาอยู่ภายในตาข่ายสีเขียว และสีดำ

ในขณะที่โลกสังคมออนไลน์มีผู้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า มีข้อเปรียบเทียบในขณะที่พระบ้านทั่วไปออกบิณฑบาตในงานบุญข้าวสาก ซึ่งเป็นบุญประเพณีของชาวภาคอีสาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว

แต่มีพระภิกษุอีกกลุ่มหนึ่ง แต่งกายรัดกุม สีสันจีวรแตกต่างจากพระภิกษุทั่วไป เข้าไปนั่งฉันอาหารในโรงแรมชื่อดังกลางเมืองสกลนคร ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่จะปฏิเสธไม่ได้ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/295108

[raponsan]

พ่อเมืองสกลอึ้ง! เห็นเกลียวคลื่นคล้ายพญานาคกลางหนองหาร

คณะพ่อเมืองสกลฯ รวม 50 ชีวิต  ลงเรือสำรวจสภาพแวดล้อมกลางหนองหารและร่วมทำบุญในวัดกลางเกาะ  ต้องตกตะลึงเมืื่อขากลับพบเห็นเกลียวคลื่นตรงจุดเดิมที่คนส่วนใหญ่เชื่อเป็นพญานาค มาแสดงปาฏิหาริย์เป็นบุญตา...

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.  นายจรินทร์ จักกะพาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนางวิตยา ประสงค์วัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัด  หัวหน้าส่วนราชการ และคณะผู้แสวงบุญ จำนวน  50 คนลงเรือเฟอรี่ มุ่งหน้าวัดดอนสวรรค์ กลางหนองหาร จังหวัดสกลนคร

เพื่อสำรวจพื้นที่โดยรอบเกาะเพื่อพัฒนาวัดในเกาะกลางหนองหารให้เป็นสถานปฏิบัติธรรมแบบครบวงจร และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะของจังหวัดสกลนคร รวมถึงตรวจดูสภาพน้ำของหนองหาร ตามแผนแม่บทเกี่ยวกับการพัฒนาลุ่มน้ำหนองหาร จากนั้นได้ร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ วัดดอนสวรรค์ และสวดมนต์ปฏิบัติธรรมภายในโบสถ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเดินทางกลับคณะของผู้ว่าฯ ได้พบเห็นเกลียวคลื่นกลางหนองหาร บริเวณจุดเดิมที่หลายคนได้ประสบพบเจอจนสร้างความฮือฮาซึ่งส่วนใหญ่ต่างเชื่อกันว่า เป็นพญานาค มาแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็น 

โดยนายจรินทร์ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นกับตามาก่อน  มีแต่ได้เห็นทางสื่อเท่านั้น  ซึ่งส่วนตัวมีความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะพญานาคในหนองหารแห่งนี้  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักษ์รักษาพี่น้องชาวสกลนคร รวมถึงรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา อันมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

   "วันนี้ถือเป็นบุญตาของผมที่ได้สัมผัสถึง บางคนอาจคิดว่าสิ่งที่เห็นอาจเป็นเกลียวคลื่นธรรมดาหรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่สำหรับผมแล้วเชื่อว่าท่านมีอยู่จริง และไม่ลบหลู่เด็ดขาด ผมพร้อมผลักดันวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านรวมถึงความเชื่อของชาวอีสานให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไป ตราบที่สิ่งนี้ยังเป็นคุณประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนที่อยู่กับผืนน้ำแห่งนี้รักและหวงแหนหนองหาร ให้สมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านอยู่คู่กับคนสกลนครมาช้านาน".


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.thairath.co.th/content/region/259131

[raponsan]

ตะลึง ! พญานาคโผล่ 'หนองหาร' แสงระยิบระยับนาน 5 นาที

นักท่องเท่ียวกว่า 30 ชีวิต ล่องเรือทำบุญหนองหาร ตกตะลึงเมื่อเห็นคลื่นน้ำเป็นเกลียวโผล่ขึ้นเหนือน้ำ ยาว 100 เมตร นานกว่า 5 นาที มีสีเงินสีทองระยิบระยับลักษณะคล้ายครีบ เชื่อปู่พญานาคแสดงอภินิหาร ต่างพนมมือไหว้ท่วมหัว ขณะที่รอง ผวจ.สกลนคร นำคลิปเหตุการณ์มาดูด้วยความสนใจ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 เม.ย.2555 ขณะที่นายทวีพงษ์ นวานุช อดีตข้าราชการครู และประธานชมรมคนรักหนองหาร จ.สกลนคร ได้พานักท่องเที่ยวกว่า 30 ชีวิต ลงท่องบึงหนองหาร อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อไปทำบุญที่เกาะดอนสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่กลางบึงหนองหาร

ขณะที่เรือแล่นไปใกล้เกาะดอนสวรรค์อีก 1 กม. ปรากฏมีคลื่นน้ำเป็นเกลียวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำสูงประมาณ 40 ซม. ยาวประมาณ 100 เมตร ลักษณะเป็นสีเงินสีทองระยิบระยับ ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำนานกว่า 5 นาที

ระหว่างนั้น นายวิศักดิ์ แก้วศิริ พนักงานบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัด หนึ่งในนักท่องเที่ยวได้หยิบกล้องวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ระยะห่างประมาณ 200 เมตร รวมถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ในเรือได้หยิบกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือเก็บภาพ พร้อมพนมมือไหว้

ด้านนายวิศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนจะล่องเรือออกไป ตนได้จุดธูป 9 ดอก เพื่อบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกป้องบึงหนองหาร ซึ่งหมายถึงพญานาคให้ปกป้องคุ้มครองตลอดการเดินทาง ทั้งขาไปและกลับ เพราะต้องการไปทำบุญ อีกทั้งยังได้ถวายดอกบัวเพื่อบูชาพญานาค และอธิษฐานว่าหากมีบุญก็ขอให้ปู่พญานาคได้แสดงอภินิหารปรากฏตัวให้เห็นด้วย

และมาทราบภายหลังว่า คนอื่นๆ ก็อธิษฐานเช่นกัน เมื่อแล่นเรือไปใกล้ดอนสวรรค์ บริเวณเดียวกับที่นายคำรณ หว่างหวังศรี พิธีกรช่อง 3 เคยมาบันทึกรายการ และพญานาคได้ปรากฏให้เห็น จู่ๆ เครื่องยนต์เรือก็เบาลง และดูเหมือนติดขัด จังหวะนั้นหลายคนที่อยู่บนดาดฟ้าได้กรูกันไปที่ท้ายเรือเพื่อมองดูเกลียวคลื่นซึ่งทำให้ทุกคนตะลึง

สำหรับเกลียวคลื่นดังกล่าวยาวประมาณ 100 เมตร และยกตัวขึ้นมาเหนือน้ำประมาณครึ่งเมตร มีลักษณะผลุบขึ้นผลุบลง ไม่ใช่เลื้อยส่ายไปส่ายมา และยังมีสีคล้ายสีทองส่องแสงระยิบระยับ มีลักษณะคล้ายครีบ ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นนานกว่า 5 นาที ก่อนที่จะค่อยๆ จมหายไป ทำให้ทุกคนต่างยกมือขึ้นเหนือศีรษะ รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้เห็น

ขณะที่ น.ส.ปลงใจ สมศรี อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 1 บ.กุงศรี ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และกลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ยินข่าวว่ามีการพบพญานาคที่บึงหนองหาร จึงเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวและญาติพี่น้องประมาณ 10 คน กระทั่งได้เห็นในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะพบพญานาคจริงๆ และสิ่งที่เห็นมั่นใจว่าไม่ใช่คลื่นของเรือแต่อย่างใด เนื่องจากเกิดขึ้นในแนวขวางตัดกับเส้นทางการวิ่งของเรือ และอยู่ห่างจากท้ายเรือมากนับร้อยเมตร

นายทวีพงษ์ นวานุช ประธานชมรมคนรักหนองหาร จ.สกลนคร  เล่าว่า ขณะที่เห็นในครั้งแรกนั้นไม่ชัดเจนเท่าใดนัก แต่ในครั้งนี้ได้ปรากฏนานมากประมาณ 5 นาที และมีประกายระยิบระยับ ทั้งๆ ที่ไม่มีแสงแดด และพื้นน้ำไม่มีคลื่นลมแต่อย่างใด และที่สำคัญคลื่นของเรือไม่มีในขณะเกิดปรากฏการณ์ 

ทั้งนี้ ในพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมพิธีกว่า 2 หมื่นคน เพื่อรอชมพญานาค แต่ต้องผิดหวัง ปรากฏเป็นเพียงก้อนเมฆคล้ายพญานาคขี่ครุฑ ซึ่งแม่ชีนิรนามบอกว่า ในวันนั้น คนที่มาชมส่วนหนึ่งได้พูดจาลบหลู่พญานาค ว่าถ้าแน่จริงทำไมไม่โผล่ขึ้นมาให้ดู และคนที่มาชมส่วนใหญ่ต้องการมาเห็น ไม่ได้มาด้วยความเชื่อความศรัทธา

ประกอบกับการบวงสรวงทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากการบวงสรวงพญานาค ห้ามมีของคาว เพราะพญานาคไม่ใช่สัมภเวสี แต่ท่านจำศีลอยู่ การใช้หัวหมูเป็นเครื่องสังเวย การนำปลาปิ้งมาบวงสรวง และการนำไข่ไก่มาบวงสรวงนั้นไม่ถูกต้อง ในวันทำพิธีบวงสรวง ท่านก็ขึ้นมาเช่นกัน แต่อยู่ไกลมาก คนที่มารอชมอาจจะมองไม่เห็น แต่ก็มีพญานาคบริวารขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึก แต่หลายคนไม่รู้สึก

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นางวิตยา ประสงค์วัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ซึ่งกลับจากตรวจเยี่ยม บขส.ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ติดตามถามหานำคลิปบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวมาดูด้วยความสนใจ

 
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/253653