« เมื่อ: ตุลาคม 24, 2012, 03:05:40 pm »
0
มูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา ชู "วัดอรุณฯ" มรดกวัฒนธรรม
"วัดอรุณราชวราราม" ตั้งอยู่เลขที่ 34 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณฯ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
เป็นวัดไทยอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นหน้าเป็นตาของเมืองไทย มีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกล่าวขวัญถึงความโดดเด่นของพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่ปรากฏริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานครด้วย
ด้วยความสำคัญดังกล่าว มูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา (Tokugawa Museum) ประเทศญี่ปุ่น จึงได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1 ล้านเยน หรือประมาณ 4 แสนบาท เพื่อบูรณะซ่อมแซมพระพุทธรูป จำนวน 23 องค์ ภายในวัดอรุณฯ ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัย เมื่อช่วงปลายปี 2554 และ ดร.อรสุดา เจริญรัถ ผอ.กองโครงการสัมพันธ์ สำนักราชเลขาธิการ ได้เดินทางไปรับมอบเงินจำนวนดังกล่าวที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ มูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา ได้มอบหนังสือรับรองจากมูลนิธิให้เป็นเหตุการณ์สำคัญของชาติ ถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์สำคัญอีกครั้งหนึ่งถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศส่งมายังวัดอรุณฯ ด้วยในใบรับรองดังกล่าวมีใจความสำคัญว่า
"ตามที่คณะกรรมการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมมรดกทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์โทคุกาวาได้เสนอให้วัดอรุณฯ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรได้รับความช่วยเหลือเพื่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูประจำปี 2555 เนื่องจากเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรเก็บรักษาไว้นั้น ทางคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วและมีมติที่จะให้ความช่วยเหลือดังกล่าว จึงขอรับรองว่าวัดอรุณฯ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือเพื่อการซ่อมแซมและฟื้นฟู"
ลงนามโดย นายมาริมาสะ โทคุกาวา ผู้อำนวยการใหญ่มูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่วัดอรุณราชวราราม นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้แทนในการถวายใบรับรองจากมูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา ประเทศญี่ปุ่น ให้วัดอรุณราชวราราม แด่พระเทพมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
นพ.เกษมกล่าวว่า มูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา เป็นมูลนิธิที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นตระกูลหนึ่งของโชกุน ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อครั้งโชกุนอิเอยะสึ โทคุกาวา ได้เสียชีวิตลง ลูกหลานได้มีการรวบรวมสิ่งของ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์โทคุกาวาขึ้น ซึ่งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวยังมีมูลนิธิคอยช่วยเหลือฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ โดยหวังว่า มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ จะยังคงอยู่สืบไปให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ซึ่งวัดอรุณราช วราราม ถือเป็นโบราณสถานของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง ที่ได้รับการช่วยเหลือเพื่อการซ่อมแซมและฟื้นฟู ประจำปีนี้ เนื่องจากมูลนิธิดังกล่าวเห็นว่า พระพุทธรูปในโบสถ์น้อยได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม จึงประสานผ่านมาทางมูลนิธิพระดาบส เพื่อถวายเงินในการซ่อมแซมบูรณะ พร้อมทั้งได้ส่งช่างชาวญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในการบูรณะพระพุทธรูปมาช่วยดำเนินการในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้รับทราบว่า สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้มาจดบันทึกการบูรณะวัดอรุณฯ และการมอบหนังสือรับรองจากมูลนิธิพิพิธภัณฑ์โทคุกาวา ให้เป็นเหตุการณ์สำคัญของชาติ ถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์สำคัญอีกครั้งหนึ่งถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่น
พระครูอรุณธรรมานุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ กล่าวว่า มูลนิธิโทคุกาวา แจ้งว่าหากจำนวนเงิน 1 ล้านเยน ไม่เพียงพอการบูรณะครั้งนี้ ก็พร้อมที่จะถวายเงินอีก 1 ล้านเยน สำหรับการบูรณะวัดอรุณราชวราราม พระเทพมงคลรังษี ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในการบูรณะเขตพุทธาวาส ในเบื้องต้นคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานอันเนื่องมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้อนุมัติในหลักการว่าจะให้ช่วยเหลือบูรณะเขตพุทธาวาสของวัดอรุณฯ แล้ว
"อาตมาอยากให้หอจดหมายเหตุแห่งชาติ แปลหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการ เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติเก็บไว้ให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษาว่า ตระกูลโชกุนใหญ่ในญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับวัดอรุณฯ ถือเป็นโบราณสำคัญที่คนไทยและชาวต่างชาติต่างเห็นว่า เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยและเป็นมรดกที่ควรค่าแก่การรักษาไว้"
อย่างไรก็ตาม ได้รายงานให้พระเทพมงคลรังษี ทราบว่าการบูรณะใน 3 ส่วน ได้แก่ พระปรางค์ เขตพุทธาวาส และเขตสังฆาวาส มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแลแล้ว จึงอยากให้ทางวัดสบายใจได้ว่า วัดแห่งนี้จะเป็นโบราณสถานที่สำคัญอยู่คู่กับคนไทยตลอดไปขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREl5TVRBMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNQzB5TWc9PQ==