ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเป็นพระอรหันต์ ได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ครับ  (อ่าน 8013 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การเป็นพระอรหันต์ ได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ครับ
  อาจจะถามแบบเด็กไปหน่อยครับ แต่ก็อยากให้ ช่วยชี้แนะด้วยครับ ว่าถ้าต้องการเป็นพระอรหันต์แล้ว ควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร บ้างครับ

  :c017:
บันทึกการเข้า

tewada

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 75
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีิวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

  นี่เป็นคุณสมบัติของพระอรหันต์ ... เรียกว่า อริยะมรรค

  :s_hi: :67:
บันทึกการเข้า

sakda

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 98
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 พระอริยบุคคลทุกชั้นจะมีสติสัมปชัญญะตลอด ไม่ว่า จะเดิน ยืน นั่ง นอน  เพราะถ้าขาดสติ คงไม่ใช่พระอรหัตต์แล้วมั่งครับ...

    หรือแม้แต่จะ "ยิ้ม"  ยังถือว่า "ยิ้มยาก"  เพราะ้ถ้าไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์แก่หมู่ชน ท่านจะแค่ "แย้ม"  ที่มุมปากเท่านั้น

    จะไม่มีทางที่จะได้เห็น  "ฟัน" ของพระอรหันต์ ในลักขณะ "ยิ้ม" เป็นอันขาด

    ถ้าพระภิกขุรูปใด มาบอกว่าเป็น "พระอรหันต์"  แล้ว พูดไป หัวเราะไป จนเห็น "ไรฟัน"  เรียงกันเป็นแถว   บอกได้เลยว่า "นั่นไม่ใช่พระอรหันต์" แล้ว  เป็นคนหลอกลวงดี ๆ นี้เอง.
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7263
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การเป็นพระอรหันต์ ต้อง มีคุณสมบัติดังนี้

  1.ปฏิบัติตามพระอริยมรรค ( พระอรหัตตมรรค )

  2.มีความเข้าใจและแจ้ง ธรรม อริยะสัจจะ 4 ( ระดับ อรหัตตมรรค )
 
  3.เป็นพระอนาคามี

  4.ละสังโยชน์ 5 ประการ

  5.รู้จักธรรมเรียกว่า อนามิผล และ อรหัตมรรค

  6.ได้เจริญ ผลสมาบัติ โพชฌงค์ ของพระอนาคามี

  7.รู้ธรรมเรียกว่า สัจจานุโลมิกญาณ ทบทวนการเป็น พระอนาคามีแล้ว

  เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอ นะจ๊ะ

   :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 27, 2012, 10:55:26 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ครูอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง
       ว่าธรรมนั้น ไม่อาศัยรูปแบบ ถ้าอาศัยรูปแบบก็ไม่ใช่ธรรม
          ธรรมแปลว่า ของแท้ของจริง
รูปแบบ นั้นคือการตั้ง สมมุติฐาน เป็นสมมุติบัญญัติ มิใช่ปรมัตถ์
       เพราะปรมัตถ์ ไม่มีรูปแบบ

             หลวงพ่อพุธ  ทําไมร้องให้โฮๆ ได้ ไม่เห็นมีรูปแบบ
             ทําไมปู่โต จับตังค์ได้  ไม่เห็นมีรูปแบบ
              ทําไม หลวงปู่ศุข จับตังค์ได้ ไม่เห็นมีรูปแบบ
              ทําไมหลวงตาบัว เทศน์ไปหัวเราะไป  ท่านเคี้ยวหมากฟันดํา ไม่เห็นมีรูปแบบ

              การ fix มันบีบรัด
              ปล่อย free สบายตัวกว่า

       แหมลง ถ้าต้อง ระวัง ทั้ง ยืนนอนนั่งเดิน และต้องกําหนดให้เป็น ห้ามยิ้ม ห้ามหัวเราะ แล้วมันจะสบายตัวรื้อ
     
        การกําหนดให้เป็น คงเป็นทุกน่าดู

        แล้วถ้าเวลาปวดท้อง จะกําหนด ยังไง

        กําหนดตัวเอง ยังกําหนดยากเลย ถ้ากําหนดคนอื่น หรือผู้อื่น  ก็ไม่ได้ทิ้งสมมุติ
       
        และไอ้เรื่องสมมุติ มันก็ไม่ใช่เรื่องจริง


        กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ถ้าสําเร็จ สามห้องแรก เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น มีกายจิต หรือ กายใจ แคล่วคล่อง ว่องไว กายใจ ควรแก่การงาน.......ยถา.......เมื่อเข้าถึงทุกข์......ก็ถึงความจริง
        พระพุทธองค์ ตรัสไว้ว่า พระอรหันต์ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น (ผู้เบิกบาน)

             แล้วทําไมพระอรหันต์ จะหัวเราะเห็นฟันไม่ได้ จะต้องระวัง กลัวคนเห็นฟันไปทําไม เพราะท่านไม่มีสุขมีทุกข์แล้ว

            ท่านเบิกเบาน ท่านคงไม่ต้องระวังอะไรอีกแล้ว

              เพราะสติปัญญาของท่านเป็นอัตโนมัติ เป็น ออโต้

             ถ้าต้องระวังก็คงเป็น แบบ แมนนวล ไม่ใช่ ออโต้

              ที่ว่า แมนนวล ก็คือ กําหนด ให้เป็น แบบนั้นไม่ใช่ สติอัตโนมัติ ไม่ใช่ สติออโต้

               สติอัตโนมัติ คงไม่ต้องระวัง

               เพราะพระอรหันต์ ท่านไม่มีสุขไม่มีทุกข์
 สรุปว่า ท่านไม่มีรูปแบบ ท่านจะทําอะไร ยังไงก็ได้ และก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใคร
 ใครจะมองยังไง ก็เป็นเรื่องของใคร ไม่ใช่เรื่องของท่าน
  เพราะท่านคงไม่ได้มีทุกอะไร กับใคร
             
             
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 
    พระอรหันต์ ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไม่เสพสิ่งเสพติด ไม่รับเงิน และทอง ไม่ยุ่งกับโลก ที่สำคัญเวลาแสดงธรม จะพูดแต่เรื่อง โลกุตตรธรรม เท่านั้นครับ

     :49:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
พระสารีบุตร สำเร็จพระอรหันแล้วทำไมจึงกระโดดข้ามธารน้ำ เหมือนจะแสดงอาการที่ไม่เรียบร้อย นี้ เป็นแค่หนึ่งตัวอย่าง ยังมีอีกมากอีกหลายท่าน ลองช่วยกันพิจารณาดู
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
 
    พระอรหันต์ ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไม่เสพสิ่งเสพติด ไม่รับเงิน และทอง ไม่ยุ่งกับโลก ที่สำคัญเวลาแสดงธรม จะพูดแต่เรื่อง โลกุตตรธรรม เท่านั้นครับ

     :49:

   ตรงนี้เป็นพระอรหันต์ ในอุดมคติ ผมมาเกือบ 35 ปี ที่ผมวนเวียนไปวัด ในสายธรรมยุต อยู่ตลอดมาครับ อาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณแสดงไว้ก็ได้นะครับ

     พระอรหันต์ สงบนิ่ง อย่างท่านกัสสปะ
     พระอรหันต์ พูดเยอะ อย่างท่าน พระสารีบุตร
     เป็นต้น ผมว่าเป็นไปตามนิสัย นะครับ เรียกว่า จริตวาสนา ที่ติดมา

   :s_hi:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ที่ทุ่มเถียงกันอยู่ ทุกอย่างมัยเกี่ยวกับการเหนือธาตุ และการสัมปยุตธาตุธรรมในฐานจิต พอได้วิปัสสนาญาณแล้วแก้ไขไม่ได้
        กสินก็เเข็งแบบกสินเพราะไม่ได้ฝึกแบบบริกรรมมา พูดไม่เป็น เลยพูดน้อยแค่ที่ถาม
        มัชฌิมาบริกรรมวิตก ใช้นิมิตสามประการ จนเป็น ปถวีกสินเช่นกัน  ก็ได้กสินเหมือนกัน แต่มีแสงในตังไม่ต้องเพ่ง
พูดเก่ง เพราะมาแบบคําบริกรรมปถวี หรือบริกรรม
         ที่แข็งที่อ่อนมันเกี่ยวกับกรรมฐานโดยตรง
ได้แล้วได้เลยแก้ไขไม่ได้


        มหาอภิญญาสมาบัติ นั่งพูดทั้งวันทั้งคืนก็ไม่เหนื่อย บางองค์กวาดวัดทั้งคืนก็มี เพราะทําดินเป็นอากาศได้ และทําอากาศเป็นดินได้
        เข้าธาตุออกธาตเก่ง

        อย่างกรรมฐานมัชฌิมา มีการสับธาตุมากมายหลายแบบ มันเกี่ยวกับ ความแคล่วคล่องและควรแก่การงาน ตามความเป็นจริง

         ก็ขอเล่าทิ้งไว้แค่นี้อย่าไปเถียงกัน เพราะมันไม่จบ

         เอาเป็นว่ารู้ๆก็พอ เพราะมันเกี่ยวกับกรรมฐาน


 
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา